ท่องอุบลแบบคนอุบล ๕
ทอฝ้าย สายบุญจุลกฐินวัดไชยมงคล
“เอื้อยนาง”
วันที่ ๕ พฤศจิกา ๕๗ ก่อนวันลอยกระทงหนึ่งวัน พระจันทร์สวยแย้มฟ้า เป็นช่วงปลายฤดูกฐินแห่งปี และเช้าวันนี้ที่วัดไชยมงคล อุบลราชธานี ที่ตั้งอยู่คนละฝั่งถนนทางด้านทิศเหนือของศาลากลางจังหวัดหลังเก่า (ที่ถูกเผาไปแล้ว) มีงานประเพณีที่ชื่องาน ทอฝ้ายสายบุญจุลกฐิน
นับเป็นงานรวมใจไทอุบลได้ทีเดียว ทั้งภาครัฐ เอกชน และทางวัดที่ช่วยร่วมแรงแข็งขันจนถนนภายในวัดแน่นขนัดคลาคล่ำท่ามกลางแดดใสแห่งพฤศจิกายน
เมื่อคืนพระจันทร์สวย เช้านี้อากาศเย็นน้ำค้างพรม สายมาแดดใส ผู้คนชาวอุบลชาวคุ้มวัดไชยมงคลแต่งตัวสวยหน้าตาแจ่มใสจะไปร่วมบุญ จุลกฐิน
กฐินเป็นประเพณีพิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่มีช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง ๒๙ วันหลังออกพรรษา ของแต่ละปีซึ่งในประเทศไทยแบ่งเป็นสามประเภท คือ กฐินต้น เป็นกฐินที่พระเจ้าแผ่นดินทอด เป็นพระราชกุศลส่วนพระองค์ ทอดวัดใด ๆ ที่ไม่ใช่วัดหลวง อาจเป็นวัดตามหัวเมืองก็ได้ กฐินราษฎร์ เป็นกฐินที่ราษฎรจัดขึ้น อาจมีเจ้าภาพคนเดียว หรือร่วมใจกันเป็นหมู่คณะเรียกว่า กฐินสามัคคี มักทำกันเป็นงานใหญ่ เอิกเกริก จุลกฐิน เป็นกฐินเร่งด่วน ชาวท้องถิ่นเรียก “กฐินแล่น” แต่จริง ๆ แล้วมีขบวนการมากมายที่ต้องผลิตผ้ากฐินให้ได้ในวันเดียว โดยเริ่มตั้งแต่ปั่นฝ้ายให้เป็นเส้นแล้วนำมาถักทอเป็นผืนผ้า เย็บ ย้อม ตากแห้งก่อนนำไปทอดผ้ากฐิน จึงต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของผู้ชำนาญการต่าง ๆ มากมาย
อาศัยขบวนการแห่งความร่วมใจนี้ ชาวอุบลราชธานี เครือข่ายชาวอุบลตุ้มลูกตุ้มหลานฮักบ้านแพงเมือง กศน.จังหวัด รวมถึงโรงเรียนหลายโรง ทางวัดและวัฒนธรรมจังหวัด ได้ร่วมแรงให้งานกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ไปด้วย เป็นสืบสานประเพณีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๕๒
วัดไชยมงคล ตั้งอยู่ที่ถนนสุรศักดิ์ ตรงกันข้ามกับศาลากลางหลังเก่า(ที่ถูกเผาไปแล้ว)มีเนื้อที่ ประมาณ ๑๕ ไร่ นับเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของอุบลราชธานี ที่ตั้งขึ้นในยุคที่อุบลราชธานียังเป็นศรีวนาลัยประเทศราช ซึ่งทางสยามยังปล่อยให้หัวเมืองลาวยังปกครองแบบจารีตเดิมล้านช้างที่มีคณะผู้ปกครองสูงสุดของเมืองสี่ตำแหน่ง คือ เจ้าเมือง อุปฮาด ราชวงศ์ และราชบุตร เริ่มตั้งแต่เจ้าคำผงจนถึงคนที่ ๔ คือเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัดไชยมงคลแห่งนี้
นับเป็นวัดธรรมยุติกานิกายลำดับที่๔ ของอุบลราชธานี ที่ตั้งขึ้นในช่วงรัชกาลที่๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตามลำดับมา คือ วัดสุปัฏนาราม วัดศรีทอง(อุบลรัตนาราม) วัดสุทัศนาราม และวัดไชยมงคลดังกล่าว
