ท่องอุบลแบบคนอุบล
๑.วัดป่าพิฆเณศร์ หลวงพ่อเงิน วัดปากน้ำ : ตำนานแห่งอุบลราชธานี ศรีวนาลัย ประเทศราช
โดย “เอื้อยนาง”
คนท้องถิ่นมักมองไม่เห็นว่าสิ่งที่ตนเคยชิน เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นทุกเมื่อเชื่อวันนั้นน่าสนใจ เพราะมัวแต่มองหา มองเห็นสิ่งไกลตัว แต่ถ้าวันใดได้หันกลับมาก็จะสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์เคยชิน เคยเห็น เคยรับรู้อยู่ประจำกับสิ่งใหม่ จะได้มุมมองลึก ๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็นเสมอ
ในฐานะนักท่องแดนไกลมามากมายแล้ว ผู้เขียนอยากนำเสนอการท่องอุบลบ้านเกิดบ้างจะได้ข้อมูล มุมมองที่ใคร ๆ มักผ่านเลยจนลืมเลือน
จุดเริ่มต้นของสารคดีชุด “ท่องอุบลแบบคนอุบล”ชุดนี้จึงขอเริ่มต้นที่ป่าแห่งตำนานศักดิ์สิทธิ์ริมบึง(บุ่งสระพัง/ตระพัง)ริมฝั่งแม่น้ำมูล อันเป็นต้นเค้ากำเนิดเมืองอุบลราชธานี ศรีวนาลัย ประเทศราชเมืองนี้ นั่นคือ ป่าพิฆเณศร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งวัดป่าพิฆเณศร์ บ้านปากน้ำ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกตามลำน้ำมูลสายเลือดใหญ่แห่งอีสานใต้
ป่าพิฆเณศร์เป็นป่าใหญ่ไม้สูงร่มครึ้ม ตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินดอนสลับที่ลุ่มน้ำท่วมถึงจนกลายเป็นแอ่ง หนอง คลอง บึง ริมฝั่งแม่น้ำมูลใกล้บุ่งสระพัง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ยาวหลายกิโลเมตร ทอดเชื่อมแม่น้ำมูลตรงที่เรียกว่าปากน้ำ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวลาวที่อพยพพร้อมพระวอ และท้าวคำผง(เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี) จากหนองบัวลุ่มภู หนีราชภัยเวียงจันทน์มาตั้งอยู่ดอนมดแดง แก้งส้มป่อย
เมื่อราวพุทธศตวรรษที่๒๒-๒๓ ครั้นพระวอและท้าวคำผงอพยพต่อไปตั้งเวียงดอนกอง ณ บ้านดู่ บ้านแกใกล้นครจำปาศักดิ์ คนกลุ่มหนึ่งยังคงตั้งหลักปักฐาน ณ ที่แห่งนี้ ที่ดอนมดแดง แก้งส้มป่อย และบริเวณใกล้เคียง ทำมาหากินบุกเบิกไร่นา สร้างบ้านแปงเฮือนสร้างสมกำลัง และเสบียงไว้คอยช่วยเหลือสนับสนุนกันและกันในยามฉุกเฉิน และก็เป็นดังนั้นเมื่อกลุ่มท้าวคำผงอพยพจากค่ายบ้านดู่บ้านแก จำปาศักดิ์ ก็ได้มาสร้างแปงกันใหม่ที่ดอนมดแดงและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนย้ายไปตั้ง ณ ดงอู่ผึ้งอันกลายมาเป็นเมืองอุบลราชธานีในปัจจุบัน
สำหรับบ้านปากน้ำช่วงเวลาหนึ่งเกิดน้ำท่วมใหญ่ ไม่สะดวกกับการขยับขยายครอบครัว จึงย้ายขึ้นไปตั้งบ้านใหม่ห่างจากปากน้ำขึ้นไปทางเหนือประมาณ ๓ กิโลเมตร นั่นคือหมู่บ้านปากน้ำ ตำบลกุดลาดในปัจจุบัน
