http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,999,850
Page Views16,308,498
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

โครงการปลูกป่าลดโลกร้อน กับมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์

โครงการปลูกป่าลดโลกร้อน กับมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์

โครงการปลูกป่าลดโลกร้อน

กับมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

นายอุดม หิรัญพฤกษ์ ประธานกรรมการและคณะปลูกป่าลดโลกร้อน

           ด้วยความคิดริเริ่มของกรรมการมูลนิธิคนหนึ่ง คุณแป๊ด-นันทวัน หิรัญพฤกษ์ เสนอว่า ทำไมเราไม่ปลูกป่าประดับให้หุบเขาบ้านกิตตินันท์สวยสมด้วยพันธุ์ไม้ดอกสีชมพูถึงสีม่วงกันเล่า และนั่นคือต้นตอที่ทำให้เกิดโครงการปลูกป่าลดโลกร้อนกับมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ขึ้น เมื่อนำเสนอแนวคิดดังกล่าวแก่สมาชิกชมรมคุณเหี่ยว ผู้สนับสนุนกิจกรรมดีๆแต่ไม่มีแรงไปเอง จึงได้เงินมาดำเนินการมากมาย เพื่อซื้อกล้าไม้ เพื่อบำรุงกล้าไม้หลังปลูก และเพื่อปักป้ายแสดงเจตจำนงของผู้บริจาค 


อินทนิลน้ำดอกสีม่วงและสีชมพู

           “ของฉันขอต้นดอกสีชมพูนะ” “ของฉันขอต้นดอกสีม่วงนะ” ของฉันต้นอะไรก็ได้ในสองสีนี้” และของฉันจะตามไปดูผลในวันประชุมกรรมการสามัญประจำปี 2558 วันที่ 15-18 มกราคม 2559 เอาจริงเอาจังกันทุกคน

            กล้าไม้ที่จะปลูกให้ทันฝนนี้ มีทางเดียวต้องสั่งซื้อมาจากแหล่งเพาะชำกล้าไม้ ได้ต้นเสลาดอกสีม่วง ต้นอินทนิลน้ำดอกสีม่วงและดอกสีชมพู  ต้นชิงชันดอกสีม่วง 100 ต้น จากอาจารย์นพพร นนทภา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

            สวนไม้หอมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน บริจาคกิ่งตอนไม้ดอกไม้ประดับให้อีกดังนี้คือ ต้นโสกเขาดอกแดง 5 กิ่ง ฝ้ายคำหรือสุพรรณิการ์ 2 กิ่งใหญ่ๆ ส้มโอไร้เมล็ด 1 กิ่ง พวงไข่มุก(โกงกางเขา) 3 กิ่ง  รวมเป็น 11 กิ่งใหญ่ 

             คุณบุญฤทธิ์ ภูริยากร บริจาคต้นกันภัยมหิดลดอกสีม่วง 2 ต้น พวงโกเมนดอกสีส้มแดง 4 ต้น โสกเขาดอกแดง 4 ต้น รวมเป็น 10 ต้น 

 

คืนแรกพักแรมที่นี่เลย

             หัวหน้าสมพล จินดาคำ หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ  ชำกิ่งสุพรรณิการ์อีก 20 กิ่ง รวมเป็นต้นไม้ที่ปลูกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 จำนวน  141 ต้น 

             ได้รับการบริจาคเงินสมทบการปลูกและการบำรุงรักษาจนกว่าจะเติบโต รวมเป็นเงินประมาณ 20,000 บาท พร้อมเขียนป้ายชื่อติด/ปักเพื่อแสดงว่าใครปลูก ใครจ้างมาปลูก(เจ้าของเงิน) ชัวร์ป้าบต้องโตๆๆๆๆ

 

คณะผู้ดูแลพวกเราทุกครั้ง และCSRของน้องเยีบร์กับเพื่อนๆ

             คณะกรรมการมูลนิธิและที่ปรึกษาที่สมัครใจเดินทางไปปลูกจริง ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2558 ดังนี้คือ ท่านประธานกรรมการ นายอุดม หิรัญพฤกษ์ อายุ 90 ปี 

             นางอำไพ หิรัญพฤกษ์ ภรรยาและผู้กำกับท่านประธานทุกทริป อายุ 81 ปี พร้อมด้วยหลานสาว น้องเยียร์ อายุ 10 ขวบ

 

