http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,943,331
Page Views16,248,749
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน ๒๑ เอิ้นขวัญพ่อนาคจิตรกร ขาววงศ์ ณ บ้านแก้งโตน อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี โดย สาวภูไท

ในคมขวาน ๒๑  เอิ้นขวัญพ่อนาคจิตรกร  ขาววงศ์  ณ บ้านแก้งโตน  อำเภอน้ำยืน  อุบลราชธานี  โดย  สาวภูไท

ในคมขวาน ๒๑

เอิ้นขวัญพ่อนาคจิตรกร  ขาววงศ์  ณ บ้านแก้งโตน  อำเภอน้ำยืน  อุบลราชธานี

โดย  สาวภูไท

            ต้นพฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นช่วงเวลาที่ต้องจารึกไว้  ในดินแดนแห่งคมขวาน  ถึงความร้อนแล้งแสนสาหัสฉากรรจ์ แม้นว่าจะมีพายุฤดูร้อนพัดผ่านพาฝนมาตกลงบ้าง  แต่พอเม็ดฝนจางหายไปพร้อมกับสายลมเพียงข้ามวันแดดก็แผดจ้าพาเอาความร้อนระอุอ้าวแผ่เข้ามาโอบอุ้มไว้เช่นเดิม

            กระนั้น  บนเส้นทางจากอุบลราชธานีสู่อำเภอน้ำยืน  ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนติดเทือกพนมดองเร็ก ผ่านเขตอำเภอเดชอุดมมุ่งสู่ทิศใต้  ยังได้เห็นว่าชาวนา ชาวไร่ แห่งน้ำยืนเตรียมตัวสู่ฤดูกาลใหม่ด้วยใจที่ไม่เคยสิ้นความหวัง ไม่พังสลายมลายไปกับความร้อนระอุอ้าวที่ชาวเมืองบ่นกันนักหนา  ทิวข้าวโพดสีเขียวแผ่ผืนเหยียดยาวสุดตีนภู  สลับกับดินสีแดงถูกรถไถพลิกฟื้นขึ้นมาคอยท่าพืชพันธุ์ในฤดูกาลต่อไปผืนใหญ่ยาวสุดสายตา  มองออกไปจากหน้าต่างรถตู้ดูคล้ายถูกระบายด้วยสีแดงแต่งแต้มขลิบขอบด้วยสีเขียวของภูเขาเตี้ย ๆ ที่ตรงสุดขอบฟ้า


          กลีบดอกคูนสีเหลืองปลิดจากขั้ว ร่วงลิ่วปูพรมบนผืนดิน  ต้นข้าวโพดถอดช่อดอกออกที่ปลายสุดคล้ายข้าวแตกรวง  ที่บ้านสาวภูไทในอำเภอวารินก็วับไหวด้วยดอกกระเจียวสีขาวแซมชมพูก้านอวบอ้วนชนิดกินได้โผล่พ้นพื้นดินขึ้นมาแย้มยิ้ม  กระเจียวกลุ่มนี้ได้พันธุ์มาจากแม่ออก แม่ชี ที่วัดป่าโนนขุมเงิน อำเภอโพนนาแก้ว  สกลนครที่มีน้ำใจเมตตาแบ่งให้มาปลูก ปีแรกนึกว่ามันตายไปแล้ว  ปีที่สองเห็นโผล่มาหนึ่งดอก  แต่ปีนี้เห็นมีกลุ่มใหญ่ให้ชื่นใจและรำลึกถึงวัดป่าที่โพนนาแก้วแหล่งต้นตอ

            กันเกราต้นใหญ่ทิ้งดอกป่งใบเขียวขจีแต่ดอกเข็ม ดอกโมก ยังบานไสวพริบพราวให้เห็นตรงราวป่า  ฟ้าใหม่ในดินแดนแห่งคมขวานยังคงสดใส ประเพณี วิถีชีวิตยังคงสืบเนื่องด้วยความหวังเช่นปกติ ไม่หวั่นไหวไปกับความร้อนแล้งแห่งธรรมชาติหรือการบ้านการเมือง  จะต่างไปก็เพียงว่า  แรงงานที่พลิกฟื้นผืนดินเปลี่ยนจากคนเป็นเครื่องจักร เครื่องยนต์ ลูกหลานชาวคมขวานรุ่นใหม่ ๆ กลับจากเมืองไทย เมืองเทศ ต่างแบกใบปริญญาและหน้าที่การงานระดับสูงมาให้พี่น้องป้องปลายแลพ่อแม่ได้ยิ้มพราย


