สกว.สนับสนุนทุนวิจัย
“Route 12 Season Change Relaxing Summer”
เส้นทาง Route 12 ท่องเที่ยวได้ทุกฤดู
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เรื่องใหม่เพิ่งได้รับรู้ว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ก็ให้ทุนเพื่อการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งสำนึกเดิมคือการวิจัยหลากหลายทางวิชาการและพัฒนา พอได้รับเชิญจึงสนใจอยากจะไปพิสูจน์เพื่อสืบหาความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้วิจัยมุ่งเน้นเสนอการท่องเที่ยวบนถนนสาย 12 ระหว่างพิษณุโลก-หล่มสัก ทุกฤดูได้อย่างไร
ตามความเข้าใจดั้งเดิม เข้าใจว่า การท่องเที่ยวบนถนนสาย 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) นั้นมี 2 รูปแบบ อันได้แก่
รูปแบบที่หนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวระดับประเทศ ได้แก่ การท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆบนถนนสายนี้คือ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อุทยานแห่งชาติเขาค้อ สภาพภูมิประเทศของแต่ละแหล่งท่องเที่ยว เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีวิวทิวทัศน์สวยงาม อากาศหนาวเย็นจนถึงเย็นจัด มีสายหมอกโลมไล้เอาใจไม่ห่างกาย จนถึงมีทะเลหมอกให้ชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ยามค่ำคืนได้ก่อกองไฟผิงอิงไออุ่น ได้อารมณ์โรแมนติกและได้บรรยากาศของการท่องเที่ยวลึกซึ้ง จึงได้รับความนิยมมาก
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากแดนไกล เช่นกรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ฯลฯ โดยขับรถยนต์ตามกันมา หรือไม่ก็เหมารถตู้เพื่อความสะดวก ปลอดภัย ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวของตน ฤดูกาลที่นิยมไปท่องเที่ยวกันนั้นเฉพาะฤดูหนาว ใช้เวลาท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน
ดร.สีลาภรณ์ บัวสายกับรศ.ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์
รูปแบบที่สอง เป็นการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น นักท่องเที่ยวได้แก่ผู้คนในท้องถิ่นไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวมากนัก หรือคนจรที่ผ่านทาง เหมือนว่าวันว่างก็หอบของกินและอุปกรณ์มานั่งพักผ่อนรอบน้ำตก ใต้ร่มไม้ใบบัง เช่น วนอุทยาน สกุโณทยาน น้ำตกแก่งซอง การล่องแก่งแม่น้ำเขก ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสองฝั่งแม่น้ำเขก มีรีสอร์ทขนาดเล็กๆ โรงแรมขนาดกลาง และร้านอาหารประปราย ไม่มีการตลาดเพื่อการขายแต่เป็นไปตามสภาพธรรมชาติของท้องถิ่น ซึ่งมีมานานแล้ว นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจ ไร้รูปแบบทางธุรกิจ
รศ.ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ได้รับงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)ให้ทำการวิจัยการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมโดยชุมชนตามเส้นทางถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ถือได้ว่าเป็นรูปแบบที่สาม บนถนนสาย 12 ก็ว่าได้
รศ.ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ สำรวจแหล่งท่องเที่ยวบนถนนสาย 12 ไว้กว่า 200 แหล่ง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนอกฤดูหนาว หรือจะกล่าวว่า เที่ยวได้ทุกฤดูก็ได้เช่นกัน นอกจากการวิจัยความเป็นไปได้ในการท่องเที่ยวทุกฤดูกาลบนถนนสาย 12 ยังมีการสาธิตหรือโรดโชว์เป็นกิจกรรมจริงดังนี้คือ
