http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,996,724
Page Views16,305,152
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เมื่อหนุ่มใหญ่วัย 66 ปี ตอน 4.

เมื่อหนุ่มใหญ่วัย 66 ปี ตอน 4.

เมื่อหนุ่มใหญ่วัย 66 ปี

ท้าทายด้วยระยะทาง 1,760 กิโลเมตรบนถนนนับพันโค้ง ตอน 4

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ประชุมสามัญประจำปี มูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์

             เช้าแล้ว อากาศเย็นได้ใจ นอนคนเดียวในบ้านสำนักงานมูลนิธิ เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย แต่อบอุ่นใจด้วยว่ามีเพื่อนบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนในหุบเขาแห่งความรักโอบรอบ ไม่มีหมอกลงไล้ให้เห็น แต่ความเยียบเย็นทำให้ต้องรีบไปทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ แต่งตัวเรียบร้อยจึงออกมานั่งดื่มกาแฟร้อนๆ ข้าวต้มเครื่องเจ้าอร่อย และได้เสวนากันตามประสาคนห่างไกลกัน


              คณะกรรมการมูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์ เหรัญญิกและผู้ช่วย ประสิทธิ์-เธียรทอง พัฒนใหญ่ยิ่ง  ครูโสภณ ศรีพรม ครูมิ่งขวัญ เขมหทัยกุล หน.สมพล จินดาคำ ผู้ใหญ่บ้านทองชั้น ธิเขียว เทิดศักดิ์ สารผัด เจตน์ ก่ำบุญ รอบ ทาอินทร์ บุญส่วน ราชต๊ะจักร ทัศนี กาพรม  ประธานกรรมการนายช่วงชัย เปาอินทร์ ติดภารกิจ และเลขานุการ นายธงชัย เปาอินทร์ เป็นประธานแทน  

           

              รายได้จากเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ กรมป่าไม้ บัญชีเลขที่ 0201006247 ในนามสมาชิกเลขที่ 02369  ดอกเบี้ยทุก3 เดือน รวม 27,000 บาท สมาชิกผู้สูงอายุ 31 คน รวมเงินที่ต้องจ่าย 56,040 บาท ไม่มีสมาชิกเสียชีวิตในปีนี้เลย อายุสมาชิกผู้สูงอายุต่ำสุด-สูงสุด  60-87 ปี ประธานช่วงชัย บริจาคสมทบ 5,000 บาท เลขาฯธงชัย 6,000 บาท บวกกับเงินได้อีก 2,160 บาท ครูโสภณ 1,000 บาท ครูมิ่งขวัญ 1,000 บาท และหน.สมพล 1,000 บาท รวมเป็นเงินรายได้ 43,160 บาท สมาชิกสมทบอีก จนครบ 56,040 บาท

              นส.สนธยา เปาอินทร์ ฝากเสื้อกันหนาวมาร่วมบริจาค 50 ตัว ประธานฯช่วงชัยฝากเงินอีก 5,000 บาทไปถวายหลวงพ่อวัดกิตตินันท์วนาราม

การเดินทางไกลไปคนเดียว บนเส้นทางคดเคี้ยวแต่เคยกัน

              ตะวันคล้อยไปจนมองหาไม่เห็น ผมตัดสินใจขับรถยนต์ขึ้นไปตามถนนสายเจ้าฟ้าถึงตลาดอำเภอนาน้อย 12.5 กม. และไต่ภูเขาจากตลาดอำเภอนาน้อย-สถานีวิจัยขุนสถาน ระยะทาง 35 กม.แต่ด้วยถนนที่คดโค้งและลาดชัน ทำให้ผมไม่อยากจอกข้างทาง ตัดใจละทิ้งภาพสวยๆไปหลายจุด ด้วยว่าใกล้ค่ำแล้ว

              หมดภาระกิจการประชุมสามัญประจำปี มูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์ ผมตั้งใจขึ้นไปสถานีวิจัยขุนสถาน เพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น สมใจครับ คืนนั้น 8-9 องศาเท่านั้น ผมนั่งผิงไฟจากฟืนไม้ป่าไล่ความหนาวเหน็บจนดึกดื่น จึงตัดใจเข้าไปหลับนอน รอบๆสถานีวิจัยขุนสถานมีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์นอน นอนในบ้านพักบ้าง และได้เห็นความตื่นเต้นของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ ความหนาวสมใจ


