http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,352,200
Page Views16,682,676
« October 2024»
SMTWTFS
  12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ทริป คาราวาน มหัศจรรย์สีเขียวเที่ยว 3 แม่

ทริป คาราวาน มหัศจรรย์สีเขียวเที่ยว 3 แม่

ทริป คาราวาน มหัศจรรย์สีเขียวเที่ยว 3 แม่

8-12 สิงหาคม 2557 กับ ททท.ตากและททท.แม่ฮ่องสอน

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง /นิวัตร เปาอินทร์ ภาพ

          ด้วยบริบทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาค ภาคเหนือ ร่วมกับเครือข่ายในสังกัด ททท.ตากและททท.แม่ฮ่องสอน ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนได้แก่ น้ำมันเพียวและกานต์แอร์ เกิดทริปคาราวานมหัศจรรย์สีเขียวเที่ยว 3 แม่ นั่นหมายถึงจากแม่สอดเลาะเลียบไปตามตะเข็บชายแดน จนถึงแม่เสรียง และสิ้นสุดที่แม่ฮ่องสอน ไปกลับกรุงเทพ กว่า 3,000 กม. เมื่อ 8-12 สิงหาคม 2557 แม้เหนื่อยแต่สนุกสุดๆ


           ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาค ภาคเหนือ นางสุจิตรา จงชาญสิทโธ เป็นประธานเปิดเส้นทางที่สถานีจ่ายน้ำมันเพียว รังสิตคลอง2  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน นายวิศนุ อรุณบำรุงวงศ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยตัวแทนน้ำมันเพียวและกานต์แอร์ และสมาชิกคาราวานกว่า 200 คน รถยนต์ 50 คัน


           สมาชิกคาราวาน 50 คันนั้น บางคันเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อแม่ลูก บางคันเป็นลูกพาพ่อกับแม่เที่ยว หลายคันไปแบบทริปฮันนีมูนสองคู่ชู้ชื่น แต่ละคันมาจากต่างท้องที่ เกือบทั่วประเทศ เหนือ ใต้ ออก ตก และอีสานบ้านเฮา เป็นความกลมกลืนที่แตกต่าง แต่ก็ช่วยให้การเดินทางมีสีสัน จอดพักรถคราวใดก็ได้ยินสำเนียงเสียงพูดที่หลากหลาย

           ที่น่าทึ่งมากก็ครอบครัวที่มีพ่อแม่สูงอายุ แต่กลับทรหดอดทนนักหนา ส่วนครอบครัวน่าทึ่งอีกกลุ่มคือกลุ่มลูกๆยังเล็กๆน่ารัก เพราะว่าเป็นการเดินทางไกลที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย เส้นทางหรือก็คดเคี้ยวเลี้ยวลดไปตามไหล่เขาและแม่น้ำเมย บางช่วงต้องไต่ระดับขึ้นสูงเสียดฟ้าแล้วไหลลงสู่ที่ราบต่ำ หูอื้อกันไม่น้อย


           หลังจากพิธีเปิดคาราวาน จุดแรกที่ไปถึงคือจังหวัดตาก แน่นอนต้องไปนมัสการศาลสถิตรูปปั้นของพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ที่ทรงกอบกู้แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาคืนมาจากพม่าในการเสียกรุงครั้งที่ 2 กลิ่นธูปควันเทียนลอยเข้าจมูกไปทั่วบริเวณ แต่ละคนรู้สึกได้รับอิสรภาพจากการเดินทางที่ต้องนั่งแต่บนรถหลายชั่วโมง สำหรับผมไปหลายครั้งแต่ทุกครั้งน้ำตาเอ่อขอบตา พระคุณของพระองค์ยิ่งใหญ่เหลือคณนา


ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ชุลีวันทน์ สายสิงห์ทอง 

           และแล้วการเดินทางที่เริ่มเลี้ยวลดคดเคี้ยวก็เริ่มขึ้น ตาก-แม่สอด ที่ต้องละเลียบไปตามไหล่เขา ได้เห็นดินสไลด์เป็นบางช่วง รู้สึกปลอดภัยกับการทำงานของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดตาก เพราะว่าถ้าแม่สอด-ตากปิด นั่นหมายถึงเศรษฐกิจซบเซาลงไปทันตาเห็น มิใช่แค่การท่องเที่ยว หากแต่การขนถ่ายสินค้านำเข้าและส่งออกมูลค่าหลายพันล้านบาทด้วยนะ


           ตลอดเส้นทางไม่มีการหยุดจอดที่ใดๆ เร่งทำเวลาให้ทันเข้าพักที่ เซ็นทารา แม่สอด ฮิลล์ รีสอร์ท  พอค่ำลง ก็เวียนกันเลือกที่นั่งตามชอบให้ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ บนเวทีมีการแสดงมากมายหลายชุด ล้วนแต่เป็นศิลปะ วัฒนธรรม ด้านการแสดงของชนเผ่าต่างๆในจังหวัดตาก เป็นเยาวชนกำลังน่ารัก การให้แสงสว่างไม่แจ่ม การถ่ายรูปเลยไม่สะใจ


           วันรุ่งขึ้น หลังอาหารแล้วก็ขึ้นรถใครรถมัน ส่วนสื่อมวลชนก็ไปรถตู้ตามที่ ททท.ตากและททท.แม่ฮ่องสอน จัดให้  เปลี่ยนถ่านรถตู้ของ ตชด.แม่สอด ก่อนจะเข้าไปยังเมืองเมียววดี รัฐกระเหรี่ยง แห่งประเทศเมียนมาร์  ได้ไปไหว้พระและพระธาตุวัดส่วยมิ่นวุ่น(วัดเจดีย์ทอง) ได้ชมพระประธานบนศาลาการเปรียญที่สานด้วยไม้ไผ่ทั้งองค์ ได้เห็นศรัทธาของชากระเหรี่ยงพุทธเหนียวแน่น


พระประธานสร้างด้วยไม้ไผ่สานสวยงาม

             คณะเดินทางต่อไปยังวัดมิเจาโกง(วัดจระเข้ใหญ่) ถ่ายรูปกันพอเป็นสังเขปก็ไปวัดเจ้าโลงจี(วัดก้อนหินใหญ่) จังหวะนั้นเองเป็นช่วงเวลาพระฉันเพล ชาวพุทธที่นี่เคร่งมาก สตรีนุ่งซิ่นสวมเสื้อคอวีแขนสามส่วนห่มผ้าสไบเฉียงสีกลักสวยงาม พระกับฆราวาสมีตั่งนั่งฉันและกินอาหารพร้อมๆกัน ซึ่งวัดนี้ ผมเคยได้รับเชิญให้ร่วมวงกินข้าวกลางวันด้วยครั้งหนึ่งมาแล้ว


            แวะอีกวัดไม่รู้ชื่อ มีพระยืนองค์ใหญ่ ชาวคณะได้รับการนำพาให้ขึ้นไปกราบพระบรมธาตุบนศาลาการเปรียญ พระสงฆ์พม่าไว้คิ้วหนาเตอะ ห่มผ้าสบงจีวรสีกลัก ท่าทางสบายๆ ไม่เคร่งขรึม เคร่งครัดอะไรนักหนา จากนั้นก็เดินทางกลับมาเปลี่ยนรถตู้เป็น ททท.จัดให้ ก็พอดีได้เวลาอาหารกลางวันที่เฮือนคำฟ้า แม่สอด


              ขบวนคาราวานกว่า 50 คันเลื้อยผ่านหุบเขาสันเขาและเลาะไปตามชายเขา มุ่งหน้าไปยังอำเภอแม่ระมาด-ท่าสองยาง สองข้างทางมีทั้งป่าไม้ใบบังและเทือกเขาหัวโล้นที่ปลูกถั่วเหลืองและข้าวโพด บางช่วงมีนาขั้นบันได บางช่วงมีดอกไม้ป่าจำพวกกล้วยสี กระเจียวสีส้ม ให้ชมเป็นระยะๆ น่าเสียดายที่วิวทิวทัศน์สวยงามไม่ได้แวะถ่ายรูปไว้