เหตุที่ได้ชื่อวัดไชยมงคล เพราะช่วงนั้นได้เกิดศึกฮ่อรุกรานถึงเวียงจันทน์ซึ่งเป็นประเทศราชของสยามด้วย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์เจ้าเมืองอุบลราชธานียกกองทัพไปช่วยปราบฮ่อ และสถานที่แห่งนี้เป็นที่ร่มรื่นด้วยเงาไม้ใหญ่เหมาะสำหรับเป็นแหล่งรวมพลตั้งทัพก่อนออกเดินทาง เจ้าเมืองจึงให้จัดขึ้นที่นี่ ครั้นเมื่อได้ชัยชนะกลับมาจึงตั้งวัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ และให้นามวัดว่าวัดไชยมงคล โดยได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญที่ได้มาจากเวียงจันทน์ครั้งนั้นด้วยมาประดิษฐานไว้ (ยังมีพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์ที่ได้มาจากเวียงจันทน์พร้อมกันคือพระทองทิพย์ที่ประดิษฐานไว้ ณ วัดศรีทอง)
เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์นับเป็นบรรพบุรุษที่เคารพคนหนึ่งของอุบลราชธานี เดิมมีนามว่า เจ้าหน่อคำ ผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าสิริบุญสารแห่งนครเวียงจันทน์ โดยเป็นหลานปู่ของเจ้าอนุวงศ์วีระบุรุษผู้เป็นนักรบกล้าผู้ท้าทายต่ออำนาจกดขี่ของสยาม แม้จะแพ้ในที่สุดจนได้ชื่อว่าเป็นกบฏตามครรลองของผู้แพ้และผู้ชนะ แต่ก็เป็นผู้ครองใจของชาวลาวตลอดมาจนปัจจุบัน
สร้างวัดเสร็จจึงได้กราบนิมนต์พระอธิการสีโห(อัญญาสิงห์)จากวัดศรีทองมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดไชยมงคล จนปัจจุบันเป็นรูปที่ ๙ คือ พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ(พระจตุรงค์ ญาณตตฺโม ๒๕๔๓-ปัจจุบัน)ซึ่งเป็นผู้มุ่งมั่นแรงกล้าในการสืบสานมรดก วัฒนธรรมแห่งอุบลราชธานี
ทอฝ้ายสายบุญจุลกฐิน ปีนี้เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ ๕ ถนนทุกสายในวัดคลาคล่ำด้วยผู้คน ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษาและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงาน เพราะเป็นถนนสายบุญและเป็นองค์ความรู้ที่จัดขึ้นไว้ให้ตักตวง ซึ่งแบ่งเป็นหลายสาย เช่น ถนนข้าวจี่ ถนนข้าวปุ้น ถนนข้าวปาด ถนนข้าวเม่า ถนนข้าวโป่ง ถนนข้าวหลาม ถนนข้าวตอกแตก ถนนข้าวต้มมัด และถนนข้าวกระยาสารท ทุกสายเป็นที่ตั้งซุ้มแสดงสาธิตกระบวนการผลิตข้าวนั้น ๆ ตามชื่อ ซึ่งเป็นการแปรรูปข้าวแบบพื้นเมืองเดิม พร้อมมีให้ชิม ให้กินกันอย่างเหลือเฟืออิ่มหนำได้ทุกคนอีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีถนนสายฝ้าย และสายไหมที่จัดแสดงสาธิตขั้นตอนการผลิตจากปุยฝ้ายจนกลายเป็นผืนผ้าอีกด้วย
ที่น่าประทับใจ คือ หมอลำคู่แบบดั้งเดิม(ไม่มีนักเต้น หรือหางเครื่องมาแจม) และสาธิตการละเล่นขาโถกเถกที่เด็ก ๆ ได้ลองฝึกกันสนุก
บนเวทีใหญ่ที่ตั้งบนลานหน้าโบสถ์นั้นมีการแสดงของโรงเรียนต่าง ๆ ให้ชมตลอดงานค่ะ(ยังมีต่อ)
๐๐๐