ความสุขเล็กๆที่ได้รับ

             เจ้าของความคิดริเริ่ม นางสาวนันทวัน หิรัญพฤกษ์ กรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ อายุ 55 ปี 

            อาจารย์จรวย สิงห์พยัคย์ อดีตอาจารย์โรงเรียนป่าไม้แพร่ และข้าราชการกรมป่าไม้ กรรมการมูลนิธิ ไปทุกทริป ไปทุกปี อย่างเสมอต้นเสมอปลาย อายุ 69 ปี


 

           ที่ปรึกษา อดีตป่าไม้เขตคนดังหลายเขต ของกรมป่าไม้ นายลือ ซ้อนสวัสดิ์  อายุ 75 ปี ซึ่งกล่าวว่า เพิ่งรู้ว่ามูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ทำแต่สิ่งดีๆอย่างนี้เมื่อปีก่อน ถ้ารู้ว่าทำกันมาตั้ง 30 ปีก็มาแล้ว 

            อดีตผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลุกป่า กรมป่าไม้ นายเพ็ญ ธรรมโชติ อายุ 71 ปี อดีตนักวิชาการป่าไม้ที่บรรจุและทำงานแต่ทางภาคใต้เลยไม่รู้ว่าภาคเหนือเขาทำอะไรกัน

 

ท่านลือและท่านเพ็ญ เอาจริง

           และนายธงชัย เปาอินทร์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ตลอดกาล อายุ 67 ปี มีแฮงแต่ไม่แข็ง(แรง) เท่าไร 

           สมทบและเพิ่มศักยภาพการปลูกป่าครั้งนี้โดยนายสมพล จินดาคำ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ ผู้มีแต่ให้

 

           เฝ้าระวังหลังให้ตลอดทริปของมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ นายประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง อายุ 56 ปี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดน่าน 

            ขาดไม่ได้แต่เล็กจนโตเป็นหนุ่ม เจเจ ธีรภาพ พัฒนใหญ่ยิ่ง  หลานชายนักอนุรักษ์ที่ปลูกต้นไม้ตั้งแต่ยังเด็กๆ 5-6 ขวบ จนบัดนี้ เป็นหนุ่มหล่อ บัณฑิตม.พะเยา

 

เจเจ

            กองกำลังสำคัญของพี่น้องบ้านกิตตินันท์ ทัศนีย์ กาพรหม และพวก  ทำอาหารเลี้ยงตลอด 30 ปีกว่าๆ  ยังเข้มแข็งและยังรักษาฝีมือ ไก่ไฮโลกับลาบหมูคั่ว ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา ต้อนรับด้วยทีมงาน อ๋ง โปรโมชั่น ขบวนปลูกป่าลดโลกร้อนออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถตู้ 1 คัน ไปถึงบ้านกิตตินันท์ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านค่ำพอดี รับประทานอาหารที่คณะทำกันไว้รออย่างอิ่มหมีพีมัน แถมร้องคาราโอเกะผ่อนคลายให้สบายใจกันทุกคน

 

ผอ.เพ็ญ ธรรมโชติ ร่วมครวญครางอย่างไพเราะ

หัวหน้า สมพล จินดาคำ นำร้องเปิดเวทีเสมอ

              ค่ำคืนที่ผ่านฝนโปรย ไม่ร้อนอบอ้าวอย่างคาดที่บ้านป่ารักน้ำ กลางลำห้วยสามสบ อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องติดแอร์(ไม่มีตังส์) 2 ห้องนอน 8 เตียงปูพื้น ห้องน้ำ-สุขา 2 ห้องแยกส่วน ระเบียงมีน้ำและกาแฟบริการ 

              หลังอาหารเช้าและกาแฟร้อนๆ ท่านประธานฯผู้อาวุโสสูงสุด เดินนำหน้าลงไปยังหุบเขาห้วยสามสบ เริ่มต้นที่หน้าสำนักงานมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ วนรอบไปจนหมดสนามหน้าโรงเรียนบ้านกิตตินันท์ ซึ่งถูกสั่งปิดเพราะว่าจำนวนเด็กนักเรียนน้อยเกินไป

 

              นักเรียนทุนมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ทุกปีจึงต้องไปเรียนยังโรงเรียนที่ยังเปิดสอนอยู่ บางคนไปเรียนระดับอุดมศึกษาในต่างจังหวัด บางคนเรียนในจังหวัดน่าน แต่ไม่ว่าพวกเธอจะไปเรียนกันที่ไหน มูลนิธิฯจะตามไปสนับสนุนการเรียนด้วยทุนจนกว่าเธอจะสำเร็จปริญญาตรี    ชาวบ้านกิตตินันท์กลุ่มหนึ่งมาร่วมด้วยช่วยกันขุดดิน ขนปุ๋ยหมัก เสริมให้กับคณะกรรมการอาวุโส เราปลูกกันไปก็คาดหวังกันว่าปีหน้าจะโตจนได้เห็นพ้นหัว ถ้าวัวผู้ใหญ่จะไม่มาย่ำเสียตายไปก่อน

 

ประธานฯอุดม หิรัญพฤกษ์กับหน.สมพล จินดาคำ 

              “ใครเห็นว่าวัวใครหรือใครทำต้นไม้ตาย จะปรับเจ้าของวัวหรือคนที่ทำ ต้นละ 2500 บาทขาดตัว” กรรมการและเลขานุการมูลนิธิ ประกาศก้อง

              

              เป็นสูตรสำเร็จของมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ หลังเสร็จสิ้นพันธะกิจต้องไปพักผ่อนหย่อนใจกันต่อ ครั้งนี้ สมาชิกขอเข้าไปไหว้พระธาตุแช่แห้ง และเที่ยวชมวัดภูมินทร์ แล้วหากินข้าวซอยอร่อยๆสักคนละชาม ด้วยว่าสมาชิกไม่เคยมาเมืองน่านเลย

 

             ไหว้พระ กินข้าวซอยกันแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง “แก่งหลวง” เป็นแก่งกลางแม่น้ำน่าน ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน(ผาชู้) 14 กม.ถนนลาดยางอย่างดี ดีกว่าราดฝุ่นสมัยก่อนปี 2521-2531 มีหาดทรายทอดขวางลำน้ำ

 

หาดทรายริมแม่น้ำน่านช่วงเหนือแก่งหลวง

              แต่ก่อนเดินทางไปถึง ได้ขอที่พักรับรองอุทยานฯไว้ 1 หลัง เผื่อว่าตามแผนจะกางเต็นท์นอนริมหาดทราย เผื่อว่า ฝนตก น่าจะนอนลำบาก เมื่อไปถึงจึงได้เห็นสภาพเต็นท์ที่กางไว้ก่อน โดนทั้งฝนกระหน่ำและพายุพัดกระจาย  หาดทรายฉ่ำน้ำ น้ำที่เคยใสขุ่นแดง ลงมติ กินข้าวเย็นท่ามกลางบรรยากาศชายหาดแล้วกลับขึ้นไปนอนบ้านรับรอง

 

             หัวหน้าสมพลและทีมงาน ตั้งโต๊ะเก้าอี้ที่อุตสาห์ขนมาจากกิตตินันท์ แม้กระทั่งเตาปิ้งย่างของกินมาเสิร์ฟ  หรูยังกับเจ้าชายไปปิกนิคชายทะเล อย่างกับในหนังฝรั่งที่ไปยึดอาณานิคมแอฟริกาแล้ว อย่างกับนิมิตเพื่อให้เป็นความงดงาม

 

เช็คอินแก่งหลวง

              ผืนป่าสองฝั่งแม่น้ำน่านช่วงแก่งหลวงเป็นป่าเบญจพรรณ ต้นไม้ป่าหนาแน่นกำลังแตกใบใหม่ ผืนป่าเขียวขจีถี่ยิบ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม เมฆขาวลอยมาอ้อยอิ่ง แสงแดดยาม 16.30 น.คล้อยลับขอบเขาเขียวอีกฟากฝั่ง แดดร่มลมตก ได้เวลาเสวนาประสาป่าไม้กันแล้ว

 

             สมาชิกผู้กล้ามาปลูกป่าลดโลกร้อน นั่งร่วมโต๊ะดังในภาพ อร่อยกับอาหารที่เสิร์ฟ และดื่มด่ำกับน้ำเปลี่ยนนิสัย เสียงพูดคุยด้วยสำเนียงเสนาะ ไพเราะด้วยความหลังของแต่ละคน เป็นความสุขสมที่ประกาศว่า ผิดหวังเพียง น้ำในแก่งขุ่นและไม่ได้อาบและแช่อย่างหวัง

 

