สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวในหมู่บ้านโอท็อป จ.บุรีรัมย์
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
กรมการพัฒนาชุมชน รับผิดชอบโครงการหมู่บ้านโอท็อปทั่วประเทศ แนวคิด หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าจากทรัพยากรที่มีอยู่ในแต่ละตำบลให้กลายเป็นสินค้าได้ระดับมาตรฐาน มีคุณภาพ เป็นเอกลักษณ์ของตำบล ทำให้เพิ่มรายได้แก่ชุมชน คนในตำบลมีงานทำอย่างยั่งยืน
ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นจะเกิดความคิดสร้างสรรค์ บรรจุภัณฑ์สวยงาม โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคลที่เป็นรากเหง้าแห่งภูมิปัญญาได้ช่วยให้เกิดการสืบสานไม่สิ้นสุด กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาหลากหลายด้าน มิใช่เพียงด้านการผลิตแต่ได้ช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อชมและเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อนซื้อหาเป็นของฝากจากการท่องเที่ยว
ผูกเสี่ยว สู่ขวัญ วัฒนธรรมงดงาม
นอกจากนี้ ยังปลุกเร้าด้วยการประกวดสินค้าโอท็อป ด้วยหลัก4 p คือ people คนในชุมชนร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง product คนในชุมชนช่วยกันพัฒนาสินค้าโอท็อปจนเกิดความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น place เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และท่องเที่ยว และ preserve ทำให้เกิดการอนุรักษ์และสืบสานอัตตะลักษณ์ของชุมชนอย่างเหนียวแน่น
จุดแรกที่คณะสื่อมวลชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากภูมอปัญญาท้องถิ่น การย้อมผ้าฝ้ายด้วยดินภูเขาไฟ ผสมผสานกับเปลือกไม้ชนิดต่างๆ เพื่อให้เกิดการติดสีคงทนและสวยงาม ตั้งชื่อไว้งดงามว่า ผ้าภูอัคนี สีอิฐสดใสทีเดียว นำโดยพัฒนาการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ นายสถาพร ศรีนาม 081-8213923 และนางสำรวย ศรีมะเรือง ประธานกลุ่มทอผ้าบ้านเจริญสุข อธิบายความจ๋อยๆ
ย้อมด้วยดินภูเขาไฟ สีสวย
ผลิตภัณฑ์จากผ้าภูอัคนี ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มทั้งชายและหญิง สวยงาม ที่โดดเด่นมากก็เป็นผ้าพาดไหล่ในกล่องที่แพ็คกิ้งสวยงาม ไม่แพ้ร้านค้าในตลาดว่ายังงั้นเถอะ รายได้จากการจัดจำหน่ายยังไม่มากนัก ขึ้นอยู่กับการเวียนวนของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ประการสำคัญต้องมีการโฆษณาเพื่อให้เป็นแหล่งที่รับรู้
ผ้าคลุมไหล่ในกล่องสวยงาม
จุดที่สองที่ได้ไปเยือนเป็นปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
จุดที่สาม คณะสื่อมวลชนได้ไปยังบ้านโคกเมือง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้ชมฐานการเรียนรู้ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่รักษาหมู่บ้านได้สะอาดงดงามทุกหลังคาเรือน ชาวบ้านยิ้มแย้มแจ่มใส มีใจต้อนรับแขกเหรื่ออย่างน่าอัศจรรย์
