ท่องแดนแผ่นดินธรรม
วัดพระบรมธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ในจังหวัดลำพูน ทองไทยแลนด์ได้เคยเขียนถึงวัดพระเกจิอาจารย์ดังๆไปแล้วมากมายหลายวัด เช่นวัดบ้านปาง วัดบ้านเกิดครูบาศรีวิชัย วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม วัดพระธาตุศรีเวียงชัย ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทผาหนาม วัดครูบาอภิชัยขาวปี วัดพระธาตุห้าดวง และวัดพระธาตุดวงเดียว วัดในเขตเมืองลี้เก่าแก่ เหลือก็แต่ วัดพระบรมธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร แห่งนี้แหละที่เป็นสุดยอดวัดสำคัญของนครลำพูน
วัดพระบรมธาตุหริภุญชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นพระบรมธาตุปีเกิดของคนปีระกา หรือปีไก่ สร้างขึ้นโดย พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวี ที่ทรงศรัทธาแก่กล้าหลังจากได้เห็นพระบรมสารีริกธาตุ อันประกอบไปด้วย ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกนิ้ว และธาตุย่อยอีกเต็มบาตร จึงโปรดให้สร้างเปลี่ยนจากวังที่ประทับเป็นวัดหริภุญชัย พร้อมกับสร้างพระบรมธาตุหริภุญชัยขึ้น ในพุทธศตวรรษที่ 17
ตำนานพระธาตุหริภุญชัย กล่าวว่า มีลักษณะเป็นสถูปสี่เหลี่ยมทรงปราสาท มีซุ้มทวารเข้า-ออกทะลุกันได้ทั้งสี่ด้าน มีปราสาทสี่เหลี่ยมอยู่ตรงมุมละองค์ ก่อด้วยศิลาแลงซึ่งมีมากในเมืองนี้ ภายในปราสาทเป็นแท่นประดิษฐานพระโกศที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว
ต่อมา ในสมัยพญาสรรพสิทธิ์ กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์ เจดีย์องค์เดิม และได้ขุดร่องทวารประตูเข้า-ออกทั้งสี่ด้านเพื่อความปลอดภัย โดยไม่ได้เปลี่ยนรูปทรงปราสาทแต่อย่างใด
เมื่อพญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้ ทรงโปรดให้ซ่อมแซมดัดแปลงองค์พระธาตุขึ้นใหม่ การปฏิสังขรณ์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทรวดทรงขององค์พระธาตุฯ จากทรงปราสาทกลายเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมแบบทรงลังกา
ปีพ.ศ.1951 พระเจ้าแสนเมืองมา ทรงโปรดให้มีการปิดทององค์พระธาตุ
ปีพ.ศ.1990 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์สำคัญแห่งนครเชียงใหม่ ทรงร่วมกับพระมหาเมธังกรเถระ ก่อพระมหาเจดีย์ให้สูงขึ้นเป็น 92 ศอก กว้างยาวขึ้น 52 ศอก เป็นรูปร่างที่เห็นเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมพระบรมธาตุหริภุญชัย มีลักษณะดังนี้คือ
ฐานปัทม์แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้นรับฐานบัว ซึ่งมีลักษณะคล้ายมาลัยสามชั้น ซึ่งตั้งรับองค์ระฆังกลมซึ่งประดับด้วยลวดลายดอกไม้สี่กลีบ ระหว่างลายดอกไม้สี่กลีบนั้นมีการดุนนูนเป็นภาพพระพุทธรูป รอบองค์ระฆังซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน เหนือขึ้นไปเป็นบัลลังก์ย่อมุม ส่วนบนเป็นปล้องไฉน ปลียอดเหนือสุดทำเป็นฉัตรเก้าชั้น
พระเจ้าติโลกราช ได้โปรดให้ก่อกำแพงโดยรอบเขตพุทธาวาสเพื่อเป็นการป้องกันรักษาองค์พระธาตุอีกชั้นหนึ่ง ทั้งยังทรงให้ก่อสร้างซุ้มประตูโขงประดับด้วยลวดลายปูนปั้นอย่างงดงามทางประตูด้านทิศตะวันออก ด้านหน้าวิหารหลวงทางทิศเหนือและทางทิศใต้และ ทิศตะวันตก
ปัจจุบันคงเหลือแต่ซุ้มประตูโขง ทางทิศตะวันออก และทางด้านทิศใต้
