http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,007,127
Page Views16,316,163
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน13 บ้านเชียง-คำชะโนด(2)

ในคมขวาน13 บ้านเชียง-คำชะโนด(2)

ในคมขวาน ๑๓ 

บ้านเชียง-คำชะโนด(๒)

โดย สาวภูไท เรื่อง-ภาพ

 

               อำเภอบ้านดุง เคยเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอหนองหาน อุดรธานี จึงอยู่ไม่ไกลจากบ้านเชียงนัก  บริเวณส่วนนี้ตั้งอยู่ในแอ่งสกลนคร  แบ่งกั้นออกจากแอ่งโคราชแอ่งอู่ใหญ่ของอีสานประเทศด้วยเทือกเขาภูพานที่อยู่ด้านทิศใต้  เหนือขึ้นไปเป็นที่ลุ่มริมฝั่งแม่โขงที่ทอดยาวโอบล้อมตลอดทิศเหนือสู่ทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ที่ภูพานทอดยาววกลงใต้ไปบรรจบกับเทือกพนมดงรักในเขตอุบลราชธานี


            จากบ้านเชียงสู่บ้านดุงมุ่งสู่คำชะโนดป่าศักดิ์สิทธิ์ เมืองพญานาค(วังนาคินทร์)แห่งอีสาน  เป็นป่าแห่งตำนานพญานาคและเมืองลับแล  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ดอนสลับที่ลุ่มน้ำท่วมถึงในฤดูน้ำหลาก  มีหนองน้ำใหญ่ ๆ และลำธารที่ไหลลงรวมสู่แม่น้ำโขงอยู่หลายแห่ง  ป่าคำชะโนดนั้นก็เป็นดอนเล็ก ๆ เนื้อที่ยี่สิบกว่าไร่มีน้ำล้อมรอบ  เต็มไปด้วยต้นชะโนดสูงชะลูดเสียดฟ้า ต่ำลงมาคือพืชตระกูลขิง-ข่าและเฟิร์นยอดกูดขึ้นกันหนาแน่นเบียดเสียด  มีบ่อน้ำใสผุดพรายอยู่กลางดง  นั่นคือที่ที่เชื่อกันว่าเป็นประตูสู่เมืองบาดาลของพญานาคนามศรีสุทโธ  และเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานแห่งพญานาคศรีสุทโธที่อยู่มาคู่กับป่าคำชะโนดแห่งนี้


            ต้นชะโนดเป็นไม้ในวงศ์ปาล์มพบในแถบใต้สุดและมาเลเซีย  แต่ในแถบถิ่นแผ่นดินอีสานนี้ยังไม่เห็นในที่อื่น จึงดูแปลกและพิเศษ  ว่ากันว่าเคยมีคนพยามยามนำไปปลูกแต่ไม่ได้ผล ตามความเชื่อก็ว่าทุกสิ่งจากแดนศักดิ์สิทธ์ห้ามเคลื่อนย้ายออกไปที่อื่นอยู่แล้ว  จึงเกิดความขยาดเกรงมากกว่า  และชะโนด ณ ที่นี้ก็มีต้นเล็ก ๆ รุ่นใหม่ ๆ แทรกแซมใต้ร่มเงาอันครึ้มเขียวอยู่ทั่วไปจึงน่าจะมั่นใจได้ว่ามันจะไม่สูญพันธุ์ไป

        ถึงอำเภอบ้านดุงมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาสู่ตำบลวังทอง  เป็นเขตที่ตั้งวังนาคินทร์อันเป็นจุดหมายที่มุงไปในวันนี้ 

ถนนสีดำนำเราผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ ของอำเภอบ้านดุงสู่คำชะโนด  เป็นหมู่บ้านที่ดูแล้วสบายใจสบายตาด้วยมองหาสิ่งรกตาแบบขยะนิยมของคนกรุงคนเมือง(เศษถุงพลาสติก)ไม่เจอ  แต่กลับมีกระถางปลูกผักสีเขียวตั้งไว้ริมถนนแทนทุกบ้าน  พวกเขาโชคดีกว่าเราที่ไม่ต้องบริโภคผักที่อาบโชคด้วยยาฆ่าแมลงและฟอร์มาลีนน้ำยาดองศพ