             แวะชมทัศนียภาพแม่น้ำเมยที่หมวดการทางท่าสองยาง ได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมเมย การปลูกข้าวไร่บนดอยแบบอาศัยน้ำฝน การทำไร่เลื่อนลอยบนเขาสูงเสียดฟ้า พี่น้องชนเผ่าแต่ละเผ่ามีวัฒนธรรมการทำไร่บนดอยแตกต่างกัน หากเป็นกระเหรี่ยงจะทำกินพื้นที่เดิม 3  ปี เว้น 3-5 ปี ให้พื้นดินคืนสภาพความอุดมสมบูรณ์ แล้วจึงจะกลับมาทำซ้ำอีก 3 ปี เรียกว่าการทำไร่หมุนเวียน แต่ถ้าเป็นชาวเขาเผ่าม้งจะถางจนเตียนโล่งถึงยอดเขา ทำซ้ำด้วยการเติมปุ๋ยเคมี


กราบเรียนท่านไปแล้วว่า ไม่หยุดให้ถ่ายภาพจะใช้ภาพท่านใส่แทน

              ช่วงการเดินทางในเขตอำเภอท่าสองยางยาวไกลมาก กว่าจะไปถึงอำเภอแม่เสรียงก็ค่ำเต็มที ฝนเทลงมาประปราย จึงต้องหลบเข้าไปในวัดศรีบุญเรือง วัดสวยงามประจำอำเภอที่ขึ้นชื่อ โดยมีท่านนายอำเภอแม่เสรียง นายเล็ก ศรีเรือง ได้มารอต้อนรับคณะ พร้อมกับนำกราบไหว้พระสงฆ์  หลังจากนั้น ได้ร่วมรับประทานอาหารแบบพื้นเมืองบนขันโตก

 

นายอำเภอแม่เสรียง เล็ก ศรีเรือง กรุณามานำกราบไหว้

              อาหารอร่อยวันนั้น ก็เช่นลาบหมูคั่ว น้ำพริกหนุ่มแกล้มด้วยผักลวกและแคบหมูไร้มัน ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงแคไก่  ต้มไก่บ้าน ฯลฯ พร้อมกับชมการแสดงของชนเผ่าเยาวชนน่ารักๆ เพลิดเพลินจนไม่อยากขยับตัวไปไหน เป็นความงดงามที่เคล้าด้วยเสียง สะล้อ ซอ พิณ และตะโพนจังหวะ ไพเราะ ละมุนละไม เหลือแสน


              อำเภอแม่เสรียงมีโรงแรม รีสอร์ท และโฮมสะเตย์ ขนาดเล็กๆมากมาย สามารถรองรับคณะนักท่องเที่ยวได้อย่างสวยหรู บรรยากาศบ้านป่าเมืองดอยที่หาที่ใดเสมอเหมือน เงียบสงบแต่ไม่เหงาจนหง่อม เช้าตื่นขึ้นมา คาดหวังกันว่าต้องไปเดินชมบ้านเรือนไม้สักของชาวตลาด ได้เห็นบานเฟี้ยมสวยๆ ได้เดินไปดื่มกาแฟที่ร้านหน้าตลาด แกล้มด้วยปาท่องโก๋นิ่มๆ บรรยากาศสงบเงียบเรียบง่าย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบความวุ่นวาย และพักยาวสำหรับคนเกษียนงานแล้ว


