ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้นที่ 14.แอสเตอร์จีน
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ China Aster, Garden Aster
ชื่อวิทยาศาสตร์ Callistephus chinensis (L.) Nees
ชื่อวงศ์ ASTERACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธ์
ในต่างประเทศ พบที่ประเทศจีนและญี่ปุ่น
ในประเทศไทย พบว่านำเข้ามาปลูกประดับบนพื้นที่ทางภาคเหนือซึ่งมีสภาพพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลค่อนข้างมาก และอากาศหนาวเย็น เช่นที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย ดอยอ่างขางจังหวัดเชียงใหม่
ลักษณะประจำพันธ์
ต้น ลำต้นตั้งตรง มีกิ่งก้านสีม่วงแดง แตกพุ่มได้เอง เป็นไม้ดอกอายุสั้น ถึง 2 ปี
พุ่มสูง 25-
ใบ ใบเดี่ยว แตกตามข้อ เวียนสลับ โคนใบรูปไข่ ปลายแหลม ขอบจักฟันเลื่อย
ลึก ด้านบนรูปช้อนแกมขอบขนาน ผิวใบมีขนสั้น
ดอก ดอกเดี่ยวแตกจากปลายกิ่งแต่ละก้านดอก ดอกมีทั้งกลับชั้นเดียวและกลีบ
ดอกซ้อน กลีบดอกวงนอกรูปไข่แกมรี ขนาดดอก 3-
แดง กลีบดอกวงในรูปหลอด สีเหลืองหรือสีขาวนวล บางพันธุ์ดอกวงในถูกแทนที่ด้วยกลีบ
ดอกวงนอก
ผล แบน เมล็ดขนาดใหญ่ 450 เมล็ด/กรัม
การขยายพันธุ์ นิยมเพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบาง ๆ เมล็ดงอกภายใน 5-10 วัน ใช้เวลาตั้งแต่เพาะเมล็ดจนถึงออกดอกราวๆ 70-90 วัน
พื้นที่ที่เหมาะสม ชอบอากาศหนาวเย็น แสงแดดจัด ควรมีฉากบังลมแรง ดินปลูกระบายน้ำดี ไม่แฉะ เพื่อป้องกันโรคราก เน่าและโรคเน่าคอดินในระยะต้นกล้า
การใช้ประโยชน์
ปลูกเป็นไม้ประดับ ทำได้ทั้งปลูกลงในกระถาง หรือปลูกไม้ประดับแปลง
สามารถตัดดอกขาย ได้รับความนิยมทั่วไป
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผมถ่ายรูปนี้จากดอยตุง จังหวัดเชียงราย สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางกว่า
1,000 เมตร นิยมปลูกเป็นไม้ลงแปลงประดับ เพื่อตัดดอกขาย หลายแห่งปลูกในมุ้งกำหนด
อุณหภูมิเหมาะสม ดินมีความเป็นกรดด่างปานกลาง ระบายน้ำดี
แต่เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นกำเนิด ไม่ควรนำไปปลูกประดับในเขตป่าอนุรักษ์
ทั้งสองประเภทคืออุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า