ใต้ต้นเงาปาล์ม
“สาวภูไท”
นี่เป็นต้นปาล์มน้ำมันที่ปลูกกันทั่วไปในแถบภาคใต้ของไทยมาหลายสิบปีจนกลายเป็นเหมือนพืชพื้นเมืองที่มีอยู่คู่กับผืนแผ่นดินอีกชนิดหนึ่ง หลายสวนปลูกและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จนต้นหมดอายุต้องฆ่าทิ้งแล้วปลูกใหม่ทดแทน
ต้นปาล์มรุ่นปู่ถูกฆ่าให้ยืนต้นตายอยู่ระหว่างแถวต้นปาล์มรุ่นหลานที่กำลังพลิ้วส่ายทางใบไหวเริงร่าตามแรงลม
หลายบ้านเรือนในแถบถิ่นนี้ที่ถูกปาล์มมาจนต้นมันสูงใหญ่ สูงท่วมหลังคา กลายเป็นร่มเงาให้อาศัยความร่มรื่น และปาล์มก็ยืนเด่นแข็งแรงต้านแรงลมที่พัดสะบั้นจากอันดามัน
หลายปีแล้วที่สาวภูไทจากที่ราบสูงเทียวมาใช้ชีวิตอยู่ใต้ต้นเงาปาล์มกับลูกสาวที่ริมฝั่งอันดามัน
เธอเป็นนักวิชาการด้านข้าว ปลูกข้าวใต้ต้นเงาปาล์ม
หมู่บ้านที่อยู่อาศัยล้วนอยู่ใต้ต้นเงาปาล์ม ผู้เขียนได้เคยไปร่วมงานบุญในศาลาหน้ามัสยิดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าปาล์ม เคยไปร่วมงานแต่งงานที่จัดโต๊ะเลี้ยงแขกใต้ต้นเงาปาล์ม คุ้นเคยกับชินตากับเตาขนาดใหญ่จุดไฟลุกโพลงเพื่อตั้งหม้อต้มแกงขนาดสี่หูอยู่ใต้ต้นเงาปาล์มอันร่มรื่นและอบอุ่น
ยินเสียงป๊อก ๆ ๆ ... อันเกิดจากการเคาะขนมลาของมะข้างบ้าน ผสานกับเสียงจุ๋ง ๆ ๆ ...ของนกตบยุง ปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ของทุกวันเป็นคล้ายเสียงบอกเวลารุ่งสางก่อนพระอาทิตย์จะส่องแสงทแยงมาใต้ต้นเงาปาล์ม
“นั่นเห็ดอะไรดูคล้ายเห็ดฟาง”
“เห็ดปาล์มครับ”
“พาไปดูหน่อยเก็บจากตรงไหน”
ไม่ไกลเลย ใต้ต้นเงาปาล์มที่สวนข้างบ้านนั่นเอง เขาเอาทะลายปาล์มแห้งมากองทับถมให้ความชุ่มชื้นแก่สวน ฝนตกลงมา สลับกับแดดจ้าที่แผดเผา ความเน่าเปื่อยหมักหมม อุณหภูมิและความชื้นที่พอเหมาะก็เพาะเห็ดปาล์ม(ที่จริงจากรูปร่างหน้าตาและรสชาติก็เห็ดฟางนั่นแหละ)ขึ้นมาให้เก็บไปกินได้ไม่ต้องซื้อหา หากขยันก็เก็บไปขายได้อีกด้วย
“อุ๊ย...”