            ใครที่เคยมาเที่ยวคำชะโนดเมื่อ ๒๐ ปีก่อนจะเห็นเลยว่าทางสายนี้เปลี่ยนไปมาก  จากที่เคยเลื้อยไต่ผ่านไปตามคันนามีสะพานเล็ก ๆ ให้ข้ามลำธาร และอ้อมโค้งหลบหลีกที่ลุ่มริมหนองน้ำมาเป็นถนนอย่างดีที่สองข้างทางกลายเป็นสวนพืชเศรษฐกิจอย่างอ้อย  ยางพารามีทุ่งให้เห็นอยู่บ้างเฉพาะที่ลุ่มต่ำกว่าระดับถนนลงไปมาก ๆ ยากแก่การถมพูนดินนั่นแหละ

            ผู้เขียนเคยมาที่นี่ช่วงเปรตอาจารย์กู้กำลังดังหลังตำนานผีจ้างหนังไม่นาน  ตอนนั้นหนุ่มอาร์ตคนพามาในวันนี้ยังตัวเล็ก ๆ อยู่ชั้นอนุบาล จึงจำไม่ได้ว่าที่ตรงนี้แน่เหรอที่เคยมาครั้งโน้น 

            ผีจ้างหนัง เป็นข่าวดังมากของป่าคำชะโนดเมื่อประมาณ๒๐ปีมาแล้ว  ช่วงนั้นผู้เขียนเป็นครูอยู่อำเภอพรรณนิคม จังหวัดสกลนคร  เล่ากันว่า วันหนึ่งมีหนังเร่ในอุดรเจ้าหนึ่งได้รับการว่าจ้างให้ไปฉายหนังบริเวณที่เป็นที่ตั้งคำชะโนด  ซึ่งในเวลาโพล้เพล้ของวันที่นัดหมายก็นำรถยนต์ขนอุปกรณ์ฉายหนังไปตั้งตามที่ผู้จ้างบอก  และสถานที่นั้นเวลานั้นดูเป็นลานโล่งมีผู้คนมานั่งเรียงรายคอยชมภาพยนตร์มากมาย  เช่นกับเวลามีงานบุญงานวัดของชาวบ้านทั่ว ๆ ไปในแถบถิ่นนี้  แต่ที่แปลกคือมีข้อแม้ว่า หนังต้องเลิกและขนของกลับไปก่อนสว่าง  แปลกอีกอย่างคือพวกเขาเหล่านี้ช่างสงบเสงี่ยม  นั่งเงียบตลอดคืนไม่มีเสียงเอะอะอึงอนเช่นกับการรวมกันของคนหมู่มากทั่วไป  แม้ภาพและเสียงที่ดำเนินไปบนจอตามเนื้อหาเรื่องราวจะขบขันสนุกสนาน หรือ บู๊โหดโลดโผนอย่างไร  พวกผู้ชมทั้งหลายในคืนนั้นก็ยังนั่งชมอยู่นิ่ง ๆ ไม่ไหวติงกระทั่งฟ้าเริ่มสางพวกเขาก็หายไปแว๊บสิ้น  ผู้ว่าจ้างก็จ่ายเงินตามสัญญาแล้วหายตัวไปเช่นกัน


            เฮ้ย...เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน  พระอาทิตย์ฉายส่องให้มองเห็นอะไรชัดเจน  ลานโล่งที่ตั้งจอ ที่เคยมีผู้ชมนั่งอยู่เรียงรายกลายเป็นป่ารก

            เฮ้ย...เงินที่กำอยู่ในมือเป็นฟ่อนกลับเป็นเพียงใบไม้

            เหลียวมองรอบกายแล้วเหล่านักฉายหนังทั้งลูกน้องทั้งคนรถก็โกยอ้าว  หลายคนเป็นไข้หัวโกร๋นไปเลย ว่ากันว่าบางคนกลายเป็นบ้าพูดจาไม่รู้เรื่องไปเลย  (ยิ่งเล่าต่อกันไปมากรายละเอียดก็ยิ่งถูกเติมเพิ่มเยอะ)

