เที่ยวเมืองน่านหน้าร้อน อีกมิติการท่องเที่ยววิถีไทย
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ลมหนาวผ่านไปแล้ว เหลือเพียงความเย็นในยามค่ำคืน และร้อนในยามตะวันส่องแสงเจิดจ้า บ้านใดอยู่ริมแม่น้ำน่าน บ้านนั้นยังได้ลมเย็นผ่านลำน้ำ แต่บ้านใดอยู่ในหุบเขา ร้อนรุ่มๆทั้งวัน เว้นแต่หลังตะวันตกดิน ความเยียบเย็นค่อยๆคืบคลาน ส่วนบ้านใดอยู่บนเขาสูง หลังตะวันตกดินจนถึงตะวันเบิกฟ้า หนาว เย็น จนต้องดึงผ้าห่มคลุมกายให้อบอุ่น
น่านเป็นเมืองภูเขาสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเล 250-1,720 เมตร มีที่ราบทำนาได้น้อยส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ในหุบเขาและน่านตอนกลางอ่างกระทะ มีภูเขาเตี้ยๆแบบ ลอนลาดแล้วไต่ระดับความสูงขึ้นขอบกระทะ น่านตอนบนจึงเป็นเขาสูงชันที่ทอดระดับลงมาทางใต้ ต้นน้ำน่านจึงเริ่มต้นที่สันปันน้ำระหว่างเมืองน่านกับลาวที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติและทุ่งช้าง
เมืองน่านผสมผสานด้วยชาติพันธุ์หลากหลาย อันได้แก่ชนชาวไทยเหนือ ไทลื้อ ขมุ ลั้ว ม้ง เมี้ยน ถิ่น จีน ไทยภาคกลาง ไทพวน ไทเขิน ไทใหญ่ และชนเผ่ามาบรี(ผีตองเหลือง) ไทพวน ไทเขิน และไทใหญ่ ถูกกลืนไปแทบไม่เหลือร่องรอยวัฒนธรรมชนเผ่าแล้ว ดังนั้น ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและความเชื่อ ความศรัทธาจึงแตกต่างหลากหลายไปตามชาติพันธุ์ เช่นมีผ้าทอลายน้ำไหลของชาวไทลื้อ มีผ้าทอแบบชาวม้งและทรงกางเกงเฉพาะชนเผ่า หรือสวมผ้าซิ่นตีนจกอย่างชาวน่านอันเป็นไทยเหนือ
น่านวันนี้ มีโรงแรม รีสอร์ท โฮมสะเตย์ มากมายทุกอำเภอ เช่นในอำเภอเมือง อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอทุ่งช้าง อำเภอสันติสุข อำเภอแม่จริม และอำเภอบ้านหลวง การคมนาคมสะดวกทั้งทางรถยนต์ เครื่องบิน ถนนหนทางกว้างขวาง ไม่มีทหารยืนแบกปืนตามไหล่เขาและหุบห้วย ปลอดภัยไปเที่ยวได้สบายใจ
ในตัวเมืองน่าน วัดภูมินทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ไปไม่ได้ นอกจากวัดจะตั้งอยู่ที่ข่วงเมืองน่านแล้วยังเป็นวัดที่มีศิลปะ วัฒนธรรม ในภาพจิตรกรรมฝาผนังอย่างมากมาย รู้จักเมืองน่านจากภาพที่จารไว้เหล่านั้นได้ เหมือนเป็นประวัติศาสตร์อ่านจากภาพเขียนสี มีเรื่องเล่าไม่เบื่อเกี่ยวกับภาพเอก กระซิบรักบันลือโลก
อาจารย์ สมเจตน์ วิมลเกษม อาจารย์ประจำโรงเรียนสตรีศรีน่าน ผู้มีความรู้เรื่องราวของถิ่นกำเนิดอย่างลึกซึ้ง ได้รจนาด้วยภาษาเหนือเกี่ยวกับรูปกระซิบของปู่ม่านย่าม่านดังนี้
คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…
แปลเป็นภาษาไทยได้ความว่า
ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว
จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย
หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป
เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง
ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น
ฝั่งตรงข้ามวัดภูมินทร์เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน อันเป็นคุ้มเจ้าผู้ครองนครน่าน พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ที่นี่เป็นแหล่งประวัติศาสตร์เมืองน่านที่สำคัญ ทุกสิ่งมีเรื่องเล่า มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้ความรู้อย่างถูกต้องตรงตามประวัติศาสตร์ มีหนังสือและของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว
แล้วข้ามไปไหว้พระทองคำที่วัดช้างค้ำวรวิหาร พระประธานองค์โตในวิหาร และพระธาตุช้างค้ำ ศิลปะน่านและพม่าผสม แล้วเดินข้ามฟากถนนไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นี่เข้าห้องสุขาได้สบายๆ ดื่มกาแฟร้อนและเลือกทัวร์ท่องเที่ยวได้ด้วย แถมด้วยบูธขายของที่ระลึกสารพัดอย่าง ล้วนสะป๊ะมากมี ก่อนจะเดินทางไปพักผ่อน
เที่ยวเมืองน่าน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งที่จะชวนเชิญ แต่ขอยุติเพียงนี้ เพื่อเก็บไว้เขียนอีกตอนหนึ่ง มาเที่ยวเมืองน่านทั้งทีไม่ต้องตะลอนทัวร์ พักรับประทานอาหารและดื่มกาแฟแล้วกลับไปนอนพักเอาแรงกันดีกว่า เมืองน่านรออยู่ ไปเมื่อไรเวลาไหน งดงามเสมอเน้อ