http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,994,493
Page Views16,302,797
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บ้านทุ่งแสนสุขตอน30.ลูกเห็บตก

บ้านทุ่งแสนสุขตอน30.ลูกเห็บตก

บ้านทุ่งแสนสุข

ตอน 30.ลูกเห็บตก

โดย มณีดิน

              ลมร้อนพัดหวลรวนไปทั่ว บ้านลุงฮวดเจ้ากรมทางใต้ถุนสูงก็จะมีม้านั่งตั่งเตียงเคียงแคร่วางอยู่ ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ชุมนุมผู้คนจากบ้านตนเองและเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง เหมือนเป็นสมาคมหรือสโมสร บางคนถือพัดสานจากตอกไม้ไผ่ บางคนใช้พัดพัดเตาถ่านจากในครัวดำปิ๊ดปี๋มาพัดโบกเอาลม พอได้ผ่อนคลาย แต่เมื่อมองไปกลางท้องทุ่งลมบ้าหมูพัดเอาฝุ่น เศษฟาง และใบไม้ปลิ่วว่อนเป็นวงสูง นั่นแหละที่เรียกกันว่า ลมบ้าหมู ไม่แรง แค่มีวงฝุ่นม้วนตัวกรูเดียวก็ตก

              ช่วงเวลาบ่ายๆแก่ ผู้คนจึงหลบร้อนนอนใต้ถุนบ้านเสียมากกว่าบนเรือน ขันน้ำวางไว้บนฝาโอ่งน้ำฝน เปียกด้วยใช้ตักกินกันบ่อยครั้งตามประสาคนบ้านนอกคอกนาอย่างคนบ้านทุ่งชานเมือง ไม่มีโรคระบาดก็ไม่มีใครถือเป็นเรื่องสุขอนามัย เป็ด ไก่ ห่าน หมูหมา ก็กินน้ำจากแอ่งเดียวกัน ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้น ติดเชื้อกันระนาว

               ใต้ถุนบ้านลุงฮวด หนาแน่นด้วยหมู่ปัญจมิตรตามเคย ลุงฮวดนั่งอยู่มุมในเตียงแคร่ เคี้ยวหมากไปก็ตะโกนคุยไป ด้วยสุรเสียงอันดังดั่งราชสีห์บ้านทุ่ง เสื้อผ้าไม่เคยสวมใส่ ปล่อยพุงพลุ้ยนมกลมกลึงอวดสายตาผู้คนเสมอ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็ไม้เท้ากยาสิทธิ์ที่ลุงแกใช้ค้ำยืนและค้ำเดินดุจอวัยวะประจำกาย เฮียซ้งทรงมะรืนนั่งข้างขวา ทิดบุญนั่งข้างซ้าย แปะอ๋านั่งปลายเตียงสุดฝั่งตรงข้ามลุงฮวด ทุกผู้ก็ไม่สวมเสื้อ นุ่งแต่กางเกงขาก๊วยสีดำ


               “ลมร้อนอย่างนี้ ถ้าฝนตกกูว่าลูกเห็บตกแน่” ลุงฮวดพยากรณ์จากประสบการณ์

               “ไม่ใช่หมาไข่ที่วัดตลาดใหม่อีกรึ เฮียฮวด” แปะอ๋า แซว ทุกคนหัวเราะประสานเสียง ไม่เว้นแม้ลุงฮวดต้นตำรับ

                “ปีนี้ ฝนตกลูกเห็บต้องตกแน่ๆ” ลุงฮวดยังย้ำเรื่องเดิม ทำตัวเป็นผู้รู้ แต่บางคนก็ว่าแกขี้โม้ไปวันๆ

                “ถ้าไม่ตก เลี้ยงเหล้าแม่โขงกลมนะ” แป๊ะอ๋าขานเสนอ

                “เออ กูเลี้ยง พวกมึงเล่า หากลูกเห็บตกจริง มึงจะเลี้ยงอะไรกู” ลุงฮวดต่อรอง แบบนักเลง ผู้ไม่เคยแพ้เกมส์ใคร

                ไม่มีเสียงตอบ ทุกคนเงียบ ทิดบุญคนวัดแกไม่กินเหล้า เฮียซ้งดื่มแต่กาแฟร้อนสกุล “โอวยั๊ว ยกล้อ” มีก็แต่แปะอ๋าที่เป็นคู่ขาลุงฮวดทุกที

