หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง
ที่วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ทุกฤดูหนาวหนุ่มสาวชวนกันไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งบนเขาสูงเสียดฟ้าที่ภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา และแหล่งใหม่ล่าสุดที่ภูลมโลอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า บนภูเขาสูงที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงและอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย มีดอกต้นกุหลาบแดงและกุหลาบขาว ออกดอกตั้งแต่ปลายหนาวจนถึงต้นฤดูร้อน บานสะพรั่งรอชมอยู่เช่นกัน
ปลายหนาวไม่ต้องไปไกล แค่วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดนครปฐม มีดอกไม้ป่านำเข้าจากต่างประเทศชื่อชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือเรียกกันทั่วไปว่า ตะเบบูย่าสีชมพู มีชื่อสามัญเป็นภาษาอังกฤษว่า Pink Trumpet มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia rosea (Bertol) DC. อยู่ในวงศ์ BIGNONIACEAE
เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ กระจายพันธุ์ทั่วไปได้ดีในเขตร้อน ประเทศสิงคโปร์ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วประเทศ บ้านเรานำเข้ามาปลูกประดับทั่วไปในกรุงเทพมหานคร และในที่สุดมาโด่งดังมากที่กำแพงแสน
เมื่อปีพ.ศ.2520 ศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตกำแพงแสนได้นำมาปลูกเพื่อบังลมและปลูกประดับตั้งแต่ประตูริมถนนอุโมงค์ผ่านหน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คาวบอยแลนด์ ศูนย์วิจัยพืชเขตร้อน อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ ไปจนถึงประตูทางออกถนนจันทรุเบกษา
ตอนนั้นปลูกกันเพียง 407 ต้น ถีงวันนี้มีอายุ 38 ปี ออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน หลังฝนสุดท้าย 3 เดือน
หลายปีมาแล้วที่ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์บนถนนสายดังกล่าวทิ้งใบแล้วผลิดอกบานสะพรั่งให้ชาวเกษตรได้ชื่นชมกัน แรกๆก็อยู่ในแวดวงนักเรียนสาธิต ผู้ปกครองที่มารอรับลูก นิสิตนักศึกษาและชาวกำแพงแสน เข้ามาชื่นชม รียกกันเองว่าถนนสายสีชมพู
ยิ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์อายุมากขึ้น ก็ยิ่งให้ดอกดกมากขึ้น ทุกเดือนกุมภาพันธ์ถนนสายนี้จะมีแต่ดอกสีชมพูบานสะพรั่ง มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับฤดูกาลเป็นสำคัญ แต่เมื่อปีพ.ศ.2557 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายบนเส้นทางสายดอกไม้เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีการประชาสัมพันธ์ ด้วยการเชิญชวนสื่อมวลชนหลายสาขา สื่อสิ่งพิมพ์ เช่นนสพ.รายวัน นิตยสารรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน สื่อเสียงเช่นรายการท่องเที่ยวของ สถานีวิทยุสื่อภาพโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ประเภท เว็บไซต์ต่างๆ
แต่ที่โด่งดังมากเกิดจากสื่อออนไลน์ประเภทfacebookและLine โดยประชาชนคนกันเองนี่แหละ เหมือนปากต่อปาก เฟสกันไปไลน์กันไป โคตรดัง
ประกอบกับผู้บริหารของวิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล จึงได้เปิดกว้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ถนนสายสีชมพูเป็นส่วนหนึ่งในจำนวนกิจกรรมทางการเกษตรของมหาวิทยาลัย อาทิเช่น
อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจส่วนหน้าของมหาวิทยาลัย แหล่งอนุรักษ์พันธุ์นก สวนเพาะเลี้ยงกวาง สวนแพะนม สวนพันธุ์ไม้หอม การแสดงในคาวบอยแลนด์ ร้านอาหารจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโคขุน สวนปาล์มนานาพันธุ์ ฯลฯ
ปีนี้โด่งดังมากเมื่อช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันมาฆะบูชา 20-22 กุมภาพันธ์ 2559 มีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันเข้ามาชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งอย่างมากมายมหาศาล แต่อย่างไรก็ตาม วันเปิดเทศกาลดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน ก็ยังมีให้ชื่นชมกันตลอดถนนสายสีชมพู
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดพื้นที่ให้ร้านค้าประเภทเครื่องดื่ม ของว่าง เสริมเติมพลังให้กับนักท่องเที่ยวได้เบรกอย่างหนาตา ช่วยให้เกิดกระแสเงินสะพัด อะฮ้า อาจารย์ผู้มีความสามารถทางดนตรียังได้ร้องและบรรเลงเพลงเปิดหมวก เป็นอีกสีสันการท่องเที่ยวเชียวครับ
นักท่องเที่ยวนั้น กล่าวได้ว่ามีตั้งแต่คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย อายุ90 ปีลงมาจนถึงพ่อแม่ที่กำลังสร้างความรักในครอบครัว อุ้มลูกจูงหลานมา “เซลฟี่” กันและกัน นิสิตนักศึกษามาจากสถาบันใดบ้างไม่ทราบได้แต่สังเกตได้ว่าไม่ใช่เฉพาะนิสิตเกษตร
บางกลุ่มมาถึงได้เวลาเที่ยงก็แวะกินเป็ดย่งเป็ดพะโล้ร้านเป็ดกำแพงแสนโภชนา แล้วเลยไปกราบไหว้หลวงปู่หลิวขี่เต่าเรือนที่วัดไร่แตงทอง จนตะวันบ่ายคล้อย แดดอ่อนตัวลง จึงเดินทางมาเดินชมชมพูพันธุ์ทิพย์ ถือเป็นการได้ท่องเที่ยวครบถ้วน กิน ไหว้พระ แล้วก็พักผ่อน เฮเฮ
ภายใต้ร่มเงาดอกไม้สีชมพูหวานๆ มีชีวิตที่แตกต่าง บ้างหัวเราะ บ้างยิ้ม บ้างหยอกเย้ากระเซ้าแหย่กันและกัน ได้เห็นความกตัญญูของลูกๆที่พาคุณพ่อคุณแม่แก่เฒ่ามาพักผ่อนได้เห็นการโอบกอดเพื่อเซลฟี่ กลิ่นอายของความรื่นรมย์บานสะพรั่ง
โลกสีชมพูช่างหวานเสียนี่กระไร