ปี พ.ศ.2054 พระเมืองแก้ว กษัตริย์นครเชียงใหม่ โปรดให้หุ้มบุองค์พระธาตุ ด้วยแผ่นทองจังโกฐ ที่เป็นแผ่นทองแดงและทรงให้ปิดทองทั้งหมดพร้อมๆ กับโปรดให้สร้างระเบียงหอก ทำด้วยทองเหลืองซึ่งสั่งทำจากเมืองเชียงแสนขึ้นเป็นรั้วล้อมโดยรอบขององค์พระธาตุด้วย โปรดให้สร้างวิหารหลวงทางด้านทิศตะวันออกขององค์พระธาตุหริภุญชัยเป็นศิลปะล้านนา
สร้างกำแพงเมืองและขุดคูโดยรอบกำแพงเมืองใหม่ขึ้น เป็นการย่นย่อตัวเมืองหริภุญชัยให้มีขนาดเล็กลงเพื่อเป็นการสะดวกที่จะดูแลรักษาองค์พระธาตุให้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในการสร้างกำแพงเมืองในครั้งนี้ทำให้ วัดสี่มุมเมือง ที่สำคัญและสร้างขึ้นในสมัยของพระนางจามเทวีกลายเป็นวัดนอกเมืองลำพูนไป
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2329 สมัยของพระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้โปรดให้ตั้งฉัตรหลวงสี่มุม และยกฉัตรยอดเป็นทองคำเนื้อเจ็ด ฐานฉัตรกว้าง 1 เมตร จะเห็นได้ว่า พระบรมธาตุหริภุญชัยได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาทุกรัชกาลของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และเจ้าผู้ครองนครหริภุญชัย ถือเป็นองค์พระบรมธาตุสำคัญที่ได้รับความเคารพกราบไหว้ของชาวล้านนาตลอดมา (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
เช้าวันอันสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นสีน้ำเงินไปทั่ว ผมเดินถ่ายรูปตั้งแต่ซุ้มประตูโขงองค์ที่เหลืออยู่ทางทิศตะวันออกของวิหารหลวง แล้วเดินไปถ่ายรูปวิหารหลวงก่อนจะเดินเข้าไปภายในวิหารเพื่อถ่ายรูปพระประธานในวิหาร พุทธศาสนิกชนวนเวียนเข้ามากราบไหว้มิได้ขาดสาย บางครอบครัวก็ถวายสังฆทานให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่มาโปรดถึงในวิหาร
ผมเดินกลับออกจากวิหารหลวง แล้วเดินอ้อมใต้ไปทางด้านที่พระบรมธาตุหริภุญชัยประดิษฐานอยู่ ได้เห็นพิธีกรรมบูชาพระบรมธาตุจากญาติโยมที่เดินทางมาจากแดนไกล ได้ถ่ายรูปพระบรมธาตุไว้ให้พี่น้องผองเพื่อน เว็บไซต์ทองไทยแลนด์ดอทคอมได้ชมกัน
ความงดงามขององค์พระบรมธาตุ เหลืองทองสุกปลั่ง กลิ่นธูปและควันเทียนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ พุทธศาสนิกชนคนพุทธนิยมจุดธูปเทียนและดอกไม้บูชาพระบรมธาตุโดยการเดินเวียนรมธาตุ 3 รอบ แล้วจึงกราบไหว้ให้เป็นสิริมงคลกับชีวิตของแต่ละคน
ผมเองได้แต่เดินถ่ายรูป เพื่อนำมาฝากเพื่อนๆได้ชมกัน และขอบอกด้วยว่า ภายในวัดพระบรมธาตุหริภุญชัยนั้นมีโบราณสถาน โบราณวัตถุสำคัญๆอีกมากมายที่ไม่ได้เดินไปถ่ายรูปมาอวด เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้ว หากพุทธศาสนิกชนคนพุทธทั้งที่เกิดปีระกาหรือเกิดปีใดๆก็ตาม ได้มีบุญได้ไปกราบไหว้พระบรมธาตุหริภุญชัย ก็อย่าได้ลืมเดินไปชม ไปกราบไหว้ ไปปิดทอง ไปให้ครบเครื่องเรื่องวัดพระบรมธาตุหริภุญชัยนะครับ
ตรงข้ามวัดพระบรมธาตุหริภุญชัย มีตลาดขายของฝากหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อติดมือกลับไปฝากญาติผู้ใหญ่ คนชอบใจใคร่รักนักหนา มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม มีทั้งของกินของชอบ แถมมีของที่ระลึกสัญลักษณ์ของนครลำพูน แม่ค้าส่วนใหญ่แต่งตัวสวย พูดจาไพเราะอย่างสาวนรคลำพูน อ่อนหวาน ตอนหนุ่มๆ นั้นหลงสาวป่าซางมาแล้ว จ้าว จ้าว จ้าว
ร่องรอยกำแพงเมืองเก่าที่เหลืออยู่