                “ว่าไงไอ้อ๋า มึงเลี้ยงกูนะ” ข้อตกลงฉันเพื่อนเกิดขึ้น มติลงตัว แต่ไม่ทันขาดคำ ฝนก็ตกกรูลงมา เสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาสังกะสีดังกราว และดังแผ่วไปเมื่อมีลมกระโชกให้เม็ดฝนหล่นจากหลังคา

                 “ไอ้ซ้ง มึงลุกไปดูซิ มีลูกเห็บตกไหม” แปะอ๋าตะโกนแข่งกับเสียงฝนหล่นหลังคา เฮียซ้งเฉไฉไอแข๊กๆ แต่ไม่ยอมลุกไปถูกละอองฝน

                  “ฮี่โธ่ แปะอ๋า ถ้าลูกเห็บตกก็ต้องเสียงดังกว่านี้ ไม่มีสักเม็ดแหละน่า” เฮียซ้งกล่าวย้อนแข่งกับเสียงดังจากฝน

                  แปะอ๋าหันไปหาลุงฮวดที่นั่งอมยิ้มเผล่ เคี้ยวหมากจนฟันดำปี๋ ทำไขสือไม่รู้ไม่ชี้  แปะอ๋าจึงเอื้อมมือไปสะกิดแขน แล้วบอกเสียงดัง

                  “เฮีย ฝนตกแล้ว ไม่มีลูกเห็บสักเม็ด ไปยกแม่โขงมาเปิดกล่อมฝนกันได้แล้ว” พูดเสร็จก็ทำปากจิ๊กจั๊ก ท่าทางอยากจะกินเหล้าแม่โขง

                  “กูบอกมึงเมื่อไรว่า ฝนตกวันนี้ ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าลูกเห็บจะตกวันไหน พรุ่งนี้อาจตกก็ได้ ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขเวลานี่หว่า” ลุงฮวดเบี้ยวหน้าตาเฉย


                  “เฮ้ย เฮียฮวด ศรีธนญชัยหรือนี่” แล้วหัวเราะก๊ากใหญ่ ลุงฮวดทำหน้าเฉย

                  “ไอ้บุญ ไอ้ซ้ง มึงสองคนได้ยินกูพูดว่าวันนี้หรือเปล่า” ลุงฮวดจอมเฮี้ยวเอ่ยเอื้อน

                  “ใช่ แปะ ใช่ ไม่ได้บอกเลยว่าวันนี้ ไอ้ฝนห่านี่ก็เสือกตกลงมาเอง” ลุงฮวดหัวเราะงอกลิ้ง ชี้หน้าอาแป๊ะอ๋า แล้วโค้งหัวลงจนแทบติดพื้น

                  “โฮ มึงร่วมหัวกันหลอกกู ไอ้......เดี๋ยวกูถีบ” พูดพลางก็ยันฝ่าตีนโครมไปที่เฮียซ้งและทิดบุญจนตกเตียง ถึงโมโหเพียงใดแปะอ๋าไม่กล้าถีบลุงฮวด เหมือนกริ่งเกรงบารมีกันอยู่ ทุกข์หนักไปตกที่เพื่อนรุ่นลูก ซวยแทน 

                  “กูไม่กินก็ได้วะเฮียฮวด ลื้อโกงทุกที” พูดพลางก็ทำท่าจะลุกจากเตียง ลุงฮวดเอื้อมมือไปจับแขนแล้วทำหน้ายิ้มแย้มแบบกวนๆ

                  “ลูกเห็บไม่ตก ก็เลี้ยงน่า ไอ้ชื้อ ไอ้ชื้อโว๊ย เอาเหล้าเอาชามกูลงมา เดี๋ยวนี้”

                  ฝนตกเสียงดัง แต่เสียงลุงฮวดดังกว่า ครู่เดียวไอ้ชื้อลูกชายก็หิ้วเหล้าแม่โขงพร้อมชามดื่ม 2 ใบลงมาให้ตามสั่ง วางตั้งลงแล้วก็หันหลังจะเดินไป แต่เสียงลุงฮวดดังจนต้องหยุดชะงัก


                 “เปิดขวดแล้วรินด้วยซิ เดี๋ยว...ป๊าด” ไอ้ชื้อรินจนเต็มชามสองใบแล้วก็หยิบขวดเปล่าติดมือไปด้วย วงเหล้าของสองเกลอแกล้มด้วยเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคา ไม่มีเขียดทอด ไม่มีกบทอด และไม่มีแม้แต่มะขามเปียกแกล้ม เหล้าหมดชาม ฝนหยุดตก แป๊ะอ๋าเดินแกว่งไปแกว่งมา เอียงกระเท่เล่กลับไปบ้าน เฮียซ้งกับทิดบุญได้แต่เดินประคองไปข้างๆ กลัวว่าแป๊ะอ๋าจะล้มแล้วไม่ถึง ลุงฮวดลุกเดินขาปัดขึ้นเรือน

