http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,956,701
Page Views16,263,000
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ศาลหลักเมืองกำแพงแสน มีงิ้ว...ประจำปี

ศาลหลักเมืองกำแพงแสน มีงิ้ว...ประจำปี

ศาลหลักเมืองกำแพงแสน มีงิ้ว...ประจำปี

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ศาลหลักเมืองกำแพงแสน จ.นครปฐม

      โคตรเหง้าเหล่ากอของผมมาจากหมู่บ้านเล่งบ๊วย  เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง  เป็นจีนแต้จิ๋วทางตอนใต้ของประเทศจีน  เล่าสืบกันมาว่าที่นั่นมีที่ดินทำกินน้อย แต่มีลูกมากจึงยากจน และแล้ว 4 พี่น้องตระกูล(แซ่)เตียก็อพยพมากับเรือสำเภาใหญ่  9 ใบ  โต้คลื่นลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้มาจนถึงเมืองมั่งก๊ก (บางกอก) ตามสำเนียงที่อากงเอ่ยถึง


      อากงผมเป็นน้องชายคนที่ 5 จึงเรียกว่าอาโหงว ผมจำได้ว่าอากงซาคนที่ 3 (พวกเนื้อนวล) ทำธุรกิจขนส่งเรือเขียวเรือแดงล่องไปท่าเตียน  นอกนั้น ผมจำไม่ได้  หายไป 2 อากง

       อากงผมมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ พูดไทยได้ชัดเจนและด่าเป็นไฟบัลลัยกัลป์ เมื่อเป็นคนขยันทำกิน ขยันถากถางต้นสะแกออกก็กลายเป็นนาข้าว ชื่อเสียงโด่งดังว่าเอาการเอางาน เหยียบขี้ไก่ฝ่อคาตีน จึงได้แต่งงานกับอาม่าชื่อ อิน ลูกสาวจีนแม่ไทย บ้านห้วยคันแหลน  ความขยันทั้งของอากงและอาม่าโด่งดังไปทั้งคุ้งน้ำ


ต้นโพธิ์เปรียบร่มโพธิ์ให้ความร่มเย็น

       ขยันถางป่าสะแกลงเป็นนาข้าว ขยันมีลูกแบบหัวปีท้ายปี ขยันตีและสั่งสอนให้ลูกๆทำมาหากินอย่างตน จนร่ำรวยและแล้วก็สร้างโรงสีไว้สีข้าวเองส่วนหนึ่ง รับจ้างสีข้าวของชาวบ้านในทุ่งเดียวกันอีกส่วนหนึ่ง ได้แกลบได้รำก็ให้ลูกๆเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เป็นอาชีพที่ทำให้กลายเป็นเศรษฐีมีชื่อเสียง อากง-อาม่ามีลูกด้วยกันเป็นชายหญิงรวมแล้ว 11 คน ขยันไหมล่ะพี่น้อง


โรงงิ้ว

         แต่ละปี ตั้งแต่ผมจำความได้ก็ได้ดูงิ้วฉลองทุกปี ตอนเด็กๆผมได้แต่ไปชะเง้อดูตัวแสดงแต่งหน้าทาปาก พอหนุ่มหน่อยก็แอบดูนางงิ้วผลัดผ้าอาบน้ำริมบ่อข้างบ้าน ชั่วว่าได้เห็นเนินอกขาวๆ ขาเรียวอย่างหยวกกล้วยก็สยิวจนต้องหลบ กลัวคนเห็นว่า เกิดอาการคึกอย่างชายหนุ่มตะกรอนั่นแหละ แล้วก็เริ่มเต้นรำวงกับสาวรำวงเวลาพี่ชายคนใดคนหนึ่งบวช คิดแล้วสยิวอะ


ฉากแสดงเอกลักษณืจีน

เปรียบเสมือนปู่ฤาษีของลิเก

         คืนนี้ ผมอายุ 68 ปีแล้ว ไม่ได้นางงิ้วเป็นเมียสักคน แต่ก็ยังรำลึกนึกถึงอุปรากรจีนที่เรียกว่า งิ้ว พอทราบว่าที่ศาลหลักเมือง ตลาดกำแพงแสน จ.นครปฐม มีงิ้วประจำปี  ประกอบกับผมเป็นเจ้าของเว็บไซต์ทองไทยแลนด์ดอทคอม (www.thongthailand.com) สื่อออนไลน์ในโลกอินเตอเน็ต ซึ่งทำมานานถึง 7 ปีแล้ว จำเป็นต้องสรรหาเรื่องราวต่างๆในแนวคิดทฤษฎีของเว็บไซต์มาโพสท์ลงให้มากขึ้นๆเพื่อให้แฟนๆได้เปิดอ่านกันไป


         ภาพประกอบเรื่องนี้ ถ่ายมาจากงิ้วศาลศาลหลักเมืองกำแพงแสนครับ เนื่องในเทศกาลงิ้วประจำปี 19-21 มีนาคม 2559 ครับ