จุดเริ่มต้น ต้องได้ไปกราบไหว้ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ ในวิหารวัดใหญ่หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ศาลหลักเมืองพิษณุโลก เคารพสิ่งอันควรของเมืองสำคัญ เสริมสิริมงคลเอาไว้ก่อนการออกเดินทางด้วยขบวนรถยนต์ 60 คัน มุ่งหน้าไปยังวัดเขาสมอแครง อำเภอวังทอง ระยะทางแค่ 17.5 กม. ได้เดินออกกำลังกายขึ้นไปกราบไหว้พระพุทธบาทตะแคงซึ่งแปลกและมีเพียงแห่งเดียวในโลก ไต่ไปตามขั้นบันไดถึง 197 ขั้น ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า งานนี้ได้เหงื่อ
ต่อมา เดินทางออกจากวัดเขาสมอแครงไปตามถนนสาย 12 ระยะทาง 23 กม.จึงแยกขวามือเข้าไปตามถนน(กำลังจะลาดยาง) อีก 14.8 กม. ถึงน้ำตกไผ่สีทอง ต.ตอเรือ อ.วังทอง รถยนต์ไต่ไปบนสันเขาที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง 500-600 เมตร อากาศเย็นสบาย มองเห็นสวนพฤษานานาพันธุ์ทั่วไป ที่น้ำตกไผ่สีทอง ว่ากันว่ามีถึง 9 ชั้น แต่เป็นน้ำตกที่มีน้ำเพียงฤดูเดียวคือหน้าฝน อย่างไรก็ตาม นับว่าภูมิประเทศทั่วไปในบริเวณนี้คล้ายคลึงวังน้ำเขียว อนาคตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ได้เวลาอาหารกลางวัน แน่นอนว่าต้องเป็นผัดไทยวังทองที่มีชื่อเสียงมายาวนาน พักผ่อนกันตามต้นไม้ใบบัง ก็ได้เวลาเดินทางต่อเข้าไปยังบ้านรักไทย อ.เนินมะปราง ระยะทาง 10 กม. ถนนลาดยาง มีร้านกาแฟสดมองเห็นสวนผลไม้นานาชนิด มีชาวบ้านขายผลไม้ที่ตนเองปลูกเรียงเป็นแถว โดยเฉพาะ”ทุเรียนหลงรักไทย” อันเป็นชื่อที่แปลงมาจากหลงลับแล
แท้จริง ทุเรียนหลงรักไทยเป็นชนิดเดียวกันกับทุเรียนหลงลับแล แต่เมื่อนำมาปลูกที่บ้านรักไทย ด้วยสภาพดินฟ้าอากาศใกล้เคียงกันกับเมืองลับแล จึงให้ผลผลิตทุเรียนหอมอร่อยเหมือนหลงลับแล แต่เพื่อให้คล้องจองกับหมู่บ้านจึงได้เปลี่ยนชื่อเรียกว่า หลงรักไทย นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีมะม่วงน้ำดอกไม้มัน สับปะรดหวานกรอบ แต่ลิ้นจี่และลำไย ยังไม่ถึงฤดูกาล
ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย รองผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้กล่าวว่า โครงการวิจัยดังกล่าวนี้ เป็นการวิจัยถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวบนถนนสาย 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) หรือ “ฤดูที่แตกต่างบนเส้นทาง ROUTE 12 (Season Change at Route 12) Relaxing Summer”
โดยมีองค์ประกอบการท่องเที่ยวคือ นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นกลุ่มใด เข้ามาพักแรมคืนที่พิษณุโลกในช่วงเวลาหน้าฝนหรือหน้าร้อน ปรารถนาที่จะท่องเที่ยวแบบวันเดียวกลับ และมีประชาชนคนพื้นถิ่นขนเอาสินค้าหรือผลไม้ที่ตนเองมีในฤดูกาลนั้นๆออกมาจำหน่าย เช่นการสาธิตทริปนี้ได้แวะสวนทุเรียนที่บ้านรักไทย เป็นต้น
ชุมชนใด อาจารย์สถาบันไหน หรือองค์กรภาคเอกชน ที่ใฝ่ทำการวิจัยและพัฒนา ติดต่อที่ ชั้น 14 อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ เลขที่ 979/17-22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร.0 22788236 หรือ www.trf.or.th