                 ค่ำคืนที่ฝนลงในฤดูร้อน เป็นค่ำคืนที่ปลุกให้ทุกสรรพสิ่งตื่น เสียงเขียดและกบร้องทักทายกันดังไปทั่วทุ่ง แมลงกลางคืนออกหากิน เสียงนกเค้าแมวร้อง คางคกกระโดดไปมาหาแมลงกิน ฝนตกไม่นานตะวันก็ตกดิน เสียงฝนหยุดตก ปราศจากเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาสังกะสี ความเงียบยามราตรีคืนกลับมาอีกครั้ง แต่เป็นราตรีที่มีความเย็นมากกว่าทุกคืน

                 เช้ามืด เสียงไก่แจ้ขานขันดังมาจากวัดเพรียก  แสงสว่างเพียงมองเห็นลายมือพระก็เดินออกบิณฑบาตตามบ้านญาติโยมเหมือนปกติ ฝูงควายจากบ้านห้วยคันเหนือเดินทอดน่องไปตามชายคลอง มุ่งสู่ท้องทุ่งนาหลังวัด และเล็มหญ้าตามคันนาและริมห้วย  เฮียซ้งขี่จักรยานมาจากบ้านห้วยคันใต้เพื่อไปนั่งดื่มกาแฟร้อนร้านตาใหญ่หน้าวัด สมาชิกบางคนมาถึงก่อนแล้ว ยกย้ายที่นั่งตามลำดับอาวุโส อากาศเช้านี้ไม่ร้อนรุ่มดังวันก่อน


                  ลุงฮวดตื่นเช้าทุกวัน แม้วันที่เหล้าหมดขวดและเมามาย เตียงนั่งใต้ถุนบ้านชานหมากพร้อม ลุงฮวดนั่งหาหมากใส่ปากตามความเคยชิน แล้วก็ได้แต่นั่งเคี้ยวหมากหยุบหยับๆ สายตาส่ายไปช้าๆตามขอบไร่ปลายนา ไม่พ้นแม้กอไผ่สีสุกเสียดกอ

                 “ชื้อเอ๊ย ลงมาหาเตี่ยทีซิ” ลุงฮวดส่งเสียงเรียบด้วยว่าเช้าหรืออารมณ์ดี

                “ครับเตี่ย” ชื้อมายืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยมตรงหน้า ลุงฮวดเงยหน้ามองสบตาแล้วพูดเสียงค่อยๆ

                “เตี่ยอยากกินแกงไก่ใส่หน่อไม้ ไปขุดหน่อไม้ให้แม่แล้วจับไก่ไปเชือดให้แม่ด้วย” เสียงพูดนุ่มนวลเหมือนพ่อพูดกับลูกรัก

                “ครับเตี่ย”

                ชื้อเดินไปหยิบเสียม เดินดุ่มไปที่กอไผ่สีสุก เดินหาหน่อไม้ที่โคนกอ ได้มาสองหน่อพอแกงก็เดินไปหาไม้ท่อนหนึ่ง หว่านข้าวเปลือกบนลานหลังบ้าน ไก่ที่เลี้ยงปล่อยไว้กรูกันมาจิกกิน ชื้อตัดใจขว้างตัวเมียตัวหนึ่ง แล้วทำการเชือดเอาเลือดลงชามเกลือละลายน้ำ ลวกไก่ในกระทะน้ำต้มเดือดที่แม่เตรียมไว้ แล้วถอนขนไก่จนเกลี้ยง  แหวะอกไก่แล้วควักเครื่องในไก่มาจัดการ เนื้อไก่ยกให้แม่หั่นตามตำรับ แกงไก่ใส่หน่อไม้เช้านั้นหอมกรุ่นและอร่อยลิ้น

