ขับรถเที่ยวกับ 3 เส้นทางเหนือฟ้า กรุงเทพ-แพร่(อ.ลอง)-ลำปาง
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
วันแรก วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2558
นิมิตหมายที่ดี เมื่อสื่อมวลชนประเภทสื่อออนไลน์ได้รับเกียรติ
ได้รับอีเมลเชิญชวนจาก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ รับผิดชอบการท่องเที่ยว 3 จังหวัดคือแพร่-น่าน-อุตรดิตถ์ น.ส.ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ให้ไปทัศนศึกษาด้วยการขับรถเที่ยวกับ 3 เส้นทางเหนือฟ้า กรุงเทพ-แพร่-ลำปาง เฉพาะสื่อมวลชนประเภทสื่ออนไลน์ เมื่อวันที่ 27-29 มีนาคม 2558 เลยมีเรื่องมาเล่าเอาภาพมาอวด ชิชะชิชะ
ผู้ประสานงานเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มหล่อสาวสวย นายทัศวุฒิ นาทิพย์(แบงค์) และน.ส.ภัททิรา คำอภิวงศ์(มินท์นี่)
จาก ททท.กรุงเทพ ความสูงระดับน้ำทะเลปาน 5 เมตร นั่งรถตู้ห้อตะบึงไปยังเป้าหมาย ผ่านเส้นทางจังหวัดต่างๆ และความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางก็เคลื่อนขยับสูงขึ้นๆ เป็น 256 เมตรที่จังหวัดพิษณุโลก ที่นี่ ททท.แพร่แนะนำให้รับประทานอาหารที่ร้านหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวต้นก้ามปู แต่ผมสั่งข้าวซอยหมูของโปรด เรื่องกินเรื่องอยู่นี่ ถ้า ททท.แนะนำละก้อต้องยอมรับว่าไม่ผิดหวัง
หลังอาหารมื้อเที่ยง รถตู้มุ่งสู่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เพื่อให้ทันขบวนแห่งานประเพณีไหว้พระเจ้าแสนแซ่ ททท.แพร่เล่าว่าเป็นงานระดับอำเภอ แต่โคตรอลังการ
งานประเพณีไหว้พระเจ้าแสนแซ่ อ.เด่นชัย จ.แพร่
วัดพระเจ้าแสนแซ่ เป็นวัดสำคัญของอำเภอเด่นชัย ได้รับการกราบไหว้และจัดงานประเพณีแห่แหนขบวนสวยงามอลังการทุกปีมาถึง 5 ปีแล้ว ในขบวนประกอบด้วยเยาวชนในชุดผ้าไทย จนถึงผู้อาวุโส หลากหลายสไตล์การคิดสร้างสรรค์ ถือกันว่านี่เป็นประเพณีที่สำคัญ เพราะว่าพระเจ้าแสนแซ่นั้นเป็นพระประธานที่มีอายุยาวนานถึง 4 แผ่นดินคือ จีน พม่า ลาวและไทย
เดิมวัดเด่นชัยชื่อวัดเลียบนิมิต สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2440 เจ้าอาวาสองค์แรกชื่อพระอาจารย์ภา จากวัดระฆังโฆสิตาราม พระนคร วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปจนถึงปีพ.ศ.2457 เจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้ร่วมกับศรัทธาวัดเดินทางไปขอนิมนต์พระประธานจากพระครูพุทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดแพร่ จึงได้พระเจ้าแสนแซ่ซึ่งขณะนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ แล้วแห่แหนมาประดิษฐานวัดเด่นชัยสืบมา
