การปลูกดาวเรืองตัดดอกขาย

การปลูกดาวเรืองตัดดอกขาย

จันทร์แรม ท้วมเนตร เรื่อง

ธนาภรณ์ ท้วมเนตร ภาพ

ชื่อสามัญ : คำมู้จู้ , คำมู้จู้หลวง

ชื่อวิทยาศาสตร์ Tagetes erecta L.  ชื่อวงศ์ ASTERACEAE

                นางศิริพร จันต๊ะ  อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 103/1 ม.11 ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน เล่าว่า เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้วเคยปลูกขายให้กับบริษัทอาหารสัตว์ได้รายได้ดี   ดอกดาวเรืองปลูกง่ายดอกมีกลิ่นทำให้ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน หรือ รบกวนน้อยกว่าปลูกพืชชนิดอื่น ปลูกได้ตลอดปี 

                  ไม่ต้องหาตลาด เขามารับซื้อถึงสวน กิโลกรัมละ  ๕-๑๐ บาท เน่าหรือช้ำรวมทั้งฉ่ำน้ำเพราะเก็บตอนเช้าน้ำค้างยังไม่สะเด็ดก็ซื้อหมด  แต่ทำให้คนหัวใสเอาน้ำรดทำให้น้ำหนักเยอะ ผลก็คือไม่มีใครนำมาให้ปลูกอีกเลย

                   ศิริพร ปลูกต้นดอกดาวเรืองพื้นที่ 1 ไร่ ใช้ต้นกล้า 4,500 ต้น ๆละ 2.50 บาท คิดเป็นเงิน 11,250 บาท  แรงงานที่ปลูกคือใช้สองคนกับสามี 

                  ต่อท่อน้ำถึงแปลงปลูกและปลูกร่วมไปกับพืชผักอายุสั้น เช่น กระเจี๊ยบ ผักกาด ต้นหอม ผักชีล้อม  โดยรายได้จากการขายผักนั้นได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  ส่วนดอกดาวเรืองใช้เป็นทุนส่งให้ลูกสาวเรียนระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำพูน

                   เวลาตัดดอกขาย เช้าตรู่เพื่อให้ทันส่งขายช่วง 7 โมงเช้า   อ๋อ ทำกันสองคนแทบจะไม่มีค่าจ้างแรงงาน 

                     การขายดอกดาวเรืองตัดดอกดีตรงที่ตลาดไม่ไกลมากนัก และที่สำคัญคือสามารถปลูกได้ตลอดปี ดินที่ใช้ปลูกดอกดาวเรืองควรเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมด้วย ทำแปลงปลูกดอกดาวเรืองขนาด กว้าง ๑ เมตร แถวห่างกัน ๓๐ เซนติเมตร ระหว่างต้นห่างกัน ๓๐ เซนติเมตร

                     รองก้นหลุมด้วยปุ๋ย ๑๕-๑๕-๑๕ หลุมละ ๑ ช้อนชา กลบดินแล้วรดน้ำทิ้งไว้ ๑ วันค่อยเอากล้ามาปลูก เมื่ออายุได้ ๗-๑๕-๒๕ วันใช้ปุ๋ยสูตร ๑๕-๑๕-๑๕ ต้นละ ๑ ช้อนชา เมื่ออายุได้ ๓๕-๔๖ วันจึงใช้ปุ๋ยสูตร ๑๒-๒๔-๑๒ ต้นละ ๑ ช้อนชา โดยวิธีฝังลงดิน รดน้ำให้ชุ่มทุกครั้งที่ใช้ปุ๋ย 

                      พอเริ่มออกดอกการรดน้ำจะต้องไม่ให้โดนดอกโดยตรง พออายุ ๒๑-๒๕

วันจะต้องเด็ดยอดทิ้ง เพื่อให้ต้นเตี้ย ดอกโต เมื่ออายุ ๖๐-๖๕ วัน ก็สามารถตัดยอดขายได้ และต้นสามารถอยู่ได้นานถึง ๒ เดือนจึงจะหมดดอก ดาวเรืองต้นหนึ่งให้ดอกได้ไม่ต่ำกว่า 10 ดอก ราคาขายก็อยู่ที่ดอกละ ๑ บาท รับซื้อถึงสวนเลยค่ะโดยเข้ามารับทุกๆสัปดาห์

                        ต้นพันธุ์ 11,250 + ค่าปุ๋ย + ค่าแรงงาน 3,000 = 14,250 บาท  ไร่หนึ่งจำนวน 4,500x10 บาท =45,000 บาท  เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือเงินประมาณ  25,000 บาท

ซึ่งคุ้มกว่าปลูกพืชอย่างอื่น

                       ถ้าเป็นดอกเล็กขายกิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งพันธุ์ดอกเล็กดอกจะดกมาก