                ช่วงถนนระหว่างอุทยานแห่งชาติขุนสถานถึงสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีชาวม้งบ้านขุนสถานออกมาปลูกเพิงหมาแหงน เพื่อขายพืชผักเช่นฟักเขียว ฟักทอง แตงโม ผลไม้ฮิตคือสตรอเบอรี่ ให้กับนักท่องเที่ยว และที่เหนือชั้น มีร้านอาหารตามสั่งและลานเบียร์สด พร้อมเต็นท์กางให้เช่านั้นหลายแห่ง อนาคตคงเหมือนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย


               เขาอาศัยพื้นที่สูง วิวทิวทัศน์สวยและอากาศหนาว ในพื้นที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งมาหลายสิบปีก่อน ส่วนอุทยานแห่งชาติขุนสถานเพิ่งจะปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้หลายร้อยต้น  อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ต้นนางพญาเสือโคร่งแห่งขุนสถานจะออกดอกสะพรั่งไปทั้งขุนเขา นี่คือการใช้พันธุ์ไม้ในถิ่นกำเนิดที่ให้ดอกสวยมาตกแต่ง ดังแน่ๆ


กาแฟสด บนดอยขุนสถานบานสะพรั่ง

             ผมลาจากหัวหน้าสถานีวิจัยขุนสถาน นางกัญรัตน์ ดวงเนตร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ศิษย์เก่าวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน และผู้ช่วยฯนักวิชาการป่าไม้หนุ่มหล่อ ประวิทย์  ศิษย์เก่าวนศาสตร์ รุ่นเลข 7 ขึ้น  ด้วยความขอบคุณ ทั้งที่พักอบอุ่นและอาหารเช้าเรียบง่าย สไตล์ วน.

               “17-18 มค.58 จะขึ้นกันมาอีก 30 คนนะครับ คณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ เพื่อการศึกษาของเยาวชนต่อเนื่อง แล้วพบกันครับ ขอขอบคุณน้องทั้งสอง”


               ผมขับรถเก๋งคันเล็กๆลงจากสถานีวิจัยขุนสถาน  มาด้วยความสุข นึกในใจ ทุกแห่งในป่าเขาล้วนมีคุณ ต้นไม้ทุกต้นล้วนมีประโยชน์ อีกเดือนเดียว ต้นดอกนางพญาเสือโคร่งที่เห็นแต่กิ่งก้านโล้นๆจะผลิตาดอกบานสะพรั่ง ถึงตอนนั้น จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาชื่นชมกันอีกมากมายแค่ไหน ผมเลี้ยวโค้งไปตามถนนที่ตัดเลาะเลียบไหล่เขาสูงชัน จากระดับ 1,368 เมตร ผ่านต้นทองหลางป่ากำลังออกดอกสีแดงสด ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ชอบขึ้นในหุบห้วยชุ่มชื้น


                บทพิสูจน์กำลังกาย กำลังใจ และสติปัญญาของชายชราวัย 66 ปี ขาล่อง ผมจอดรถเป็นระยะเพื่อบันทึกภาพป่าต้นน้ำขุนสถานที่ถูกทำไร่เลื่อนลอย และเป็นพื้นที่ที่จังหวัดน่านโดยกองอำนวยการรักษาความสงบภายในประเทศนำชาวม้งลงมาจากขุนต้นน้ำน่าน (ผ.ก.ค.) มาตั้งถิ่นฐาน ณ ที่นี้  อำเภอนาน้อยจึงมีชาวม้งเป็นหมู่บ้านพิเศษนับจากนั้นเป็นต้นมา


                ผมจอดที่ร้านขายกาแฟสดบนยอดดอยสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลมแรงพัดผมกระจาย เด็กๆหญิงชาวม้งชงกาแฟขาย  มีโต๊ะรับแขกให้นั่งชมวิวทิวทัศน์ได้  ดื่มกาแฟแบบอ้อยอิ่ง ไม่ค่อยอยากจะลุกแล้วออกเดินทาง ผมลองตั้งกล้องแล้วถ่ายรูปตนเอง เอาไว้มาอวดเพื่อนๆชาวเฟสบุ๊ก ให้หมั่นไส้เล่นๆ 555


หนทางยาวไกลจากปลายดอยถึงอดีตที่ปางต้นผึ้ง

                กาแฟและข้าวเช้า หมดพลังไปแล้ว กาแฟสดสาวม้งช่วยเติมอำนาจต่อรองการขับรถได้อีกช่วง แต่เมื่อถึงบ้านห้วยแกตตีนดอยขุนสถานฟากจังหวัดแพร่ เขตอำเภอร้องกวาง ผมห้อตะบึงไปตามไหล่เขาคดเคี้ยว หวาดเสียวเป็นบางช่วงที่รถมอเตอร์ไซต์เกิดอุบัติเหตุ แต่ด้วยสติสัมปชัญญะมั่นคง สายตายังดี ฝีมือยังเก๋า ผมเลี่ยงหลบได้ด้วยความชำนาญ