พระเจ้าแสนแซ่สัมฤทธิ์เหล็กองค์นี้หนัก 275 กิโลกรัม หน้าตักกว้าง 32.5 นิ้ว สูงถึงโมลี 42 นิ้ว พุทธศิลป์ ขัดสมาธิปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน พุทธลักษณะ ปาก 2 ชั้น เรียกกันว่า ต่อมน้ำค้าง คางบ่องหลังใบหูทั้งสองข้างเจาะทะลุ ทำให้ต่างจากพระสิงห์ทั่วไป นิ้วขอดเป็นก้นหอยไปทางขวาเรียกว่าทักษิณาวัตร
ขบวนนุ่งห่มผ้าไทยมีทั้งเด็กน้อยน่ารัก ผู้ใหญ่ชายหญิง งามตา
ได้เวลาบ่ายแก่ๆ ตะวันคล้อยลงทางตะวันตก สถานีรถไฟเด่นชัยเป็นต้นทางขบวนแห่ แต่ละขบวนแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยผ้าไทยพื้นเมืองแพร่ เช่นผ้าฝ้ายทอ ผ้าคาดเอวสีสวยๆ ผ้าสไบเฉียงแม่หญิงงามตา เตี่ยวสีต่างๆ ต้องดูทีละภาพให้จุใจ
ขบวนแห่มากมายหลายสิบขบวน แต่ละขบวนก็แต่ละแนวคิดที่อยากอวดความสวยงามของชนพื้นเมืองแพร่ สีสันหลากหลาย แตกต่างอย่างมีมิติ ขบวนตุงหรือธงตะขาบ เพิ่มความโดดเด่นมุมสูง ที่น่ารักมากก็ขบวนแม่หญิงจูงจักรยาน ถามอนงค์งามคนหนึ่งว่าถีบเป็นบ่เธอตอบด้วยใบหน้ายิ้มซื่อๆ
“ถีบบ่อเป็นจ้าว เปิ้ลฮื้อมาจูงบะดาย” เอากับความสวยซื่อแสนบริสุทธิ์ซิ
ขบวนที่ขาดไม่ได้ อดีตคือยานพาหนะครัวเรือนเมื่อไปจ่าย “กาดมั่ว-กาดแลง” นั่นคือสามล้อถีบ สารถีสวมหมวกทรงโบราณ กะโล่สานด้วยใบลาน สวมเสื้อหม้อฮ่อม กางเกงขาก๊วย สีครามอย่างผ้าหม้อฮ่อมเมืองแพร่ ผู้โดยสารเป็นคหบดีผู้มีอันจะกินที่ร่วมงานและข้าราชการสายต่างๆ เป็นความสมานสามัคคีกันทั้งทรัพย์สินเงินทองและกำลังกาย
“เอ้าเฮ จ้วยกั๋นเน้อหมู่เฮา”
แต่ที่ยิ่งใหญ่สมความเป็นเมืองไม้สัก สถานีรถไฟเด่นชัยรับใช้การลำเลียงไม้สักและคนเมืองเด่นมายาวนาน และขาดไม่ได้ ขบวนช้างตัวโตๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายศักดิ์ บุญโต คนริมฝั่งแม่น้ำน้อยเมืองอยุธยา อุตสาห์ขึ้นนำขบวนบนหลังช้าง 5555
ตามด้วยอดีตรัฐมนตรี คนเมืองแพร่แห่ระเบิด วรวัชร์ เอื้ออภิญกุล ตบท้ายขบวนด้วยน.ส.ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผอ.ททท.แพร่นั่นเอง
ตลอดสองฝั่งถนนผู้คนเมืองเด่นชัยออกมาออกันชม ด้วยความนิยมและชมชอบ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นงานระดับอำเภอ ยังยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียวหนา
ขบวนแห่ของเยาวชน เมื่อมาถึงปะรำพิธีก็ฟ้อนสารพัดฟ้อนให้ชม แต่ละคณะน่ารักและงดงาม งานจบที่ผู้ว่าและคณะนำทีมเข้าไปไหว้สาพระเจ้าแสนแซ่ในอุโบสถ
โชคดีที่ได้มาร่วมงานแสนงาม รับประทานอาหารค่ำที่ร้านร่มไม้ใหญ่ อลังการงานสร้าง พักแรมที่โรงแรมนานาจอมสวรรค์