http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,000,397
Page Views16,309,081
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จากใจถึงใจกับคำว่าเพื่อน โดยอึ่งกั๊ดเม่า เรื่อง-ภาพ

จากใจถึงใจกับคำว่าเพื่อน โดยอึ่งกั๊ดเม่า เรื่อง-ภาพ

จากใจถึงใจกับคำว่าเพื่อน

อึ่งกั๊ดเม่า

            ผมได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่หน่วยปรับปรุงต้นน้ำห้วยสามสบ อ.นาน้อย จ.น่าน เมื่อเดือนตุลาคม 2521 อันเป็นเดือนต้นปีงบประมาณ 2522 ต้องปลูกป่าต้นน้ำ 1,000 ไร่ บำรุงสวนป่าต้นน้ำที่ปลูกไปแล้วอีก 4,700 ไร่ ผมเดินทางไปด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เพราะว่านี่ครั้งแรกที่ผม “ได้เป็นหัวหน้าหน่วยกับเขาสักที”  หลังจากวิ่งตามเพื่อนๆจนเหนื่อย


            เมื่อผมไปถึงและรับมอบงานเดิมจากรุ่นพี่ ได้สวนป่าต้นน้ำมา 4,700 ไร่ ด้วยความกระดี้กระด้ามาก โดยไม่รู้เลยว่า สวนป่า 4,700 ไร่นั้นมีต้นไม้อยู่ครบถ้วนตามกรอบงานหรือไม่ ดีใจจนเนื้อเต้นกับคำว่าหัวหน้า จึงขาดความรอบคอบในการรับมอบหมายงานเดิม เห็นแต่ที่ทำการเป็นบ้านไม้สองชั้น กั้นห้องนอนไว้ 2 ห้อง ห้องส้วมชั้นบนหนึ่งชั้นล่างหนึ่ง ก็โอเค

             หน่วยงานของผมสังกัดกองอนุรักษ์ต้นน้ำ ซึ่งเป็นส่วนกลาง เบิกเงินโดยตรงจากกรมป่าไม้  จังหวัดน่านและป่าไม้จังหวัดน่านเป็นเพียงหน่วยราชการที่ต้องประสานงานกัน โดยเฉพาะ ป่าไม้เขตแพร่ ไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ไม่ทันจะพ้นเดือน มีบุรุษหนึ่งผิวคล้ำ ผมหยิกหยักโสก ตำแหน่งป่าไม้เขตแพร่ ชื่อท่านอุดม หิรัญพฤกษ์ ได้แวะเข้ามาเยี่ยม


             “ผมแวะมาเยี่ยม เห็นว่าเป็นหน่วยปรับปรุงต้นน้ำของผอ.อุทัย จันผกา เพื่อนผม ไม่ได้มาตรวจงานคุณนะ” แล้วท่านก็เดินไปที่แผนที่สวนป่า ผลงานดั้งเดิมที่ผ่านมา 7 ปี(2514-2521) ผมรายงานว่ารับมอบงานมาแล้ว 4,700 ไร่ ครับ ท่านเอ่ยขึ้นว่า ผมวิ่งรถมาตลอดเส้นทางไม่เห็นสวนป่าสักแปลง มันอยู่ที่ไหนหรือ”


               พอผมชี้ให้ดูแผนที่ แล้วอธิบายว่าเป็นสวนป่าปลูกแล้ว 4,700 ไร่ ท่านหัวเราะแล้วบอกว่า “ไม่มีต้นไม้เลย รับมอบงานอย่างนี้ เอาเชือกผูกคอตายซะดีกว่า” แล้วก็หัวเราะในความไร้เดียงสาของผม ผมเขินจนตอบไปว่า เมื่อรับมาแล้วผมจะแก้ไขปลุกใหม่ครับ แล้วเราก็จากกันไปตามเส้นทางของใครของมัน


                ผมมานั่งไตร่ตรองถึงผลงานในอดีต 7 ปี 4,700 ไร่ มีต้นสนสามใบหน้าหน่วยอยู่หย่อมหนึ่ง มีสวนป่าไม้แดงและประดู่อีกแปลง 2514 ผมขับรถออกไปตามคำแนะนำของผู้ช่วยและหัวหน้าคนงาน ยิ่งเห็นก็ยิ่งตรอมใจ ไม่มีต้นไม้เลยหรือนี่ ผมตัดสินใจแก้ไขด้วยความตั้งใจ จะปลูกป่า 1,000 ไร่ตามงบประมาณใหม่ปี 2522 แต่จะเจียดเงินที่เหลือเพาะกล้าไม้เพิ่มและปลูกซ่อมสวนป่าเก่าใหม่อีกครั้ง เอาแต่ด้านหน้าถนนก็แล้วกัน