               ถึงอำเภอร้องกวาง ผมแวะเข้าสุขาในปั๊มน้ำมันข้างทางแล้วต่อด้วยกาแฟสดอีกแก้ว คราวนี้ล่องยาวข้ามจังหวัดแพร่ ไปจนถึงเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ บนจุดชมวิว ที่นี่ผมรองท้องเบาๆ เพราะว่าถ้าหนักแบบเต็มคราบ หนังท้องจะตึง หนังตาจะหย่อน ผมจะหลับในได้ง่ายกว่าปกติ และเคยเกิดอุบัติเหตุไปแล้วสองครั้ง เข็ดจนตาย

                จากนั้นผมขับรถลงเขามาเรื่อยๆ จนถึงป้ายบอกทางว่า แยกขวามือเข้าไปบ้านปางต้นผึ้ง 9 กม. ผมตัดสินใจในทันใด เลี้ยวกลับแล้วพุ่งเข้าไปยังทางลาดยางเล็กๆมุ่งสู่บ้านปางต้นผึ้ง สถานีรถไฟปางต้นผึ้ง ผมขับเข้าไปช้าๆเหลียวมองสวนป่าไม้สักสองข้างทาง และเวิ้งทุ่งนากลางหุบเขา มันคือดินแดนที่ครั้งหนึ่งผมเคยทำงานที่นี่

                 สวนป่าเขาพลึง-บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีหัวหน้าสวนป่าชื่อ นายจรัล สะวิคามิน นักวิชาการป่าไม้โท ท่านส่งผมไปทำงานวางแปลงวัดอัตราความเพิ่มพูนรายปีของสวนสักปางต้นผึ้ง ซึ่งเข้าออกได้ทางเดียวคือนั่งรถไฟขบวนถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง วันแรกที่ผมนั่งรถไฟไปลงสถานีปางต้นผึ้ง ผมตื่นเต้นมาก เหมือนหนุ่มตะลุยดง


                 สถานีรถไฟปางต้นผึ้งอยู่กลางหุบเขาแคบๆ สองข้างทางมีบ้านเรือนผู้คนอยู่ทำสวนลางสาด สวนเมี่ยง และเก็บหาของป่าจำพวก ผัก หน่อไม้ สัตว์ป่าเล็กๆจำพวกตุ่น  เก้ง กระจง นก ฯลฯ มีโรงเรียนประชาบาลอยู่ริมทางรถไฟฝั่งซ้ายขาล่อง ครูชื่อประทุม นาคอินทร์ มาอาศัยอยู่ที่บ้านพักสวนสักหลังหนึ่ง ผมอยู่อีกหลังหนึ่ง หัวหน้าคนงานสวนป่าชื่อจำลองอีกหลังหนึ่ง


                เป็นบ้านพักที่สร้างด้วยไม้ทั้งสามหลัง ผมอาศัยกินอยู่กับหัวหน้าจำลองและเมียของแก ครูทำกินเองกับเพื่อนนอนแม่ลูกที่ครูให้อยู่เป็นเพื่อน หลังอาหารเช้าผมพกข้าวห่อใส่ยามสะพายแล้วเดินไปพร้อมๆกับที่ครูเดินไปสอนหนังสือ เรากลายเป็นเพื่อนร่วมทางทั้งยามเช้าและยามเย็น บางวันครูให้ผมถีบจักรยานสองล้อแล้วนั่งพ่วงไปด้วย แสนโรแมนติกนะ

                 จากปีนั้นจนปีนี้ ผมเพียรพยายามจะเข้าไปเยี่ยมยามสวนสักปางต้นผึ้ง แต่ก็ไม่สะดวกด้วยว่าการเดินทางไปมากรุงเทพน่าน ไปกันเป็นรถตู้ เป็นคณะ แต่ครั้งนี้ผมบินเดี่ยว ขับรถไปกลับคนเดียว เมื่อถึงเขตอุตรดิตถ์ครั้งใดก็อยากเข้าไปเยี่ยมยามถามไถ่ ประสาคนแก่นึกถึงแต่ความหลัง จากปีพงศ.2515 ถึงปีนี้ 2557 นานกว่า 42 ปี ที่ยังคิดถึงคะนึงหาเสมอ

                 ผมสัญญากับครูว่า แม้ย้ายไปที่ไหนก็จะเขียนจดหมายไปคุยด้วย แต่ 42 ปีที่ผ่านไป ผมไม่เคยทำตามสัญญา มันจึงค้างคาใจไม่รู้ลืมเสียที ผมกลายเป็น  ”คนขี้จุ๊” ซึ่งแปลว่าคนโกหก แต่แล้ววันนั้นผมก็ได้เข้าไปจนผ่านโรงเรียนที่เคยแวะไปนั่งรอครูเลิกสอนเพื่อจะได้เดินกลับบ้านพักพร้อมกัน เดี๋ยวนี้ มีถนนลาดยางตัดผ่านไปจนถึงสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง และเลยไปอีก.....

