กล้วยท้อง สังเกตได้อย่างไร
โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
บ้านป่านเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูงอยู่ริมน้ำคลองลัดเล็กๆ ฤดูน้ำน้ำจะท่วมเกือบถึงพื้นเรือน แม่ใช้ไม้กระดานกั้นเป็นคอกสูงเสมอพื้นเรือน ถมดินลงไปจนเต็ม ที่นี่คือถังขยะที่แม่ทิ้งเศษอาหารจำพวกผักบุ้งท่อนโคน เปลือกผลไม้ อะไรๆหลายอย่างที่ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย แม้กระทั่งชานหมากที่แม่คายทิ้งก็ถมอยู่ในโคกเทียมของแม่
แม่ป่านอยู่นิ่งไม่เป็น ในโคกจึงปลูกทั้งมะกรูด กระเพราะ โหรพา ตะไคร้ และวันหนึ่งแม่เอาหน่อกล้วยน้ำว้ามาปลูกต้นเดียว เตี้ยๆสักแค่หัวป่าน(85 ซม.) โคนหน่อมีรากไม่กี่เส้น 5 เดือนต่อมากล้วยต้นนี้ก็เติบโตจนสูงปรี๊ด ใบเดี่ยวแตกเรียงสลับกันใหญ่และยาว สีเขียวตองอ่อน กาบกล้วยสานกันจนเป็นลำต้นเทียมข้างในเป็นหยวกสีขาว ส่วนต้นจริงอยู่ใต้ดินสั้นๆ
แม่ใช้ใบกล้วยห่อขนมหลายอย่าง เช่นข้าวต้มมัด ขนมใส่ไส้ ขนมเข่ง ขนมกล้วย บางวันก็ห่อหมูทอดถวายพระเวลาตักบาตรหน้าบ้าน ที่ป่านชอบมากเป็นห่อหมกปลาช่อนที่แม่นึ่งในใบตองกล้วย พวกเรากินกันเปรมไปทุกที แกะห่อแล้วก็โยนใบกล้วยใช้แล้วลงโคก กลายเป็นปุ๋ยพืชสดให้กับดินต่อไป ในโคกเล็กๆของแม่มีไส้เดือนฝอยและไส้เดือนตัวยาวๆยืดๆ
ใบเล็กและสั้นสุดยอด
วันหนึ่ง ป่านเห็นใบกล้วยแตกออกมาล่าสุด ทำไมเล็กกว่าใบอื่นๆจัง แม่เดินมาดูตามแล้วตอบว่า
“กล้วยมันตั้งท้องแล้ว ใบกล้วยเล็กๆสั้นๆนั่นแหละบอกว่า กล้วยจะแทงช่อดอกออกมาเป็นหัวปลี ผลิดอก แล้วก็กลายเป็นกล้วยให้เราได้กิน”
หัวปลีคือช่อดอกกล้วย
อีกสัปดาห์กว่าๆ กล้วยก็แทงหัวปลีออกมาจริงๆ หลังกล้วยแตกลำจนเต็มเครือราว 5-10 หวี แม่ก็ตัดหัวปลีลงมา
หัวปลีซีกหนึ่ง แม่ต้มจิ้มน้ำพริกกะปิกิน แม่บอกว่า
“หลังคลอดลูกแม่ใช้หัวปลีกล้วยนี่แหละแกงกินเพื่อเร่งน้ำนมให้หนูกินได้มากขึ้น”
อีกซีกหนึ่งแม่แกงไก่ใส่หัวปลีซอย ตักบาตรพระตอนเช้าอีกวันหนึ่ง ช่วงน้ำยังไม่ลด กล้วยเครือยาวถูกตัดลงมาแบ่งเป็นหวีๆ
“ลูกกล้วยออกนวลและลบเหลี่ยมแล้ว กล้วยแก่แล้ว”
หัวปลีกินได้แล้ว
อีกสองวันกล้วยน้ำว้าก็เหลืองชวนกิน
“กล้วยน้ำว้าสุกนี่ใช้บดกับข้าวจนเข้ากัน ป้อนให้หนูกินตอนแบเบาะ ทุกคนเติบโตมาด้วยกล้วยน้ำว้าบดกับข้าวสวย”
ป่านชอบกินกล้วยน้ำว้าสุก หอม หวานนิดๆ แค่สองลูกก็อิ่มไปนาน เป็นผลไม้อย่างเดียวตามฤดูกาลบ้านเรา คนจันทะบุรีเรียกว่ากล้วยมะลิอ่อง คนเชียงใหม่เชียงรายเรียกว่า กล้วยใต้ คนชัยภูมิเรียกว่ากล้วยอ่อง คนอุบลราชธานีเรียกว่ากล้วยตานีอ่อง แต่มีชื่อสามัญว่า Banana ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa sapientum L. อยู่ในวงศ์ MUSACEAE
กล้วยออกนวลและลบเหลี่ยม แก่แล้ว
ข้อมูลเฉพาะลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กล้วยเป็นไม้ล้มลุก สูง 3-4 เมตร ลำต้นสั้นอยู่ใต้ดิน กาบใบเรียงเวียนซ้อนกันเป็นลำต้นเทียม สีเขียวอ่อน ปลายใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกเรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 25-40 ซม. ยาว 1-2 เมตร ปลายใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ด้านล่างมีนวลสีขาว เส้นใบขนานกันในแนวขวาง ก้านใบเป็นร่องแคบ ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดห้อยลง เรียกว่า หัวปลี มีใบประดับขนาดใหญ่หุ้มสีแดงเข้ม เมื่อบานจะม้วนงอขึ้น ด้านนอกมีนวล ด้านในเกลี้ยง ผล รูปรี ยาว 11-13 ซม. ผิวเรียบ ปลายเป็นจุก เนื้อในมีสีขาว พอสุกเปลือกผลเป็นสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ หวีหนึ่งมี 10-16 ผล บางครั้งมีเมล็ด เมล็ดกลม สีดำ นี่คือลักษณะของกล้วยน้ำว้า
กล้วยเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณมากใช้ได้ทุกส่วน ได้แก่
รากแก้ขัดเบา ต้นใช้ห้ามเลือด แก้โรคไส้เลื่อน ใบรักษาแผลสุนัขกัด ห้ามเลือด ยางจากใบห้ามเลือด สมานแผล ผลรักษาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย ยาอายุวัฒนะ แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ริดสีดวง กล้วยน้ำว้าดิบ - มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเดิน แก้โรคกระเพาะ และอาหารไม่ย่อย กล้วยน้ำว้าสุกงอมเป็นอาหาร เป็นผลไม้ เป็นยาระบาย หัวปลีขับน้ำนม