http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,002,560
Page Views16,311,386
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ท่องอุบลแบบคนอุบล2.ชมเทียนพรรษาไหว้พระแก้วคู่เมือง

ท่องอุบลแบบคนอุบล2.ชมเทียนพรรษาไหว้พระแก้วคู่เมือง

ท่องอุบลแบบคนอุบล

๒.ชมเทียนพรรษาไหว้พระแก้วคู่เมือง

โดย เอื้อยนาง เรื่อง-ภาพ

 

        บุญประเพณีแห่เทียนพรรษาแม้จะผ่านไปแล้ว  แต่ความยิ่งใหญ่อลังการมหัศจรรย์แห่งเทียนต้น  ยังคงเป็นภาพพิมพ์ประทับในความทรงจำอยู่อีกนานแสนนาน

        หลายคนแวะเวียนไปทุ่งศรีเมืองและสถานที่โดยรอบตั้งแต่ก่อนวันงานบุญ  วันแห่ต้นเทียน  กระทั่งหลังวันเข้าพรรษาอีกหลายวัน  อยากได้ภาพต้นเทียนล้วน ๆ ในมุมสวย ๆ ไร้เงาผู้คน  แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย  เพราะใคร ๆ ก็ชื่นชม อยากถ่ายรูปกับต้นเทียน  อยากดูใกล้ ๆ อยากลูบคลำ(ซึ่งก็มีผู้ทำจนเทียนสึกกร่อนน่าเสียดาย)  


        อยากท่องอุบลอยากดูต้นเทียนเต็มตาจึงต้องแวะเวียนไปแถวทุ่งศรีเมืองและวัดต่าง ๆ ใกล้เคียงหลายครั้งทั้งก่อนและหลังวันแห่เทียน  พ่วงลูกเล็กเด็กแดงไปเที่ยวกันสนุก  เพราะเป็นช่วงโรงเรียนหยุดด้วย

        “ไหนล่ะต้นเทียน  นี่หรือต้นเทียน”  น้องจีด้ามองหุ่นรูปเทวดา พญาครุฑ พญานาค ที่ตั้งตระหง่าน อร่ามเรืองอยู่ตรงหน้าแล้วถามพลางขมวดคิ้วสงสัย  

        นับประสาอะไรกับเด็กวัยอนุบาลอย่างน้องที่ต้องสงสัย  เพราะความวิจิตรพิสดาร ประณีต ลออละอองอ่อนช้อยแห่งฝีมือสลักเสลาเกลากลึงที่ได้เห็นนั้น มันช่างเหลือเชื่อ เหนือจินตนาการ แม้แต่ผู้ใหญ่ยังสงสัยอยู่ว่านี่คือเทียน หรือขี้ผึ้งแน่หรือ

        ช่างยากในการจะอธิบายให้เด็กวัยน้องจีด้าให้เข้าใจ  โชคดีเหลือเกินในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานีที่อยู่ใกล้กันนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)อุบลราชธานี  จัดให้เป็นสถานที่ที่จัดกิจกรรมหนึ่งในหลายกิจกรรมในเทศกาลงานแห่เทียนพรรษานี้  นั่นคือ “กิจกรรมประติมากรรมเทียนศิลปะร่วมสมัย” โดยศิลปิน ๑๓ ศิลปินจาก ๘ ประเทศขึ้น  มีการแสดง สาธิต การทำเทียนให้แก่ผู้สนใจ  และได้ตอบคำถามน้องผู้ช่างสงสัยได้ทดลองกันสนุกด้วย

        มีเทียนที่ต้มจนละลายร้อนๆ ใส่ถังตั้งไว้ให้ทดลองด้วยการจุ่มมือลงไปนำขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น หลาย ๆ ครั้งจนเทียนพอกเต็มฝ่ามือ  ได้ต้นเทียนรูปฝ่ามือชูขึ้นมาอวดกัน

        พี่อิ๊กคิวนั้นเป็นหน่วยกล้าหาญกระทำการหล่อเทียนให้น้องดูจนสิ้นสงสัย  ขอบคุณผู้คิดโครงการนี้ขึ้นมา  ขอบคุณเจ้าของสถานที่เขาละ


        หลังจากชมเทียนรูปแปลกตา  ของศิลปินนานาชาติแล้วก็ได้เวลาไปไหว้พระ และดูต้นเทียนของจริงในวัดกันละ

        ใกล้ ๆ กันนั้น  ฝั่งตรงกันข้ามกับพิพิธภัณฑสถานฯนั้นเป็นที่ตั้งวัดศรีอุบลรัตนาราม(ที่ตั้งโรงเรียนพี่อิ๊กคิวด้วย)  ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม  พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี  โอกาสอย่างนี้ควรไปกราบไหว้ขอพรอย่างยิ่ง