       งิ้วเริ่มต้นสมัยราชวงศ์ซ่งทางตอนใต้ของประเทศจีนก่อนรวมเป็นแผ่นดินเดียวกัน ราวๆคศ.1179-1276 บทพูดเป็นคำกลอน ประกอบเครื่องดีดสีตีเป่าอย่างชาวบ้านๆ ส่วนทางตอนเหนือของประเทศจีนยุคสมัยราชวงศ์หยวน ราวๆศตวรรษที่ 13 เกิดรูปแบบงิ้วที่เรียกว่า จ่าจวี้  บทร้องแบบมีทำนองนั้นใช้สำหรับตัวเอกของเรื่อง ส่วนตัวรองเสนาคนใช้ใช้คำพูดแทน


แต่งองค์ทรงเครื่อง

         ในศตวรรษที่ 16  เป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองสงบ ปราศจากศึกระหว่างแคว้น ประชาชนกินอิ่มนอนอุ่น คศ.1522-17-573 นายเว่ยเหลียงฝู่ ได้นำนิยายพื้นบ้านมาเขียนเรื่องให้แสดง เรียกว่า คุณฉวี่  บทร้องใช้เสียงอ่อนหวาน เครื่องดนตรีประกอบก็พวกปี่และขลุ่ยไม้  ศตวรรษที่ 18 ยุคเฉียนหลงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ชิง คศ.1736-1796 อุปรากรจีนสไตล์ปักกิ่ง โด่งดังมาก    


พร้อมแสดง

         สรุปว่างิ้ว อุปรากรจีนนั้นจำแนกออกได้เป็น 3 แบบคือ งิ้วคุณฉวี่  งิ้วกวางตุ้ง และงิ้วปักกิ่ง ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมการแสดง เมื่อปี คศ2001,2009 และ 2010 เรื่องราวของงิ้วแตกรายละเอียดมากมายจนเกินจะกล่าวถึงครับ แต่อย่างไรเสียก็พอจะเขียนเล่าสู่กันอ่านได้ดังนี้คือ


เครื่องดนตรีประกอบการแสดง

         งิ้ว หรืออุปรากรจีน เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Chinese opera มีองค์ประกอบดังนี้คือ เนื้อเรื่องนิยมใช้นิทานพื้นบ้าน หรืออิงประวัติศาสตร์ หรือเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นๆมาแสดงแปลงบทเป็นคำกลอน ร้อง เจรจา ลีลาท่าทางสื่ออารมณ์  การแต่งหน้าทาปากแสดงถึงบทบาทของตัวตนเช่น


อาวุธในการแสดง

        สีแดง สื่อถึงความซื่อสัตย์  คุณธรรม ความดี กล้าหาญ  สีดำสื่อถึงคนที่ทรงตัวกลางๆ ห้าวหาญ ไม่เห็นแก่ตัว เฉลียวฉลาด สีน้ำเงิน ก็สื่อถึงคนที่มีเอกลักษณ์เป็นกลาง วีรบุรุษชาวบ้าน  สีขาว สีเหลือง สื่อในทางลบ จำพวกเหี้ยมโหด ขี้โกง กังฉิน      

สภาพหลังโรงงิ้ว

     

        ฉาก โรงงิ้ว มักจะใช้สีฉูดฉาดบาดตา ภาพที่เขียนเป็นเอกลักษณ์ของชนเชื้อชาติจีน โดยเฉพาะภาพนกกระเรียน เต่า มังกร หงส์ ส่วนจะสร้างอลังการเพียงใดขึ้นอยู่กับราคาค่าจ้างของแต่ละคณะ

       เครื่องประดับบนศีรษะ แสดงออกถึงสถานะ ตำแหน่ง ว่าเป็นฝ่ายบู๊ หรือฝ่ายบุ๊น หรือนางเอก พระเอก นางรองพระรอง หรือเสนาอำมาตย์ชั้นใดๆ ประกอบเข้ากับชุดเครื่องนุ่งห่มที่ใช้อยู่ด้วยว่า สถานะใดๆ


       อาวุธยุทธภัณฑ์ แต่ละตำแหน่งของแต่ละตัวแสดงจะถืออาวุธแตกต่างกันไป จะไขว้เขวไม่ได้ ถือเป็นเครื่องหมายถึงฐานะด้วย เช่นง้าวด้ามยาว  ดาบด้ามยาว ดาบด้ามสั้น ธนู พลอง กระบอง  ลูกตุ้ม กงจักร ฯลฯ

       เนื้อเรื่อง  นิยมใช้พงศาวดาร ประวัติศาสตร์ นิยายนิทานพื้นบ้าน สถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ แต่งเติมเสริมเอาเรียกว่าดัดแปลง  เช่นคืนนี้ งิ้วคณะซิ่งเง็กเล่าชุนจากบางแค จะแสดงเรื่องขุนศึกตระกูลหยาง ตอนเซี่ยทั่ยกุ๋งออกศึก 