แต่ป่าพิฆเณศร์ยังคงเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านถือว่าเป็นป่ามีเจ้าของหวงห้าม ซึ่งเจ้าของนี้อาจเป็นเทพ เป็นวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อและศรัทธา แม้การขยายตัวของชุมชนมีมากขึ้น มีการบุกเบิกทำไร่ไถนา หาอยู่ หากิน ในบริเวณใกล้เคียง จนป่าเปล่าดงแปนไปมาก แต่ไม่มีใครเฉียดใกล้ หรือล่วงล้ำกล้ำเกินป่าแห่งนี้ เพราะความเกรงกลัว นอกจากพระภิกษุผู้มากบารมีที่เข้าปักกรดจำศีลภาวนาแสวงหาสันโดษเป็นประจำ ซึ่งนั่นเป็นที่มาแห่งการขุดสมบัติล้ำค่าสมัยขอม และลาวโบราณ จากใต้ผืนดินกลางป่านี้ขึ้นมา หนึ่งในสมบัตินั้นคือ พระพิฆเณศร์สมัยขอม(ปัจจุบันอยู่ที่วัดสุปัฏนาราม จังหวัดอุบลราชธานี) ซึ่งเป็นที่มาแห่งชื่อของป่านี้ และปัจจุบันป่านี้เป็นที่ตั้งวัดป่าพิฆเณศร์ วัดพุทธชื่อเป็นพราหมณ์นี้นั่นเอง
ต่อมาพระภิกษุรูปเดียวกันนี้ คือท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์(ญาท่านจันทร์ หลวงปู่จันทร์ นามเดิม บุญจันทร์ ประสานพิมพ์)เจ้าอาวาสวัดบ้านปากน้ำได้ไปปักกรดเจริญภาวนากรรมฐาน ณ ป่าดงพิฆเณศร์เป็นประจำ ได้นิมิตเห็นสิ่งล้ำค่า ณ ที่แห่งนี้จึงได้ทำพิธีขอ และขุดขึ้นมาให้ชาวบ้านชาวเมืองได้กราบไหว้บูชา นั่นคือ หลวงพ่อเงิน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเนื้อเงินศิลปะล้านช้างอายุไม่ต่ำกว่า ๗๐๐ ปี อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดบ้านปากน้ำ นับเป็นหนึ่งในจำนวนมากมายของมรดกล้ำค่าของบรรพบุรุษจากล้านช้างที่มีในอุบลราชธานี หากมีโอกาสไปอุบลควรไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เพราะปัจจุบันการเดินทางไปบ้านปากน้ำนั้นสะดวกมาก
ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไปเพราะไม่มีการบันทึก ยังคงมีแต่เรื่องราวเล่าขานจากคนเฒ่าคนแก่ จึงไม่รู้ที่มาที่ไปของสมบัติโบราณจากป่าพิฆเณศร์ แต่หากดูจากงานศิลปะ โบราณวัตถุทั้งมวลที่ขุดพบ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเนินดินแห่งที่เคยเป็นสถานที่สำคัญยุคขอมมาก่อน กลุ่มลาวที่อพยพมาอยู่ทีหลังได้ใช้เป็นสถานที่เก็บฝังซ่อนซุกสมบัติมีค่าไว้ในเวลาต่อมา เชื่อกันว่า หลวงพ่อเงินเป็นสมบัติของแม่ทัพ นายกอง พ่อเมือง ผู้นำหรือบุคคลสำคัญบรรพบุรุษของชาวอุบลนำมาด้วยสมัยหนีราชภัยเวียงจันทน์นั่นเองเพราะสถานการณ์การก่อตั้งเมืองอุบลนั้น อยู่ในสภาพหนีร้อนหาบ่อนเย็น ซ่อนเร้นหลบภัย สมบัติโบราณหลายอย่างมักถูกนำไปซ่อนไว้ในหลาย ๆ ที่ เมื่อบ้านเมืองสงบร่มเย็นมีการนำกลับคืนมา เช่น พระพุทธรูปตระกูลแก้วทั้งหลายในอุบล ไม่ว่าจะเป็นแก้วบุษราคัมในวัดศรีอุบลรัตนาราม พระแก้วโกเมนในวัดมณีวนาราม และอื่น ๆ ซึ่งจะค่อย ๆ เล่าในตอนต่อไป ครั้งนี้เราไปกราบหลวงพ่อเงินก่อนก็แล้วกัน เป็นช่วงเทศกาลเข้าพรรษาพอดี ได้ร่วมหล่อเทียนเป็นพุทธบูชาด้วย
“คุณย่า ตรงนั้นเขาทำอะไร” แม้แต่น้องไอพ่นผู้เพิ่งละสายตาจากการดูหนังในรถตลอดทางมายังอดสนใจไม่ได้ ด้วยทางวัดท่านจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไว้มากมาย เป็นซุ้ม เป็นจุดให้ทั้งความรู้และประสบการณ์สำหรับเด็ก ๆ
