ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น 27.ว่านสี่ทิศ
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Amaryllis
ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippeastrum vitata H.bury
ชื่อวงศ์ AMARYLLIDACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบที่เขตร้อน กึ่งร้อน ของทวีปอเมริกาและหมู่เกาะอินเดียตะวันตก
ในประเทศไทย พบนำเข้ามาปลูกทั่วไปประเทศ หลากหลายสายพันธุ์(ผสม) จนกำหนดสีเดิมได้ยากเช่นเดียวกับดอกแกลดดิโอลัส
ลักษณะประจำพันธุ์
ว่านสี่ทิศ มีทั้งประเภทเขียวตลอดปีและผลัดใบทิ้งเหลือแต่ใต้ดิน
ต้น ลำต้นอ่อนและมีข้อปล้องสั้น อัดตัวกันเป็นแผ่นเรียกว่า Basai Plate ลำต้น ที่แท้จริงของว่านสี่ทิศแบบ true bulb scale จะว่าเป็นหัวก็ไม่ผิด
ใบ แคบเรียวยาว อาจแบนหรือเป็นร่อง มีเส้นกลางใบเรียงขนานตามความยาว จำนวนใบเฉลี่ยต่อต้น 3-10 ใบ ใบแตกจากตายอด ทำหน้าที่ปรุงอาหารแล้วส่งไปสะสมที่กลีบหัว (bulb scale) ใบยาว อวบน้ำ สีเขียวสดทั้งหลังใบและท้องใบ รากฝอย (fibrous root system) แตกใต้ Basal Plate ยาว 1-
ดอก ออกเป็นช่อแบบ umbel ก้านช่อดอกยาวตรงและแข็งแรง กลางกลวง ดอกตูมมี bract 2 อันห่อหุ้มช่อดอกทั้งช่อไว้ เรียกว่า spathe valve กลีบดอกมีสีเขียว เหลือง ขาว หรือแดงหรือส้ม แก่สีน้ำตาลแห้ง 6 กลีบ อัศจรรย์เมื่อดอกย่อยบานเต็มที่แล้ว ช่อดอกแต่ละช่อจะมีดอก 2-15 ดอกต่อช่อได้อีกซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดหรือพันธุ์ มี ovary แบบ inferior ovary มี 3 locule ต้นฤดูร้อน กพ.-มีค.
ผล ให้เมล็ดขนาดใหญ่สีดำหรือน้ำตาล เมล็ดอยู่ในฝักที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์
ดินอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี ระบายอากาศดี pH ของดินอาจจะเป็นกรดได้เล็กน้อย คือ pH ระหว่าง 6-1-6.5 จนถึง pH เป็นกลาง ให้น้ำได้เต็มที่ ความชุ่มชื้นสูง นิยมปลูกลงแปลงและลงกระถาง แดดจัดควรพรางแสงให้
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผู้เขียนชอบว่านสี่ทิศมาแต่เด็กๆ ด้วยว่าได้เห็นขึ้นอยู่ข้างโบสถ์ ซึ่งมีทรายปนดินร่วนอยู่ เพราะว่าเมื่อเข้าหน้าร้อนก็ได้เห็นดอกเขาแทงช่อขึ้นมาจากใต้ดิน สีส้มสดสวยเป็นแนวยาว ประทับใจ
เมื่อมีโอกาสได้ปลูกก็ปลูกไปตามประสาคนขี้เกียจ ฝังหัวลงกระถางแล้วก็ให้เทวดาเลี้ยง ถ้าเป็นชนิดผลัดใบก็จะเหลือแต่หัวใต้ดิน ถ้าเป็นชนิดไม่ผลัดใบก็จะมีใบเขียวๆให้ได้เห็น จนถึงต้นฤดูร้อนจึงแทงช่อดอกขึ้นมาให้ได้ชมกัน ภาพนี้ถ่ายจากบ้านผมเอง
พิษ หัวและใบทำให้อาเจียนและท้องเดิน
นิยมปลูกลงแปลงและลงกระถาง ใช้ในการตกแต่งสวนหย่อม แต่ไม่นิมยมนำไปปลูกประดับในป่าอนุรักษ์ทั้ง 2 ประเภทคืออุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพราะว่าเป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นกำเนิด