         พระแก้วบุษราคัม  เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอุบลราชธานี  และเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปตระกูลแก้วนพรัตน์ซึ่งบรรพบุรุษอุบลราชธานีนำมาด้วยจากล้านช้าง  เพื่อปกปักรักษาป้องกันเภทภัยจากข้าศึกศัตรู  เป็นมิ่งขวัญส่งเสริมกำลังใจให้ลูกบ้านชาวเมืองเข้มแข็ง ยืนหยัด ต่อสู้กันมาจนรุ่งเรืองเป็นเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ประเทศราช  ตลอดมาตราบปัจจุบัน  ซึ่งถูกเก็บรักษาซุกซ่อนไว้อย่างดีในช่วงเวลาที่บ้านเมืองยังไม่ตั้งมั่น หวั่นไหว ภายหลังจึงได้อัญเชิญมาไว้ที่เปิดเผยให้ลูกหลานสาธุชนได้กราบไหว้เป็นสิริมงคล   


        พระพุทธรูปตระกูลแก้ว(แก้ว๙ชนิด)ในเมืองอุบลมีอยู่หลายองค์ กระจายในหลายวัด ต่างมีตำนานการเก็บซ่อน และได้มาคล้าย ๆ กัน  คือ  

พระแก้วหยดน้ำค้าง วัดสุปัฏนาราม  พระแก้วมรกต  วัดเลียบ  พระแก้วโกเมน  วัดมณีวนาราม(วัดป่าน้อย)  พระแก้วนิลกาฬ  วัดเลียบ  พระแก้วไพฑูรย์ วัดหลวง 


         สำหรับ พระแก้วบุษราคัม วัดศรีอุบลรัตนาราม  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยแก้วสีน้ำผึ้ง(เหลืองเข้ม) ขนาดหน้าตัก ๓ นิ้ว สูง ๔ นิ้ว  ตามตำนานเป็นสมบัติของเจ้าปางคำ(เชื้อพระวงศ์จากเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า)ซึ่งมาพึ่งเวียงจันทน์ตั้งเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน(หนองบัวลุ่มภู) ต่อมาตกเป็นของลูกหลาน คือ พระตา พระวอ จนถึงท้าวคำผง  เมื่อเกิดเหตุต้องทิ้งนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานก็จึงเป็นสมบัติติดตัวมาจนถึงเมืองอุบลราชธานี ศรีวนาลัยประเทศราช  ในช่วงหนึ่งได้นำไปเก็บซ่อนไว้ที่วัดบ้านนอกห่างไกลจากตัวเมือง(วัดบ้านวังกางฮุง อ.วารินชำราบคนละฟากฝั่งแม่น้ำมูล)เป็นเวลาหลายปี  ต่อมาเมื่อเห็นว่าปลอดภัยและมีการสร้างวัดศรีทอง(นามเดิมของวัดศรีอุบลรัตนาราม)จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่นี่  และทุก ๆ ปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์จึงได้อัญเชิญลงไปแห่รอบเมืองก่อนกลับมาประดิษฐานไว้ที่ศาลาด้านนอกให้ประชาชนได้มาสรงน้ำประจำทุกปี

         วันนี้ไม่ใช่สงกรานต์แต่เป็นเทศกาลเข้าพรรษา เราจึงได้กราบพระแก้วกันในโบสถ์  นอกจากพระแก้วบุษราคัม ในวัดศรีอุบลรัตนารามแล้ว  พระแก้วในวัดใกล้ ๆ ที่ได้ไปกราบไหว้ ก็คือ  พระแก้วโกเมนวัดมณีวนาราม(วัดป่าน้อย)  เพียงขับรถอ้อมทุ่งศรีเมืองไปด้านทิศตะวันออก  ผ่านหน้าวัดทุ่งศรีเมืองไปทิศเหนือก็ถึงวัดป่าน้อยที่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ สูงเสียดฟ้า ประกาศความเป็นดงอู่ผึ้งในอดีตให้เห็นอย่างภาคภูมิใจอยู่มากมาย

          พระแก้วโกเมนก็เป็นหนึ่งในมรดกล้ำค่าที่มีตำนานการเก็บรักษาเช่นกันกับพระแก้วบุษราคัม แต่พระพุทธรูปสำคัญองค์นี้พบในผอบไม้จันทน์ในวัดบ้านกุดระงุม อำเภอวารินชำราบ ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำมูลกับอุบลราชธานีเช่นกัน

Tags : สุดยอดเส้นทางท่องเที่ยวในหมู่บ้านโอท็อป

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view