ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น 81.แคมพานูลา
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
แคมพานูลา
ชื่อสามัญ Peach-leaved Bellflower
ชื่อวิทยาศาสตร์ Campanula persicifolia L.
ชื่อวงศ์ CAMPANULACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบเป็นวัชพืชในยุโรป แถบเทือกเขาแอลป์ ที่สูงถึง 1,500 เมตร
ในประเทศไทย พบปลูกทางเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง และเชียงราย บนดอยตุง
กระจายพันธุ์ไปทั่วโลกที่มีอากาศหนาวเย็น
สถานภาพ เป็นพืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาเพื่อการปลูกประดับ
ลักษณะประจำพันธุ์
ต้น แตกกอ สูง 40-50 ซม. ใบ ออกเวียนสลับ ขอบใบหยักเว้นจนย่อย ลำต้นและใบสีเขียวสด ดอกแทงช่อดอกจากกอขึ้นไปราวๆ 25-30 ซม. ดอกย่อยออกเวียนสลับ ตามข้อ รูประฆัง บานเต็มที่ 2-3 ซม. กลีบดอกสีม่วง ชมพู ขาว ออกดอกเดือนมิถุนายน –กรกฎาคม ผล แก่แล้วแตก เมล็ดเล็ก 700 เมล็ด/กรัม
พื้นที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์
ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี แสงแดดจัดเต็มวันจนถึงแดดครึ่งวัน พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,500 เมตร อุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียส ต้องหนาวเย็นถึงขึ้นได้ดี
การขยายพันธุ์ นิยมเพาะเมล็ด 2-4 สัปดาห์ก็งอก หลังย้ายลงปลูก 90-95 วันก็จะออกดอก สามารถขยายพันธุ์จากหน่อที่แตกใต้ดินได้ด้วย
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
ผมถ่ายรูปนี้จากดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ พยายามแยกเฉพาะก้านชูช่อดอก ทั้งๆที่ความจริงเขาแตกกอออกไปหลายต้น ข้อจำกัดของแคมพานูลาคือต้องปลูกบนที่สูงมากๆเท่านั้น ไม่ควรนำไปปลูกประดับในป่าอนุรักษ์ทั้งสองประเภท
1.ปลูกประดับ นิยมปลูกลงแปลง
2.ปลูกเป็นพืชอาหาร ใบมีวิตามิน C สูง นิยมเป็นผักสลัด รสมัน รากสด รสหวาน