              แต่พอผมเริ่มต้นวางแปลงจะปลูกป่าที่ห้วยสามสบใต้ ก็เกิดมวลชนคนรอบๆพื้นที่เขตหน่วย 13 หมู่บ้านเดินขบวน เพื่อให้ระงับการปลูกป่า เพราะว่าไปแย่งพื้นที่ไร่ข้าวและข้าวโพดของเขามาปลูกป่าขึ้นใหม่ เขาให้เหตุผลว่า นาน้อยมีแต่ดอย ที่ราบมีเพียง 10% จึงต้องทำกินบนเขา ผมเถียงว่า พื้นที่ไร่เลื่อนลอยเหล่านี้บุกรุกป่าต้นน้ำห้วยสามสบ เกิดกรณีพิพาทกัน


              คนนำเดินขบวนเป็น สจ.คำ เขตอ.นาน้อย หาเสียงเลือกตั้ง สจ.พอดี ร้องเรียนนายอำเภอ จนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ผมตามไปชี้แจงทุกแห่งแต่เรื่องก็ไม่จบ นายอำเภอบางคนตอบว่า ผมไม่ช่วยนะ ไม่งั้นผมทำงานไม่ได้ เขาไปฟ้องนาย(ผู้ว่า)ตลอด ผมก็ไปชี้แจงทุกที่ที่เขาร้อง  แค่นั้นก็พอทำเนา เขาตามไปข่มขู่ชาวบ้านที่มาทำงานรับจ้างปลุกป่า ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับเขา


               ผมเหลือเพียงชาวบ้านที่มารับจ้างปลูกป่าและขอพื้นที่ทำไร่ในสวนป่าไปด้วยเพียงกลุ่มเดียว หัวหน้าเก่าเขาให้พื้นที่แคบๆปลูกกระต๊อบอยู่อาศัยชั่วคราวอยู่ฝั่งขวาห้วยสามสบ ทุกครั้งที่เกิดขบวนแห่กันมาก็ได้แต่หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ตามคำข่มขู่และกลัวไม่มีที่ทำกินและงานทำ “จะได้ปลูกป่าไหมหัวหน้า พวกผมจะตกงานไหมหัวหน้า”


                นั่นคือความหวาดวิตกของชาวบ้าน ผมตอบทุกคนว่า ผมสู้ ขอเพียงให้พวกเราออกไปทำงานตามสั่ง ไม่ต้องกลัวคำขู่จะระเบิดและยิงทิ้ง ผมรับรองความปลอดภัยและจะรับผิดชอบทุกกรณี ผมได้เพื่อนกลุ่มนี้แหละครับที่ตั้งใจทำงานไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมก็เดินไปประชุมชี้แจงทุกครั้ง แม้ถูกกลั่นแกล้งกันเพียงใดแต่พวกเราก็อดทน ไม่ยอมแพ้


                 ปีแรกผ่านไปด้วยดี ปีต่อมาก็เริ่มเค้าจะเดินขบวนกันอีก ผมตัดสินใจศึกษาถึงโครงการหมู่บ้านป่าไม้ของกองจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งในขณะนั้นนายสมเพิ่ม กิตตินันท์ เป็นผู้อำนวยการริเริ่มแผนการนี้เป็นเป้าหมายทั่วประเทศ แต่ผมไม่ได้งบประมาณจากหมู่บ้านป่าไม้ เพียงอาศัยแนวความคิดของเขามาปรับปรุงเพื่อแก้เกมส์  ผมต้องมีเพื่อนเพื่อสู้


               แล้วผมกับผู้ช่วยประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง ก็เริ่มต้นวางแผนสร้างหมู่บ้าน แบ่งพื้นที่เพื่ออยู่อาศัย 150 แปลง แต่ขณะนั้นมีเพียงผู้อยู่อาศัย 33 หลังคาเรือนเท่านั้น บ่งเผื่อให้ครอบครัวที่มีลูกหลายคน แบ่งที่ดินทำกินครอบครัวละ 15 ไร่ ปลูกบ้านมุงหลังคาพื้นฟากไม้ไผ่ครอบครัวละ 1 หลัง สร้างโรงเรียนให้เด็กๆที่ไม่ได้เรียนหนังสือได้เรียน