            เช่นกับวันนี้ที่บ้านแก้งโตน  อำเภอน้ำยืน สาวภูไทเพิ่งมีโอกาสไปร่วมงานบุญของเพื่อนพร้อมกับเพื่อน ๆ เต็มรถตู้หนึ่งคัน  และยังมีรถเก๋ง รถปิกอัพที่ไปส่วนตัวรวมแล้วเกือบยี่สิบคนมุ่งไปบ้าน คุณอุดร  ขาววงศ์ ที่จัดงานบวชให้หลานชายผู้ซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพฯ และลามาบวชที่บ้านเกิด มาสู่ความอบอุ่น กรุ่นรัก ของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย แลพี่น้องป้องปลายดังกล่าว


            เอิ้นขวัญ  เรียกขวัญ  สู่ขวัญ  เป็นพิธีกรรมที่สืบเนื่องมาจากศาสนา ความเชื่อเดิมของชาวอีสานแล้วปรับสู่วิถีพุทธ-พราหมณ์ โดยทั่วทำขึ้นในทุกโอกาสที่เกิดเหตุด่วนทั้งเรื่องที่เป็นมงคล และเกิดเคราะห์หามยามร้าย เกิดอุบัติเหตุเภทภัย คนในครอบครัวก็จะจัดการเอิ้น(เรียก)ขวัญที่อาจอาจกระเจิดกระเจิงให้กลับมาเพื่อปลอบโยน  ให้อยู่กับเนื้อกับตัว อย่าหลบลี้หนีหายไปไหน   หากเป็นพิธีการเต็มรูปแบบจะมีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธี ตั้งพาขวัญ(พานบายศรี) เชิญญาติพี่น้องมาช่วยร้องเรียกขวัญ   ในคาถาบทนำก่อนเริ่มพิธีของพ่อพราหมณ์ก็จะมีการกล่าวสรรเสริญอัญเชิญเทพต่าง ๆ เช่น อินทร์  พรหม ไท้แถน ครุฑ  นาค รวมถึงเหล่าวิญญาณบรรพชนที่นับถือ  และพระรัตนไตร ปัจจุบันอาจมีการตัดทอนให้สั้นลงบ้าง


          นาค เป็นสัตว์ในความเชื่อเดิมของอุษาคเนย์  นาคผู้เป็นใหญ่เรียก พญานาค  มีบ้านเมืองเวียงวังอยู่ใต้พื้นดินพื้นน้ำเรียกว่า พิภพบาดาล  เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิบันดาลฝนและความอุดมสมบูรณ์ให้โลกมนุษย์  เมื่อศาสนาพุทธ  พราหมณ์เผยแพร่เข้ามาอุษาคเนย์ นาคจึงถูกปรับเปลี่ยนเข้าอย่างกลมกลืน  ปัจจุบันเราจะพบพญานาคมากมายในงานศิลปะต่าง ๆ ในทางพุทธศาสนา

          นาค ในอีกความหมายหนึ่ง ว่า นาค หมายถึงผู้ประเสริฐ  ผู้ไม่ทำบาปเช่นพระพุทธเป็นต้น  และ  นาค หมายถึง ผู้เตรียมตัวจะบวช เรียกนาค มีทั้งนาคพระและนาคเณร(ปรีชา  พิณทอง,๒๕๓๒)ดังนั้นนาคจิตรกร  ขาววงศ์ในวันนี้คือผู้เตรียมตัวจะบวชค่ะ และพวกเราก็เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ในพิธีเอิ้นขวัญนาคนี่เอง