อาหารระหว่างแต่งตัวรอ

        ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ความเชื่อ และคำพังเพย ถูกประมวลเข้ามาใช้ในการแสดงของงิ้วเสมอ เป็นการสื่อความหมายถึงแต่ละชนชาติ กลุ่ม เผ่าพันธุ์

        ประเภทงิ้วมากมายมหาศาล เพราะว่าแผ่นดินจีนกว้างใหญ่ไพศาล มากมายด้วยชาติเชื้อเผ่าพันธุ์ที่แตกต่าง แต่สรุปๆก็คือ งิ้วระดับท้องถิ่นก็เช่น งิ้วเส้าชิว งิ้วเหอหนาน งิ้วกวางตุ้ง ส่วนระดับประเทศก็เช่น งิ้วปักกิ่ง งิ้วคุนฉวี่

ย่าตัดผมทรงดอกกระทุ่มคือผู้ชม

         นักแสดงงิ้ว ตอนเด็กๆที่ผมไปแอบดูหลังโรงนั้นเป็นนักแสดงชาวจีนทั้งสิ้น  เป็นนักแสดงที่สืบทอดเชื้อสายกันมาบ้าง แต่ที่เป็นนักแสดงที่พ่อแม่มีลูกมากยากจนก็ยกให้คณะงิ้วเอาไปเลี้ยงเป็นนักแสดงก็เยอะ

          แต่ต่อมางิ้วในประเทศเริ่มเปลี่ยนไป นักแสดงมีทั้งที่เป็นประเภทลูกมากยากจนคนไทยก็ยกให้ไปแสดงงิ้วจะได้มีงานทำ มีเงินใช้ สำคัญมากคือมีข้าวกิน  จนถึงช่วงหนึ่ง หานักแสดงยาก จึงเริ่มมีนักแสดงจากคนอีสานเข้ามาร่วมด้วย


         ผมสงสัยว่าทั้งคนไทยและคนอีสานจะร้องงิ้วที่มีเอกลักษณ์และภาษาแตกต่างได้อย่างไร ผมจึงเดินเข้าไปถ่ายรูปคนข้างฉากชายร่างอ้วนตรงหน้าต่างเวที ที่ทำหน้าที่บรรเลงกลอง ฉิ่ง แบ กลอง ฆ้อง สารพัดเครื่องดนตรี แกนี่เองที่เป็นคน บอกบทพากย์เป็นภาษาจีนให้กับนักแสดงแต่ละคน ร้องและกล่าวตาม

         หลงชมว่านักแสดงงิ้วชาวไทยและชาวอีสานเก่ง เรียนรู้ภาษางิ้วได้อย่างอัศจรรย์ หายโง่เลยตู

          สมัยผมยังเด็กๆ ความบันเทิงเริงรมย์ที่มีให้ชมได้ในท้องทุ่งกว้างใหญ่นั้นคือ ความอภิรมย์สมใจนักหนา ไม่ว่าจะเป็นงิ้ว ลิเก รำวง ละครชาตรี  เด็กและผู้ใหญ่จนถึงผู้แก่เฒ่าเหลาเหย่ทั้งหลาย ไม่มีอะไรทำกันในยามค่ำคืน จึงไปนั่งดูกันสลอน    แต่คืนนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งดูงิ้ว ส่วนใหญ่


          คนไทยเชื้อสายจีนไปร่วมกินโต๊ะจีนในอาคาร เปิดประมูลสิ่งของศักดิ์สิทธิ์เอาเฮงกลับบ้าน ถือเป็นอีกกุสโลบายหนึ่งของการ บริจาคเงินเข้าสมาคมหรือศาลเจ้าหลักเมืองอย่างชาญฉลาด เช่น ล็อตเตอรี่คู่ละ 500 บาท เลขอะไรได้ทั้งนั้น


กระเช้าเฮงๆๆๆรวยๆๆๆ

         ไปดูงิ้ว ดูละคร แล้วย้อนกลับดูตัวด้วยว่า วันนี้เราได้ช่วยลงขันเป็นเงินให้กับองค์กรการกุศลใดในแต่ละปีแล้วหรือยัง  เป็นภาษีสังคมอีกชนิดหนึ่งที่เกิดเฉพาะกลุ่มคนจีนในตลาดกำแพงแสน 

          ผมไปในฐานะสื่อออนไลน์ส่วนตัว ไม่ได้เป็นแขกรับเชิญหรือเป็นสมาชิกของสมาคมศาลหลักเมืองกำแพงแสน จึงไม่ได้เข้าไปถ่ายภาพสมาชิกมาประกอบเรื่องแต่อย่างใด  ไม่ถ่ายแม้แต่คนที่รักและชอบกันสักเพียงใด แจงให้เข้าใจ ทำไมไม่มีรูปกูเล้ย  อิอิ


บรรยากาศหน้าโรงงิ้ว การค้าสะพัด

 

        

Tags : เป็นกำแพงแสนโภชนา

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view