              หลังอาหารเช้าที่โรงแรมริเวอร์เฮ้าส์ แม่เสรียง คาราวานกว่า 50 คัน ก็ออกเดินทางไปตามถนนสาย 108 แม่เสรียง-แม่ฮ่องสอน ไต่ไปตามความสูงชันของขุนเขาแสนไกล ไปจนถึงอำเภอแม่ลาน้อย แล้วแยกไปตามถนนสาย 1266(แม่ลาน้อย-บ้านละอูบ) ทำกิจกรรม CSR ที่โรงเรียนศิษย์เก่าพยาบาลศิริราชบ้านดง อันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวลั้วหรือละว้า


อะโวกาโด พันธุ์แฮส

              ได้เห็นแม่สะพายลูกน้อยด้วยผ้า แตกต่างจากการสะพายลูกของชาวม้งและเมี่ยน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็นการถักทอด้วยมือของชาวละว้าเอง เพื่อใช้ในครัวเรือน บ้านดงอยู่ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งมีงานวิจัยพืชไม้ผลเมืองหนาวเช่นอะโวกาโด้พันธุ์แฮช ลูกเล้กๆแต่อร่อยหอมมัน เพื่อทดแทนการปลูกพืชไร่อายุสั้นๆและฝิ่น มีการทำนาแบบขั้นบันไดให้เห็นทั่วไป


              อาหารเที่ยงมื้อนั้น รับประทานกันในโครงการหลวงแม่ลาน้อย ก่อนจะเดินทางย้อนกลับไปตามถนนสาย 108 เช่นเดิม พอย่างเข้าเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รถก็พาขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุดอยกองมู เพื่อนร่วมคาราวานเดินไปซื้อหาเครื่องเซ่นไหว้ เงินกระจายไปไม่น้อย ที่บนนี้นี่เองที่ได้เห็นเมืองตุ๊กตาในหุบเขา ช่างสงบงาม


ผอ.วิศนุและผอ.ธมลวรรณ 

              คืนนี้พวกเราพักที่โรงแรมใบหยกชาเลต์ รับประทานอาหารที่ร้านใบเฟิร์น มีการฟ้อนหงส์ของพี่น้องชาวไทยใหญ่ให้ชม เผอิญนั่งคนละห้องเลยชวดอดชม  แต่ด้วยวิสัยสื่อมวลชนคนชอบถ่ายรูป อิ่มแล้วก็เดินชมตลาดยามราตรีบนถนนคนเดิน จากหน้าโรงแรมไปยังวัดจองกลาง จึงได้ภาพวัดจองกลางในราตรีมาฝาก เป็นอีกความงดงามของเมืองในหุบเขาชื่อ แม่ฮ่องสอน


ร้านในถนนคนเดินยามค่ำ

              เช้ามืด ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปลุก เพื่อจะลุกไปถ่ายรูปตอนก่อนฟ้าจะสาง เป้าหมายก็วัดจองกลาง ริมสระน้ำกลางเมืองแม่ฮ่องสอน วัดที่สร้างด้วยศิลปะ ไทยใหญ่ผสมพม่า อันเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมหนึ่งของชนเผ่า แต่ฟ้าไม่เป็นใจนัก แสงสีน้ำเงินยามเช้ามืดกลับหมองมัวไป นั่นก็เป็นอีกเหตุของธรรมชาติที่เหนือการควบคุม มิเช่นนั้น ก็จะได้เห็นเจดีย์สีทองอร่ามเรืองในท้องฟ้าสีน้ำเงินเต็มๆ

               หลังอาหารเช้า ททท.แม่ฮ่องสอนและตากได้พาคาราวานไปกราบไหว้ยังสวนธรรมภูสมะ ที่บ้านรวมไทย อันเป็นชนเผ่าไทยใหญ่ ได้ตักบาตรอาหารแห้งบนสะพานซูตองเป้ที่ทอดยาวจากหมู่บ้านมายังสวนธรรมแห่งนี้ ได้ชมน้องนวลสาวไทยใหญ่ฟ้อนนกยูงรำแพนและสิงห์ผงาดฟ้า  ถามว่าถ้าจะบอกว่า ฉันรักเธอ ในภาษาไทยใหญ่ว่าพูดว่าอย่างไร ได้ความชัดถ้อยชัดคำว่า เฮาฮักสู ปัทโธ่เอ๋ย ช่างกระไรหรือนี่ ก็เราเป็นไทยน้อย ส่วนน้องนวลเป็นไทยใหญ่ ใช้รากเหง้าภาษาเดียวกันนั่นเอง


