ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น77.คาโมมายล์
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Chamomile, Camomle ,Roman Chamomile
ชื่อวิทยาศาสตร์ Chamaemelum nobile (L.)All.
ชื่อวงศ์ ASTERACEAE
คาโมมายล์ (camomile)
สถานภาพ เป็นพืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาปลูกประดับ
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบทั้งทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และอาร์เยนติน่า
ในประเทศไทย พบปลูกแถวเชียงใหม่และเชียงราย ที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,400-1,600 เมตร
การกระจายพันธุ์ ไปทั่วทุกทวีป ที่มีอากาศหนาวเย็น เพื่อใช้ประโยชน์หลายทาง
Roman Chamomile
ลักษณะประจำพันธุ์
เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ อายุปีเดียว ลำต้นอ่อนสีเขียว สูง 20-30 ซม. ใบเวียนสลับ ใบแบบขนนกสองชั้น แตกย่อยเป็นริ้วๆ ก้านใบอ่อนลู่ลงดิน ก้านดอกแข็งแรงยาว 15-20 ซม. ดอกรูปกลม กลีบดอกรูปขอบขนาน สีขาว เวียนรอบตุ้มเกสรสีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกดอกระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม เมล็ดขนาดเล็กมาก
ต้นคาโมมายล์
สภาพพื้นที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์
สภาพพื้นที่เหมาะสม ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี อุดมสมบูรณ์ ปลูกในเขตอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิระหว่าง 9-14 องศาเซลเซียส ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 900-1,600 เมตร
การขยายพันธุ์ เนื่องจากเมล็ดเล็กมาก จึงต้องหว่านในกระบะเพาะเฉพาะ การรดน้ำด้วยฟ๊อกกี้พ่น แล้วย้ายต้นกล้าไปลงถุงขนาดเล็กและต้องดูแลค่อนข้างยาก
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผู้เขียนเคยเห็นการหว่านเมล็ดคาโมไมล์ในกระบะเพาะเฉพาะ ด้วยว่าเมล็ดมีขนาดเล็กมาก จนต้นกล้าโตพอจะย้ายชำลงถุง และเฝ้าถนอมจนกว่าจะได้ขนาดที่ย้ายกล้าลงปลูกในแปลงได้ คาโมไมล์นิยมปลูกเพื่อเป็นสมุนไพรมากกว่าประดับลงแปลง เพราะได้สมญานามว่าเป็น ต้นไม้หมอ Physician plant ลองดูนะครับว่ามีคุณประโยชน์แค่ไหน
1.ปลูกเป็นไม้ประดับลงแปลง พบที่เชียงใหม่ แถบดอยอ่างขาง และดอยตุง เชียงราย
2.ปลูกเป็นพืชสมุนไพรและเครื่องหอมบำรุงผิว
ทำชาคาโมไมล์ นิยมใช้พันธุ์ Chamaemelum nobile (L.)All. ซึ่งนิยมเรียกกันว่า Roman Chamomile และ Matricaris retutica ซึ่งนิยมเรียกว่า German Chamomile ส่วนที่ใช้คือทั้งกลีบดอกสีขาวและตุ้มเกสรสีเหลือง
น้ำมันหอมระเหย นิยมมากคือ บลู คาโมไมล์ น้ำมันหอมระเหยสีน้ำเงิน ใช้รักษาโรคผิวหนัง นานาชนิด แก้ความเครียด และทำให้นอนหลับสบาย สูดดมแก้หอบหืด
มีสารประกอบทางเคมีเช่น Chamazulene สารฟลาโวนอยด์ valerianic acid , salicylate , sesquiterpene lactone, phenolic acid, cyanogenic glycosides.
กลีบดอก ช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหาร คลายเครียดได้ดี ลดการอักเสบ และป้องกันการอาเจียน ทำน้ำยาบ้วนปาก
เกสร ใช้ผสมทำแป้งทาผิวป้องกันผดผื่นคัน
ทั้งดอกต้มน้ำ ใช้สูดดมกลิ่น ช่วยลดน้ำมูกจากหวัดและภูมิแพ้
ผสมกับน้ำมันชนิดอื่นเป็น carrier oil แล้วทาแก้ผื่นแดงจากผ้าอ้อมในเด็กทารก