             “ผมฝันว่าจะได้นั่งที่ชายหาดขาวกลางป่าเขียวขจี และมีน้ำใสๆในแม่น้ำน่านให้ลงอาบ กะว่าจะแช่สัก 2 ชั่วโมง แหม ฝนฟ้ามาตกไม่ต้องฤดูกาล ผิดหวังไปอย่างเดียวแหละ” ท่านประธานกรรมการเล่าให้ฟัง

 

               “เหลียวไปรอบๆ ดูซิ ผืนป่าเขียวขจี สีสันสดใส สวยงาม เรือนยอดชิดติดกันไปหมด ช่วยปกป้องแผ่นดินและลดการกัดชะพังทลายของดินได้อย่างกับแม่น้ำน่านมีผืนป่ากรองตะกอนเชียวนะ” กรรมการและเลขานุการสนอง

 

               “แม่น้ำน่านวันนี้ขุ่นด้วยตะกอนแดงจากแผ่นดินบนขุนเขา ป่าต้นน้ำถูกทำลายเป็นไร่เลื่อนลอย เมื่อฝนตกสองวันก่อนจึงชะล้างดินตะกอนสีแดงๆไหลลงแม่น้ำน่าน เห็นได้ว่า ป่าต้นน้ำถูกทำลาย” หัวหน้าสมพลคนต้นน้ำกล่าวติดตลก

 

               “ในอดีตช่วงปีพ.ศ.2521-2531 ทุกปีผมกับเพื่อนร่วมงานซึ่งก็คือชาวบ้านกิตตินันท์(ต้องจับสลากกันมา)  และประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน ผอ.ประยูร กันทะวงศ์ ครูโสภณ ศรีพรหม ครูมิ่งขวัญ ใจปอด(เข็มหทัยกุล) เดินทางมาแรมคืนที่นี่  แค่วางตาข่ายผืนเดียว เก็บกู้ปลากันทั้งคืนได้เป็นปี๊บๆครับ”

 

               “พวกเราปิ้งย่างปลากินกันง่ายๆ บางมื้อก็ลาบปลาสดๆ และก้อยปลาซิวของโปรดคอเหล้า ส่วนผมนั้นไม่ดื่มเหล้า ดื่มแต่น้ำเปล่า แต่ก็สามารถนั่งร่วมวงด้วยได้จนดึกดื่น” คนแก่ชอบเล่าความหลัง



                

               ตะวันลับขอบเขาไปนานแล้ว แสงเดือนไม่สาดส่องเพราะว่าเป็นคืนข้างแรม เสียงไก่ป่าขานมาแว่วๆ เสียงหริ่งหรีดเรไรขับขาน ก้มมองฝ่ามือก็มองไม่เห็นลายมือแล้ว มืดไปกว่านี้ การเดินทางขึ้นไปบ้านพักรับรองไม่ยาก แต่ทีมงานจะขนย้ายถ่ายเทอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีปัญหา ถึงเวลาอำลาอาลัย หาดทราย สายน้ำและผืนป่าเขียวขจี


ก้มมองลายมือไม่เห็นเส้นลายมือแล้ว...กลับ

ขอบคุณพี่น้องบ้านกิตตินันท์และน้องไก่ที่อำนวยการอย่างเข้มแข็ง

              ค่ำคืนนี้ยังเยาว์นัก มีการตั้งโต๊ะและตั้งวง ผมหนีไปปูที่นอนสำรอง อาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอน เจเจอยู่นอนเป็นเพื่อนลุงธง เสียงกรนดังในเวลาไม่นาน แต่พอยาม 3.00 น.คนแก่ตื่นไว เสียงพูดคุยช่วยให้นกหลับได้ตื่น แหม ไปไหนกับคนแก่ตื่นไวก็เหมือนได้นาฬิกาปลุกเชียว ฮา

 

ประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง ทสจ.น่านและพวกตามมาตบท้ายอีกขวด

อรุณรุ่งที่ผาชู้ แม้ไร้ทะเลหมอก ก็งามอยู่เน้อ

              ยามเช้าตรู่ วันนี้ที่ผาชู้ไร้ทะเลหมอก แต่แสงสีทองที่สาดส่องทิวเขาเบื้องหน้า ดุจภาพเขียนจีนบรรจงสร้าง ก่อนจะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 1 ภาพ 1000 คำบรรยาย 


ผาชู้โดดเด่นเห็นอยู่ข้างหลังภาพ

แม่น้ำน่านวันนั้น มีแต่ตะกอนหลังฝนตกหนัก

Tags : ส้วม ต้นสักใหญ่

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view