ที่นี่นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์โอท็อประดับ 5 ดาวแล้วยังมีโฮมสะเตย์ให้พักแรมคืนด้วย ณ ศาลากลางบ้าน ชาวบ้านได้อวดศิลปะ วัฒนธรรมด้านการแสดงให้ชมอีกด้วย มีของว่างพื้นบ้านให้รับประทานระหว่างรอชม ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีอีสานบรรเลง ใจหรือก็อยากจะออกไปฟ้อนนำกับผู้สาวโสภา แต่เสียดายที่คณะชาวบ้านไม่ได้เปิดโอกาสให้เลย
นักท่องเที่ยวที่เยือนถิ่นอีสาน เพียงได้ยินเสียงแคนและพิณ ก็กระดี๊กระด๊ากันแล้ว เป็นมนต์เพลงที่ครึกครื้นรื่นรมณ์ยิ่งนัก ปลุกอารมณ์และวิญญาณให้อยากออกไปฟ้อน แล่นแตร แตรแล่นแตร ไม่เชื่อก็ลองให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเถอะ เขาจะสนุกและประทับใจไม่รู้ลืม หากผมไปพักแรมที่นี่ ผมก็อยากจะม่วนชื่นด้วยการฟ้อนและหัดร้องนำเด้อ
จุดที่สี่ ได้ยกคณะไปชมโรงสีข้าวชุมชน บอกได้เลยว่า ข้าวที่นี่หอมอร่อยมากๆ แล้วก็เลยไปเยือนถึงปราสาทเมืองต่ำ ใกล้ๆกับบารายขนาดใหญ่ซึ่งมีมาแต่โบราณก่อนการสร้างปราสาทเมืองต่ำ ได้ฟังเจ้าบ้านน้อยที่ดี 3 คนนำพาไปพร้อมกับบรรยายถึงเรื่องราวชวนสนใจของปราสาทเมืองต่ำ นักท่องเที่ยวใจดีเมื่อจะจากลาได้ทิปนักเรียนทั้งสามด้วยหลายเงินอยู่
ค่ำแล้วพักแรมที่โรงแรมเทพนคร ไม่ได้นอนโฮมสะเตย์ เช้าตรู่หลังอาหาร ได้รับการเชิญชวนให้ขึ้นไปกราบไหว้พระองค์โตนามว่า พระสุภัทรบพิตร วนอุทยานภูเขาไฟเขากระโดง บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง อันเป็นภูเขาไฟหนึ่งใน 6 ลูกของจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนั้นยังได้ไปชมปากปล่องภูเขาไฟบนสะพานแขวนด้วย
พิธีกร-นักร้อง คนดัง เบิร์ด
จุดที่ห้า ห้องประชุมโรงแรมเทพนคร เปิดให้ผู้ประกอบการสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยว โอท็อป นำเสนอแผนงานจากการ Workshop โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายวิทยา จันทร์ฉลอง กล่าวต้อนรับ
รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายอรรถพร สิงหวิชัย กล่าวให้โอวาทในงานดังกล่าว
ความว่า”ปีพ.ศ.2549 กรมการพัฒนาชุมชนจัดประกวดหมู่บ้าน Otop Village Champion(OVC) ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ชุมชนตื่นตัว เกิดการรวมพลัง และความคิดสร้างสรรค์ มีหมู่บ้านเข้าร่วมการประกวด 120 หมู่บ้าน แต่ได้รางวัลชนะระดับประเทศ 80 หมู่บ้าน จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ
เพื่อให้เกิดความมั่นคงในสินค้าโอท็อป กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำริที่จะส่งเสริมให้หมู่บ้านเหล่านี้ได้ต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 ได้หมู่บ้านที่ต่อยอดแล้วรวม 60 หมู่บ้าน แถมด้วยการเพิ่มศักยภาพของหมู่บ้านโอท็อป เพื่อการท่องเที่ยวด้วยการจัดกิจกรรม workshop ก้าวสู่การเป็นมืออาชีพด้านการท่องเที่ยว อีกด้วย
ผอ.ททท.สุรินทร์ มาร่วมด้วยช่วยกัน
ด้วยความหวังว่า การท่องเที่ยวจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนนักท่องเที่ยวเข้าออกหมู่บ้านโอท็อปมากขึ้น สินค้าโอท็อปจะขายได้มากขึ้น รายได้ย่อมมากขึ้น ประชากรในหมู่บ้านจะมีเงินและงานทำยั่งยืน ศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอัตตะลักษณ์จะถูกสืบสานไปกับผลิตภัณฑ์โอท็อป ตลอดกาล