                 ลุงฮวดเป็นคหบดีที่มีนาข้าวให้ชาวนาเช่าทำ วันๆจึงไม่ได้ทำอะไร นอกจากพูดคุยกับเพื่อนบ้านและเคี้ยวหมากปากแดง  อาหารบ้านนอกก็เก็บหาเอาจากข้างรั้ว ท้องทุ่งและกอไผ่ชายคลอง เป็นชีวิตที่ราบเรียบ ไม่มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้น ก็อยู่กันไปตามประสาคนบ้านนอกคอกนา ถ้าจะมีเรื่องตื่นเต้นสักเรื่องก็หนีไม่พ้น คนออกลูกแฝดสามคน หรือมีขโมยย่องมาลักข้าวสารไปกรอกหม้อ หรือขโมยวัวควายไปจากทุ่งแล้วตามกันไปพบว่าเหลือแต่กองกระดูกกับเขาติดกะโหลก บ้านลุงฮวดอยู่ใกล้เส้นทางที่รถยนต์จะไปตลาดผ่าน จึงเหมือนเป็นชุมทาง

                “เจ้ากรมทางหลวง” เป็นสมญาที่ลุงฮวดได้รับการขานไขจากเพื่อนบ้านลูกหลานที่กลับมาจากเรียนหนังสือที่กรุงเทพ รถเมล์คันไหนจะไปจะมาเมื่อไร ลุงฮวดจำได้แม่น นักเรียนจะเข้าไปตลาดแล้วไปต่อรถเข้ากรุงเทพจึงมักมานั่งรอที่ใต้ถุนบ้านกับลุงฮวด รถมาถึงก็ไปไม่เหลียวกลับ แต่ถ้าพลาดเที่ยวรถ ก็จะได้กินข้าวเช้าบ้านลุงฮวด แล้วนั่งรอ

                “วันนี้ มึงจะกลับเข้ากรมหรือ” ลุงฮวดถามพี่สมสิ่ง ร้อยเอกแห่งกองทัพบกที่กองเป้ไว้ข้างๆ แล้วนั่งลงพูดคุย

                “ครับลุง หมดเวลาลาพักแล้ว มีฝึกทหารใหม่รออยู่ครับ” ลุงฮวดมองหน้าผู้กองหนุ่มแห่งกองพันทหารม้า หลานชายแล้วถอนใจ

                “ต้องไปรบกับผกค.ไหมล่ะ” ลุงฮวดถามเบาๆ

                “ยังไม่ได้ไปครับลุง แต่หลังเรียนเส(เสนาธิการทหาร)แล้วอาจต้องไปครับ”

                “เอ้า รถมาแล้ว ไปเถอะ โชคดีมีชัยปลอดภัยกลับมานะ” ลุงฮวดอวยพรให้พี่สมสิ่งยกมือไหว้แล้วแบกเป้ขึ้นรถเมล์ไปสู่จุดหมาย

                หลังเที่ยง แดดร้อนเปรี้ยงอีกตามเคย และมีเมฆคลึ้มไปทั่ว แบบที่เรียกว่า คลึ้มฟ้าคลึ้มฝน นั่นแหละ อากาศร้อนอบอ้าว วันนี้แป๊ะอ๋าไม่มานั่งคุยด้วย อาจเมาไม่สร่าง หรืออาจไปค้าขายเหมือนวันอื่นๆ ลุงฮวดไม่เคยเดินออกไปดู แต่คะเนเอาจากแสงและความรุ่มร้อนที่เปลี่ยนไป  พึมพำเบาๆคนเดียว “ยังไงวันนี้ ลูกเห็บต้องตก ไอ้ห่าอ๋าไม่มาเสียนี่”

                 ชั่วว่าปากพระร่วงเอ่ย ฝนก็เทลงมาพร้อมๆกับแสงฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าร้อง คำรามดั่งข่มขู่ให้หวาดเกรงฟ้าดิน เม็ดฝนหล่นจากฟ้าลงมากราวใหญ่เสียงของแข็งตกกระทบหลังคาสังกะสีดัง “โกรกๆ” เป็นเสียงลูกเห็บตกใส่หลังคา แต่มีลูกเห็บขนาดเท่าลูกพุทราหล่นเปาะแปะ พักเดียวก็ขาวโพลนไปทั่วบริเวณ

                “ไอ้อ๋า ทีมึงต้องเลี้ยงแม่โขงกูแล้ว”ลุงฮวดตะโกนด้วยอารมณ์ดี

                “ไอ้ห่า ดันไม่มาเสียนี่” แล้วด่าต่อ

                “ไอ้ฉิบหายตายโหง กูอดจนได้” นั่งคอตกอยู่บนเตียงแคร่ใต้ถุนบ้าน  


ปล.ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ล

Tags : นกเหยี่ยวนกเขาชิครา

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view