สะพานซูตองเป้

              อิ่มบุญ อิ่มใจ กับภาพความสวยงามของพิธีสงฆ์ท่ามกลางสะพานทอดยาวบนทุ่งนาเขียวขจี แสงแดดอ่อนๆอุ่นไอให้ความรู้สึกละมุน เชิงเขาทอดรายล้อมหมู่บ้านและสวนธรรม แม่ขาวนุ่งห่มตามพุทธประเพณีมากมาย พระสงฆ์ห่มองค์ด้วยจีวรเหลืองแก่ พุทธศาสนิกชนรอตักบาตรล้นสะพาน เป็นความสวยงามที่เกิดดั่งนิมิต


ป่าสนสามใบในม่านฝน 

               จากแม่ฮ่องสอนเมืองในอ้อมกอดแห่งขุนเขามิตินี้เป็นหน้าฝน ผืนป่าโดยรอบเมืองเขียวขจี สีสันสดใส ใบไม้พรมพราวด้วยหยดน้ำฝนและไอหมอก คาราวานรถของนักท่องเทียวกว่า 50 คันแล่นไปเรื่อยๆตามถนนสายแม่ฮ่องสอน-พระตำหนักปางตอง(ปางอุ๋ง) เยี่ยมยามป่าสนสามใบสวยงามกับน้ำใสๆในอ่างกลางป่าเขียว ที่นี่มีโฮมสะเตย์มากมายให้นักท่องเที่ยวพักแรมในฤดูการท่องเที่ยว หน้าหนาวแสนโรแมนติก ที่นี่คือบ้านรวมไทย ในโครงการหลวงปางตองนั่นเอง นักท่องเที่ยวกว่า 200 ชีวิตเวียนกันถ่ายภาพใต้ผืนป่าสนสามใบในหน้าฝน สนุกสนาน


                และแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังบ้านรักไทย หมู่บ้านชาวจีนยูนนาน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านชาสารักไทย สไตล์จีนยูนนาน อันประกอบไปด้วย ขาหมูยูนนานกับหม่านโถว หมูสามชั้นในสมุนไพรจีนและเครื่องเคียงผักปรุงรสร้อนแรง ซดน้ำซุปตุ๋นไก่ดำเครื่องยาจีนหอมกรุ่น ฯลฯ กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหลือ



               อิ่มแล้วก็เดินไปชมชุดน้ำชาจีน ผลไม้อบแห้งดองเค็ม เชื่อมหวานๆ ส่วนใครใคร่ซื้อก็ซื้อไป คนไม่ชอบซื้อก็เดินชมไปเรื่อยๆ ใกล้ๆร้านนี้เป็นเวิ้งน้ำในสระขนาดใหญ่ บ้านเรือนชาวจีนยูนนานเป็นกลุ่มก้อน เรือนรวงสร้างสไตล์จีน บนความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร หน้าฝนก็แค่เย็นเยือก แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวอากาศจะลดต่ำลงสักเพียงใด ไอหมอกจะฟุ้งกระจายหรือจะห่มคลุมไปทั้งหุบเขา ที่นี่ก็น่าพักแรมยามหนาวสัก 2 คืน


               ได้เวลาที่คาราวานรถยนต์จะต้องเคลื่อนพลบนถนนสาย 1095 มุ่งสู่อำเภอปาย แดนดินถิ่นของหลายชนเผ่า การแล่นรถยนต์กว่า 50 คันบนถนนลอยฟ้านั้นช่างตระการตา เหมือนพญางูยักษ์เลื้อยไหลไปตามทางบนสันดอยเขียวขจี เพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อ คาราวานได้แวะพักที่หมู่บ้านลุกข้าวหลาม ชมผลิตภัณฑ์จากงานฝีมือของพี่น้องคนดอยชาวมูเซอร์