            เรื่องเล่านี้กระจายออกไปรันเอาผู้คนสนใจเดินทางสู่คำชะโนด  คนตาแหกอย่างผู้เขียนก็ขนเอาลูกหลานขึ้นรถจากสกลสู่อุดรอำเภอบ้านดุงในทันทีนะซีคะ

            วันนั้นกับวันนี้ผิดกันเยอะ

              คำชะโนดแดนลึกลับ แดนแห่งตำนานกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว  กลายเป็นส่วนหนึ่งของอารามที่มีสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตรุ่งเรื่องเฟื่องฟุ้งตามยุคสมัยนิยมวัตถุ  สถานที่จอดรถคือลานซีเมนต์กว้างใหญ่ของวัด  ใกล้กันนั้นคือส่วนที่จัดให้เป็นร้านค้าขายสินค้าของที่ระลึก  ร้านอาหาร ขายของขบเขี้ยว  น้ำดื่มเปรี้ยวหวาน น้ำชากาแฟ  เรียงรายรุงรังและมีควันจากการปิ้งย่างลอยโขมงขึ้นฟ้าแข่งกับยอดชะโนดที่ขึ้นเป็นดอนอยู่คนละฟากฝั่งน้ำ

            สะพานไม้ที่เดินไต่ไปเมื่อครั้งก่อนตอนนี้เป็นสะพานคอนกรีต  พญานาคสองตนชูเศียรโดดเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขามอยู่คนละข้าง  ทอดตัวยาวเป็นราวสะพานไปจนจรดแดนศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด

            ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธอร่ามเรืองอยู่เคียงข้างหน้าทางเดิน

            เจ้าปู่ศรีสุทโธนี่แหละเจ้าของวังนาคินทร์คำชะโนดที่แท้จริง  เป็นตัวแทนแห่งความศักดิ์สิทธิ์  ศูนย์รวมแห่งศรัทธา  และเป็นที่พึ่งทางใจให้ผู้มาเยือนคำชะโนด  เรื่องราวมากหลายที่เล่าสืบต่อกันไปล้วนสร้างความหวังให้ผู้คน 


            ในสภาพสังคมที่สับสนจิตใจคนไม่มั่นคง  สร้างความอ่อนไหวไปจนอ่อนแออะไรเล่าจะเป็นหลักยึดไว้ได้หากไม่ใช่สิ่งศรัทธา 

            หลายสิ่งในโลกนี้ที่เราไม่รู้มองด้วยตาไม่เห็น  ไม่ใช่ว่าจะไม่มีในโลกนี้

            “ป้าเดินไปก่อนนะครับอาร์ตจะแวะไปกินข้าว”

              เสียงหลานชายดังขึ้นเรียกให้ตื่นจากภวังค์  จึงโบกมือพยักหน้าให้หลาน   แล้ว ก้าวเดินสู่เมืองแห่งพญานาคินทร์ ไปตามสะพานนาคราชที่ทอดยาวข้ามลำน้ำซึ่งตัดแบ่งคำชะโนด ให้เป็นคนละส่วนคนละดินแดน  สวนทางกับผู้คนมากมาย  ส่วนมากมากันเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มครอบครัว  กลุ่มนักท่องเที่ยว  นักศึกษา  และนักบวช  นักปฏิบัติธรรม  หลายคนอุ้มลูกตัวแดง ๆ มาด้วย  หลายคนเข็นรถคนแก่  หรือผู้ป่วย  ต่างช่วยกันประคับครองผู้อ่อนแอกว่า  เห็นสีหน้าแววตาอิ่มสุขของผู้ที่นั่งในรถแล้วอุ่นใจ  ใต้เงาอันร่มรื่นของต้นชะโนดที่สูงชะลูดเสียดฟ้านี้อวลอบด้วยกลิ่นไอแห่งความอบอุ่น  ให้ความหวังแก่ผู้มาเยือนด้วยศรัทธาเสมอ


๐๐๐๐

     

 

Tags : ในคมขวาน12

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view