          จากอุบลราชธานีถึงบ้านแก้งโตนใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่า ๆ จึงมาถึงก่อนพิธีเอิ้นขวัญนาคเล็กน้อย  ทันได้เห็นกระบวนการปรับเปลี่ยนนายจิตรกร ให้เป็นนาคจิตรกร ที่จะเข้าสู่การเป็นพระจิตรกรในวันพรุ่งนี้ เวลา  ๐๓.๐๙ น ณ พัทธสีมาวัดบ้านแก้งโตน


            โกนผม และ อาบน้ำ คือกระบวนการแรกก่อนเข้าสู่การเอิ้นขวัญนาค  ซึ่งแน่ละหนุ่มหน้ามนคนจากกทม.ที่มีผมดกดำเต็มศีรษะจะต้องถูกตัดและโกนจนเกลี้ยงเกลา หมอพราหมณ์ในวันนี้ คือ คุณพ่อบุญชู  มนตรี จะเป็นผู้โกนผมหลังจากพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนมิตรได้ขลิบผมให้ก่อนแล้ว

            ในท่ามกลางความร้อนระอุอ้าวนั้น  โอ่งมังกรบรรจุน้ำจนเต็มถูกตั้งไว้เคียงข้าง  น้ำแข็งก้อนถูกเทลงผสมจนน้ำในโอ่งเย็นเฉียบ  สายน้ำถูกฉีดไปทั่วพื้นบรรเทาความร้อนไปได้อักโข  ที่สำคัญความร้อน ความเย็น ผสานให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นด้วยกลิ่นอายแห่งความรักที่ญาติผู้ใหญ่บรรจงสร้างขึ้นเพื่อลูกหลานอันเป็นที่รัก


          พิธีกรรม  พิธีการในงานบุญใดๆ ของคนอีสานมาแต่โบราณนั้นจะให้ความสำคัญของคนมากกว่าเสมอ  ความรักใคร่ ห่วงใย แลอาทรกันและกัน  เอาใจกันและกัน คือหัวใจของงาน สาวภูไทเองยอมรับว่าห่างเหินไปจากบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกนี้ไปนาน  นับเป็นบุญอย่างยิ่งได้มาพบเจออีกในโอกาสนี้

            กระบวนการโกนผมนาคเป็นกระบวนการแสดงออกถึงความอาทรต่อผู้เป็นนาคอย่างเต็มเปี่ยม  ขณะพ่อพราหมณ์โกนผมก็มีผู้คอยดูแลเอาใจใส่ เช่น ชโลมน้ำเย็นให้ คอยเช็ด คอยแตะๆ เกลี่ย ๆ อ่อนโยนและนุ่มนวล จนสุดท้ายพ่อนาคเป็นผู้ใช้น้ำล้างมือล้างน้ำพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ก่อนตนเองจะถูกชำระคราบของบุคคลธรรมดาสู่ความเป็นนาคด้วยสายน้ำเย็นจากมือของคนที่รักและห่วงใย

            แล้วก็ถึงกระบวนการเอิ้นขวัญ  หน้าพาขวัญฝีมือประณีตของคุณครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านแก้งโตน ที่บรรจุสิ่งสำคัญในพิธีคือ ไข่ขวัญ  ข้าวต้มมัด และปั้นข้าวเหนียว  ประดับด้วยดอกไม้และด้ายสายสิญจน์สีขาวระย้าระย้อย


            เสียงฆ้องที่ดังมุง ๆ ๆ สลับเสียงสาธยายมนตร์ของพ่อพราหมณ์ตามด้วยการประสานเสียงร้องไชโย และมาเดอขวัญเอย

            มาเดอขวัญพ่อนาคเอย      มาอยู่กับเนื้อกับคีง

             อย่าได้มัวประวิงสิ่งใด  เพื่อจะเดินเข้าสู่ร่มพระศาสนา ด้วยใจที่เปี่ยมสุข

.....

ขอบคุณ  คุณอุดร  ขาววงศ์ และเพื่อน ๆ ชาว ป.กศ ๐๘ ทุกท่านค่ะ

 

             

Tags : ท่องอุบล9.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view