              หมู่บ้านป่าไม้ของเราเสร็จในปีถัดมา ผมมีที่พิงหลังสู้กับสจ.คำและชาวไร่ที่บุกรุกทำไร่เลื่อนลอยในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ผมพร้อมสู้ ในที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ป่าไม้จังหวัดน่าน กอ.รมน.จังหวัดน่าน กองพลทหารม้าส่วนหน้า จังหวัดน่าน ได้สนับสนุนและให้ลงมติว่า ให้ผมปลุกป่ารักษาต้นน้ำต่อไป ในขณะเดียวกันก็อนุญาตให้ชาวบ้านเข้ามาทำไร่ร่วมกันไปแบบ ปลูกป่าอาศัยชาวไร่ ทำกินไปพร้อมกับช่วยปลุกป่า ประเพณีสังสรรค์ชาวไร่เกิดตรงนี้


               เรื่องราวสงบลง ผมปลูกป่าซ่อมสวนป่าเดิมไปตามที่เงินงบประมาณเหลือจากการปลุกป่าใหม่แต่ละปี ทุกค่ำคืนผม ผู้ช่วย ครู(ครูมิ่งขวัญ+ครูโสภณ)  ชาวบ้าน ร่วมกันขุดดิน ถากหญ้า ไพคา อัดอิฐดินลูกรัง ฯลฯ จนหมู่บ้านมั่นคง มีโรงเรียน มีทุนอาหารกลางวัน มีทุนการศึกษา มีไฟฟ้า มีน้ำในสระใช้สอยและปล่อยปลา(ประมงแม้ว+อำพร)ไว้กินกัน มีที่ดินทำกิน  มีงานปลูกป่าเป็นอาชีพไม่ตกงาน


               ท่านสมเพิ่ม กิตตินันท์ได้ขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ ท่านได้เดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านป่าไม้ ได้มอบเงินทุนให้นักเรียน 20,000 บาท แต่เมื่อท่านกลับไปไม่นาน ก็เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก เสียชีวิต ชาวบ้านเสียใจและขอเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นบ้านกิตตินันท์ ตั้งกองทุนกิตตินันท์ ต่อมาท่านอุดม หิรัญพฤกษ์ ได้เป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ จึงได้เสนอให้ตั้งมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ เป็นอนุสรณ์แด่เพื่อนของท่าน ปีพ.ศ.2529 ตราบถึงทุกวันนี้


               ต่อมาปีพ.ศ.2530 ผมตรองจงดีแล้วหลังปรึกษาชาวบ้านว่า อยากตั้งกองทุนสวัสดิการประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือกันเอง ยามเจ็บไข้ได้ป่วย และเมื่อแก่ชรา หรือทุพพลภาพด้วยการจัดงานลีลาศรำวงในวันวาเลนไทล์เพื่อคนชรา กลางหมู่บ้าน กลางหุบเขา ได้กำไรตั้งกองทุนเริ่มแรก 4,9000 บาท ต่อมาเติบโตมากขึ้นจนผมกลับมาเป็นผู้อำนวยการโครงการแดนเซทและศูนย์พัฒนาลุ่มน้ำน่านตอนบน ระดับ 8  ที่น่านอีกครั้ง


                 คุณแม่ผมเสียชีวิต ผมจึงขอตั้งเป็นมูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์  เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่คุณแม่ของผม ปัจจุบันนี้มีเงิน 709,900 เศษๆ แจกทุนให้คนชรา(60ปีขึ้นไปหรือทุพพลภาพ)เป็นรายเดือน และนี่คือ จากใจถึงใจกับคำว่าเพื่อน ที่ผมไม่เคยลืมว่า เมื่อครั้งที่ทุกยากลำบากแก่การทำงานในหน้าที่นั้น ผมมีเพื่อนที่เป็นชาวบ้านหมู่บ้านนี้ช่วยกันทำงานฝ่าวงล้อมปัญหาอุปสรรคตลอดมา 


                ผมเป็นข้าราชการมีเงินสวัสดิการทุกอย่าง แต่ชาวบ้านคนรับจ้างปลูกป่าไม่มีอะไรจากรัฐบาลให้ทั้งสิ้น ผมจึงขอให้ทุกคนช่วยกัน ทำเพื่อตัวของพวกเรากันเอง เหมือนว่ามีบำนาญประชาชนคนบ้านป่าเมืองดอยคอยบำรุงขวัญและกำลังใจ แม้ไม่มากแต่ก็เป็นสินน้ำใจที่ทำให้ใจชื้นขึ้น เรายังมีเรา เรายังมีกันและกันเสมอมา ปีนี้ วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2556 จึงได้เดินทางมาประชุมคณะกรรมการมูลนิธิเหมือนทุกปีที่ถือปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง 

Tags : ซิตี้แอร์เวย์ เชิญ

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view