                 ผมเหลียวหาบ้านพักบนดอยสูงฝั่งตะวันออกของรางรถไฟ บ้านพักโทรมจนทรุด ไม่มีพนักงานสวนป่ามาประจำ ไม่มีงานเฝ้าระวังสวนป่าไม้สักเก่า ต้นสักดูบางๆไป ชาวบ้านคงตัดมาสร้างบ้านกันไม่น้อย ผมเดินไปถ่ายรูปสถานีรถไฟ ถามคนงานรถไฟ แต่ไม่มีใครจำคนที่ผมถามหาได้แล้ว


                 ผมยืนคิดถึงอดีต ภาพฝันที่ผมยังจำติดตราตรึงใจ ยามเช้าหวูดรถไฟดังสนั่นทั้งหุบเขา ควันสีขาวพวยพุ่งจากหวูดลอยไปในอากาศที่มีหมอลงหนาจนแทบมองไม่เห็น ความหนาวเย็นรอบกาย ผมตกอยู่ในภวังค์แห่งความหลังฝังใจ ความงดงามยามเช้าและชีวิตที่เปลี่ยนไป

อดีตคือความทรงจำ กลับสู่บ้านแห่งความจริงเสียที

                  ผมตื่นจากภวังค์เมื่อขึ้นนั่งแล้วสตาร์ทรถเก๋ง ขับออกมาเหมือนหลุดจากบ่วงแห่งความหลัง พ้นจากป่าปางต้นผึ้งแล้วเวียนกลับสู่ทางเดิม มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก นครสวรรค์ แต่ก็ค่ำจนหมดแรงที่จะขับต่อไป ผมแวะนอนพักแรม 1 คืน เพื่อตื่นในวันรุ่งผมจะมีแรงและกำลังพร้อมที่จะกลับสู่เคหา

                 ผมได้กลับไปหาความหลังฝังใจแล้ว แม้จะไม่ได้ข่าวคราวของครูประทุม นาคอินทร์ อีกเลย ได้รู้ว่านายสถานีรถไฟคนเก่านายสาธิต ตายไปแล้ว เมียนายสถานียังอยู่ที่บ้านข้างบ้านพักสวนป่า แต่นอนเป็นอัมพฤกษ์ตามวัยใกล้ฝั่ง นอกจากนี้ผมไม่ได้พบใครอีกเลย ได้ไปเห็นโรงเรียนสาขาโรงเรียนประชานิยมชื่อ โรงเรียนปางต้นผึ้ง เล็กและเก่าตามสภาพ


                 ไม่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไม่มีร่องรอยการเดินทางของครู และไม่ได้รับรู้เรื่องราวใด หัวหน้าสวนป่า พี่จรัล สะวิคามิน เสียไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง  หัวหน้าจำลองกับเมียยังอยู่หรือเปล่า อยากบอกว่าขอบคุณที่ทำอาหารหวานคาวให้ผมกินกลางหุบเขาที่ปางต้นผึ้ง   แต่อยากบอกฝากต้นสักและรางรถไฟว่า ธงชัย เปาอินทร์ หวนกลับไปเยี่ยมยามถามหาแล้ว แม้จะไม่เคยเขียนจดหมายไปเลยสักฉบับใน 42 ปี

                  ผมขอโทษครับ ที่ผิดสัญญา                   

                  ผมขับรถกลับออกมาอย่างคนที่รู้สึกผิด ผิดหวังที่ไม่ได้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับครูประทุม เพื่อนแสนดีในอดีต ผิดหวังที่ต้องเดินทางกลับมือเปล่า มันช่างอ้างว้างและเดียวดาย ครูจะรอจดหมายจากผมไหม หรือจะรู้สึกปลงว่า หนุ่มต่างถิ่นก็ขี้จุ๊เหมือนในนิยายหลายเรื่อง 

                  แต่อย่างไรก็ตาม ผมขับรถกลับด้วยความระมัดระวังตลอดเส้นทางหลายร้อยกิโลเมตร ด้วยความหวังว่า ผมจะยังวนวียนไปเยี่ยมยามถามหาในโอกาสต่อไปได้อีก ถ้าผมยังมีลมหายใจอยู่ 

Tags : เมื่อหนุ่มใหญ่วัย 66 ปีตอน3.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view