เด็กๆน่ารักในชุดชนเผ่าของเธอ เพื่อการท่องเที่ยวจ้า

 สิบะ สิบะ

                พอหายเหนื่อยเมื่อยล้าก็ออกเดินทางกันต่อ งูยักษ์เลื้อยไหลไปบนสันดอยอีกครา มุ่งหน้าสู่จุดชมวิวดอยกิ่วลม รอยเชื่อมต่อระหว่างอำเภอปายกับอำเภอปางมะผ้า นักท่องเที่ยวรวมกลุ่มกันถ่ายรูปหมู่ บางกลุ่มก็รวมกันกระโดดตัวลอยให้ถ่ายรูป บางกลุ่มก็แบไปโพสท์ท่าให้ถ่ายเฉพาะตัว บางคนแก่แล้วรักเด็กๆก็ไปอุ้มเอาไว้เพื่อให้หนูน้อยหอมแก้มแล้วแถมสตางค์ให้กินขนม โถ ก็เธออุตสาห์แต่งตัวด้วยชุดมูเซอน่ารักๆ ให้สาวยังให้ได้ ให้เด็กเล็กมีปัญหาตรงไหนฟะ


              ค่ำแล้ว เข้าพักแรมที่ เบลล์วิลาร์ รีสอร์ท งานจัดเลี้ยงอำลาครึกครื้น ด้วยภาณุทัต เดอะสะล้อ แจกรางวัลกันมากมายหลายเรื่องราว อิ่มอร่อยกับอาหารที่พรั่งพร้อม พระจันทร์แมนด้านหลังเวทีกลางสนามหญ้าหน้ารีสอร์ท งดงาม เสียงหริ่งหรีดเรไรขับขานแข่งกับเสียงเครื่องเป่าและดีดสี  ราตรีนี้ยังเยาว์นัก แต่เมื่อเหนื่อยกันมาทั้งวัน ราตรีสุกงอมจนหงอยเหงาจับใจ  ราตรีสวัสดิ์กับความอบอุ่นจากท่านผู้อำนวยการทั้งสอง ตากและแม่ฮ่องสอน  


             ลาก่อนเมืองปาย บ๊ายบายเมืองในหมอกยามหนาวเหน็บ เสน่หาอาลัยไปโดยถ้วนทั่ว แม้จำจากลาแต่ใจยังไม่อยากไป ลาก่อนแม่สอด ลาก่อนแม่เสรียง ลาก่อนแม่ฮ่องสอน ลาก่อนเมืองปาย ลาก่อนภูเขาหนาวฝนพรำตลอดทาง ลาก่อนเมฆลอยลิ่วปลิวตามแรงลม ลาก่อนสายลมเฉื่อยฉิวจนยอดสนโอนลู่ ลาก่อนพี่น้องชนเผ่าทุกผู้ ยกมือขึ้นบ๊ายบายเป็นความหมายว่าอ้ายลาก่อน เน้ออีน้องน่องงาม


             ตลอดทริป มหัศจรรย์สีเขียวเที่ยว 3 แม่ 8-12 สิงหาคม 2557 ท่านผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้งสองคือ ผอ.ททท.ตาก ธมลวรรณ เรืองขจร และผอ.ททท.แม่ฮ่องสอน วิศนุ อรุณบำรุงวงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวของทั้งสองสำนักงาน ร่วมเดินทางและให้ความกระจ่างระหว่างทางอย่างเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพิ่งเคยพบประสบก็คราวนี้ เฮ เฮ เฮ 


และเพื่อนสื่อมวลชนจังหวัดตาก

และลืมไม่ได้ เจ้าหน้าที่ ททท.ตาก คุณแก้วตา รัตโนทัย คนขยัน

Tags : เที่ยวอุบลอย่างคนอุบล 2.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view