ขณะส่องลอดสอดส่ายสายตาดูเห็ดปาล์มเจ้าวัวผู้จองใบปาล์มสดเป็นอาหารก็ส่งเสียงฟูด...บอกความเป็นเจ้าถิ่น ต้องหันหลังกลับถอยออกจากใต้ต้นเงาปาล์ม
ใบปาล์มอาหารโปรดของวัว และเห็ดฟางอาหารโปรดของเราเป็นเพียงผลพลอยได้จากปาล์มน้ำมันนี้
ผลประโยชน์จริง ๆ ของผู้ปลูกคือขายผลปาล์มพร้อมทะลายกิโลละ๕-๖บาท(ราคาตอนนี้ปี๕๗นะ)
คิดคำนวณแล้วปาล์มทะลายหนึ่งก็หลายกิโลอยู่นะ การดูแลรักษาก็แสนง่ายเมื่อเทียบกับการปลูกพืชผลอื่น ๆ เพียงแต่ต้นปาล์มต้องการน้ำและความชุ่มชื้นมากหน่อย
เป็นโชคดีของชาวใต้ที่อยู่ในเขตฝนชุก และดินอุดม
หลายบ้านจัดสวนใต้ต้นเงาปาล์มให้เป็นรีสอร์ท เป็นโฮมเสตย์ที่น่าเข้าพัก น่าสนใจเชียวหละ หลายสวนปาล์มมีร่องน้ำระหง่างทิวปาล์มเลี้ยงปลาโหลเช่นนิล ไน สวาย ดุก ไว้เป็นผลพลอยได้อีกอย่างแน๊ะ
เจ้าต้นปาล์มนี่จึงน่าสนใจว่าไหมคะ
มารู้จักมันดีกว่า นัยว่าตอนนี้ที่อีสานบ้านเฮาก็มีปลูกกันหลายพื้นที่แล้ว แถวอุบลมีโรงงานรับซื้อถึงที่ด้วยหละ
ปาล์มน้ำมัน(Oil palm) เป็นพืชตระกูลปาล์ม ที่คล้ายต้นตาลแต่ใบเป็นใบประกอบแบขนนกคล้ายทางมะพร้าว โคนกาบใบมีหนามแต่ไม่คมเมื่อถึงกลางใบหนามจะพัฒนาเป็นใบ ออกดอกแบบแยกเพศ ออกผลเป็นทะลายอัดกันแน่นเป็นกลุ่มก้อนง่ายต่อการเก็บเกี่ยว ต้นปาล์มมีอายุยืน โตเต็มที่ต้นอาจสูงได้ถึงสิบเมตร ลงทุนปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลได้กว่า ๒๐-๓๐ ปี และหากจะเทียบกับการปลูกพืชน้ำมันอื่น ๆ ที่สำคัญของโลก เช่น ถั่วเหลือง ทานตะวัน ฯลฯ แล้วราคาต้นทุนการปลูกปาล์มจะต่ำกว่า
ผลปาล์มคือส่วนที่ใช้ผลิตน้ำมันปาล์มซึ่งใช้ประโยชน์ได้มากมายเหลือคณานับ ใช้ผลิตเป็นอาหารโดยตรง แปรรูปเป็นนม เนย ครีมเทียม เครื่องสำอาง สารซักล้าง และปัจจุบันยังใช้ผลิตน้ำมันไบโอซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่โลกกำลังเสาะหาเพื่อมาทดแทนพลังงานฟอสซิลที่กำลังลดปริมาณลงทุกวัน
ในด้านอาหารนั้น น้ำมันปาล์มประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด อุดมด้วยวิตามินอีและเอ ขบวนการผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย
ปัจจุบันมีสายตาที่มองต้นปาล์มอันถูกฆ่าให้ยืนต้นตายอย่างไร้ประโยชน์อย่างน่าเสียดาย การแปรรูปเนื้อไม้ให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ และแผ่นไม้ที่ประกบผิววัสดุอื่นให้มีความแข็งแรง ด้วยเนื้อไม้ปาล์มนั้นอ่อนไม่เหมาะสำหรับใช้งานด้านโครงสร้างก่อสร้าง แต่เนื้อไม้กลับมีลวดลายสวยงามผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในร่มได้ความสวยน่าทึ่งเชียว เช่นโคมไฟ แจกัน พื้นเก้าอี้
แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไปแล้ว ใบปาล์มสดก็เป็นอาหารของวัว ของแพะอยู่แล้วหละ นอกจากนั้นตัดมันทิ้งลงไปในบ่อปลานิลก็จะได้รับความขอบคุณจากเหล่าปลาทั้งหลายด้วยละ พวกปลาเหล่านั้นมันกินทุกอย่างอยู่แล้วนี่ อย่าว่าแต่คุณป๊ะชายยังใช้มุงกระท่อมกลางสวนมานานแล้วด้วย
กลับอีสานคราวนี้คงพกเอาความคิดถึง “ใต้ต้นเงาปาล์ม” ไปด้วยแน่เลย
หรือว่าจะตัดต้นยางพาราที่กำลังส่ายใบฟ้อนไหวอยู่นั่นทิ้งไปดีหรือเปล่าหนอ
ถึงยังไงคนอีสานก็ได้ชื่อว่าพวกปลูกหลากหลายอยู่แล้วเนาะ
....