“เขากำลังหล่อเทียน มาซิไปดูกัน ได้ทำบุญด้วย”
แม้สายฝนจะพรมพรำแต่ไม่เป็นอุปสรรคสำพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธา ร่วมกิจกรรมด้านนอกรายรอบโบสถ์แล้วก็เข้าไปไหว้พระกันด้านใน
กราบพระหลวงพ่อเงินที่วัดปากน้ำแล้วเลยไปไหว้พระในวัดป่าพิฆเณศร์ ป่าแห่งตำนานที่มีความเกี่ยวพันถึงสงครามมหาเอเชียบูรพา ต่อเนื่องถึงสงครามเวียดนามที่ฐานทัพอเมริกันตั้งมั่นในค่ายอุบลราชธานี
อดีตก็คืออดีต เวลาผ่านไปก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไทยเราเคยเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นกับอเมริกา อุบลราชธานีเคยมีเสรีไทย เคยมีกองทัพอเมริกันตั้งมั่นในฐานสนามบินช่วงสงครามเวียดนาม(เหนือ-ใต้ , พ.ศ.๒๔๙๗-๒๕๑๘) และป่าพิฆเณศร์ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินนัก เป็นเส้นทางผ่านสู่เวียดนามและลาวซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของอุบลราชธานี
เคยมีตำนานเล่าขานมานานแล้วว่า ป่าแห่งนี้มีเจ้าของสิงสถิตปกป้องอยู่ วันดีคืนดีจะมีเสียงฆ้องเสียงกลองดังขึ้นกลางป่าคล้ายมีงานพิธีการ ณ ที่แห่งนั้น วันดีคืนดีก็จะมีลำแสงประหลาดพุ่งขึ้นจากกลางป่าสู่ท้องฟ้าเป็นที่อัศจรรย์
และลำแสงประหลาดนี้เองเป็นที่มาของการสร้างโบสถ์มิตรภาพไทย-อเมริกาที่วัดบ้านปากน้ำ
เหตุก็คือในช่วงสงครามดังกล่าว ได้มีเครื่องบินของกองทัพอเมริกันตกลงมาที่หมู่บ้านปากน้ำ(อาจถูกยิงมาจากเวียดนามแล้วกลับไม่ถึงฐานทัพก็ตกเสียก่อนก็ได้ ซึ่งมีอยู่บ่อยมากในเขตอุบลราชธานีช่วงนั้น ผู้เขียนเองยังเคยวิ่งตามไปดูกับเขาด้วยแต่ก็ถูกกั้นไว้ด้วยเชือกไม่ได้เข้าใกล้สักหน่อยเลย) การลาดตระเวนเข้มจึงเกิดขึ้นในแถบนี้โดยเฉพาะเขตป่าทึบดงหนาอย่างป่าพิฆเณศร์ และ คืนหนึ่งก็มีลำแสงประหลาดพุ่งขึ้นไปใส่เครื่องบินอเมริกัน เป็นเหตุให้ทหารอเมริกันสงสัยจึงได้เข้ามาสำรวจ ทำให้ได้พบปะพูดจากับท่านเจ้าคุณซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่และชาวบ้านจนได้ร่วมมือกันสร้างโบสถ์มิตรภาพไทย-อเมริกัน ณ วัดบ้านปากน้ำดังกล่าว
ปัจจุบันบริเวณปากน้ำบุ่งสระพังได้รับการพัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งในอุบลราชธานี ด้วยธรรมชาติอันสวยงามริมแม่น้ำและบุ่งสระพังที่มีหาดทรายยาวเหยียดในฤดูน้ำลด มีแพอาหารจอดเป็นแถวรายเรียงยาวเหยียดให้ผู้คนได้ลงพักผ่อน เล่นน้ำ กินอาหารร้อน ๆ ปลาสวย ๆ รสอร่อย ๆ ของแม่น้ำมูล หากเป็นช่วงฤดูแล้ง น้ำลดลงมากจะได้เดินเที่ยวหาดทรายริมบุ่งสระพังด้วย โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ หากมีโอกาสไปอุบลขอเชิญไปสัมผัส สายน้ำ ชายหาดของสถานที่ก่อตั้ง รำลึกถึงความเป็นอุบลราชธานี ศรีวนาลัย ประเทศราช เพิ่มรสชาติสีสันให้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง
๐๐๐