ไปเที่ยวบ้านผาฮี้ (อาข่า) ปลูกกาแฟอาราบิก้าใต้ร่มไม้ป่า
อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ต้องผ่านจุดนี้ลงไปทางแม่สาย
ภาพภูเขาหัวโล้นทางภาคเหนืออันเป็นพื้นที่สูงและเป็นป่าต้นน้ำสำคัญของประเทศนั้น เห็นทีไรใจหาย ห่อเหี่ยว และหดหู่ บอกตามตรงไปเห็นภาพเช่นนั้นทีไร ไม่แฮปปี้ไม่มีความสุขเลย แต่เมื่อผมตาม กลิ่นศักดิ์ ปิติวงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง จึงรู้สึกใจชื้นขึ้น ขอบคุณนะ
โล้ชิงช้าตรงนี้
จากดอยตุง รถยนต์ไต่ไปตามสันเขาสูงเสียดฟ้ากว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยต้นไม้หนาตาส่วนใหญ่เป็นต้นสนสามใบ ซึ่งปลูกทดแทนไร่ร้างบนขุนต้นน้ำขึ้นใหม่ในโครงการดอยตุง ต้นไม้อายุกว่า 16 ปีแล้ว สูงตระหง่าน เขียวขจีไปทั่ว แต่ภายใต้ร่มเงาต้นสนสามใบเหล่านั้นเขียวไปทั้งผืนด้วยไร่กาแฟอาราบิก้า
ลานตากกาแฟว่างเปล่า
ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มูเซอร์แดง มูเซอร์ดำ ซึ่งเดิมอาศัยทั้งอยู่และทำกินด้วยการถางป่าจนหัวโล้นแล้วปลูกฝิ่น ข้าวโพด ข้าวไร่ เพื่อดำรงชีวิตอยู่กันไปตามประสา แต่ต่อมาเมื่อโครงการดอยตุงเริ่มเข้ามาพัฒนา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้นสนสามใบถูกปลูกขึ้นแทน ระหว่างต้นสนปีที่ 1-3 ชาวไทยภูเขาเหล่านั้นยังอาศัยปลูกพืชไร่ไปด้วยได้
บ้านผาฮี้(ลาหู)
ในขณะเดียวกันก็ได้รับการส่งเสริมให้ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ใบเล็ก เติบโตได้ดีใต้ร่มไม้ใบบัง บนพื้นที่สูงกว่า 900-1500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ภูมิอากาศหนาวเย็น ดินฟื้นสภาพจากไร้ร้างมาเป็นร่มเงาแมกไม้ใบไม้ที่ร่วงหล่นคือปุยอินทรีที่เขาคืนให้กับแผ่นดิน เพียง 3 ปีกาแฟอาราบิก้าก็เริ่มให้ผลผลิต
วันนี้ ผมโชคดีที่หัวหน้ากลิ่นศักดิ์พาไปจนถึงบ้านผาฮี้ กลุ่มบ้านชนเผ่าอาข่า ตั้งบ้านเรือนอยู่บนเขาสูงเสียดฟ้า 1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล(จุดที่หมู่บ้านตั้งอยู่) อันว่าบ้านผาฮี้นี้มีอยู่ด้วยกัน 2 หมู่คือหมู่ที่ช่ 104 ครัวเรือน ประชากร 481 คน มีโรงเรียนให้กับเยาวชนได้เรียนหนังสือ และมีพื้นที่ปลูกไร่กาแฟใต้ร่มต้นสนเหลือเฟือ
ส่วนบ้านผาฮี้ที่เป็นอีกกลุ่มหนึ่งนั้นเป็นชนเผ่ามูเซอร์อาศัยอยู่ จำนวน 30 หลังคาเรือน ประชากร 158 คน เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นเป็นปลูกกาแฟอาราบิก้าเช่นกัน ที่นี่คือนิยามของคำว่าคนอยู่กับป่าได้ด้วยความกลมกลืน
บ้านผาฮี้(อาข่า) ตั้งอยู่หมู่ 10 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายอรัญ พรจิรไพศาล เป็นผู้ใหญ่บ้าน ประกอบอาชีพปลูกกาแฟอาราบิก้าและผลิตกาแฟแบรนด์ดอยผาฮี้จนโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยเหตุผลว่า กาแฟอาราบิก้าบนที่สูง ใต้ร่มไม้สนสามใบนั้นทำให้ผลกาแฟสุกช้า เนื้อสุกแดงปลั่ง หอมหวาน ซึ่งส่งผลดีต่อสารกาแฟมากขึ้น
กาแฟผาฮี้ได้รับรางวัลกาแฟดีที่สุดจากงานมหกรรมพืชสวนโลกเมื่อปีพ.ศ.2554 การันตี ผลผลิตกาแฟดอยผาฮี้วันนี้มากถึง 200 ตัน/ปี ผลพวงที่เห็นได้ชัดเจนคือเศรษฐกิจของชาวอาข่าบ้านผาฮี้ดีขึ้น ปลูกสร้างบ้านเรือนเป็นตึกมั่นคงแข็งแรง หลังคามุงด้วยกระเบื้องหลากสี แต่ละบ้านจะมีลานตากกาแฟไว้ข้างบ้าน ระเบียงบ้าน แม้กระทั่งบนหลังคาบ้าน
การผลิตกาแฟของชาวผาฮี้ทำทั้งแบบแห้งและแบบเปียก มีโรงคั่วกาแฟในหมู่บ้านใหญ่โต ผลผลิตทั้งหมดไม่ส่งขายโครงการดอยตุง แต่ขายตรงสู่ท้องตลาดทั่วไป โดยเฉพาะส่งขายไปยังประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นแบรนด์กาแฟดอยผาฮี้โดยตรง ซึ่งนับว่าเป็นหมู่บ้านชาวไทยชนเผ่าที่สามารถพัฒนาการตลาดได้ด้วยความฉลาด สมกับคำว่า “เราพัฒนาแล้ว”
วันที่เดินทางไปชมนั้นโชคดีมีดาราจากเกาหลีมาถ่ายทำการโฆษณากาแฟดอยผาฮี้ด้วย สาวอาข่าแต่งตัวด้วยชุดสวยงามประจำเผ่าเต็มที่เพื่อต้อนรับ แต่หัวหน้ากลิ่นศักดิ์ขอถ่ายรูปมาอวดซะก่อน แค่นั้น ยังไม่พอ ตากล้องนามกระเดื่องเมืองไทย จำลอง บุญสอง ก็เอากับเขาด้วย ผมได้ภาพมาด้วยความสนุกสนานครับ