ดอกไม้เทศและดอกไม้ไทย
ต้น 96. บอลลูนฟลาวเวอร์
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ชื่อสามัญ Balloon Flower, Chinese Bellflower,Korian Bellflower,Japaninse Bellflower
ชื่อวิทยาศาสตร์ Platycodon grandiflorus (Jacq.) A.DC.
ชื่อวงศ์ CAMPANULACEAE
Balloon Flower
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์
ในต่างประเทศ พบที่ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่นและไซบีเรียตะวันออก
ในประเทศไทย พบปลูกประดับแบบลงแปลงและลงกระถาง กระถางแขวน
การกระจายพันธุ์ พบกระจายไปปลูกประดับทั่วไปในพื้นที่หนาวเย็น
สถานภาพ พืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาปลูกประดับตามสวนสาธารณะ รีสอร์ท บนที่อากาศหนาวเย็น
ลักษณะประจำพันธ์
ต้น เป็นไม้ดอกอายุหลายปี พุ่มสูง 45-
ใบ ใบเวียนสลับ รูปรีแกมใบหอก ปลายเรียวแหลม โคนมน ขอบใบหยักแบบซี่ฟันตื้น ใบสีเขียวเข้ม
ดอก ดอกเดี่ยวหรืออกเป็นช่อตามปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียว (พบบ่อย) และดอกซ้อน ดอกตูมรูปกลมโป่งพองคล้ายลูกบัลลูน ดอกบานรูปถ้วยตื้น ปลายแยก 5 แฉก ขนาด 3-
ผล กลม แห้งแล้วแตก เมล็ดขนาดกลาง 1,100 เมล็ด/กรัม
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์ เติบโตได้ดีในอากาศหนาวเย็นจนถึงแห้งแล้ง ชอบแสงแดดเต็มวันถึงแสงแดดรำไร ดินระบายน้ำดี ค่าความเป็นกรดด่างของดิน 5.8-6.8 นิยมขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง และเพาะเมล็ดโดยไม่กลบเมล็ด ระยะเวลางอก 14-21 วัน ต้นกล้าบอบบาง ควรย้ายกล้าด้วยความระมัดระวัง
บันทึกผู้เขียนและผู้ถ่าย
1.ปลูกเป็นไม้ประดับ ได้ทั้งลงกระถาง จัดสวนหิน ปลูกลงแปลง และใส่กระเช้าหรือกระถาง
2.ปลูกเป็นพืชอาหาร รากของบัลลูนฟวาเวอร์ ในเกาหลีและจีน นิยมทำเป็นอาหารรับประทาน
doraji ของเกาหลี
3.ปลูกเป็นพืชสมุนไพร รากของBell Flower คล้ายรากโสม มีรสชาติขม กลิ่นโสม ก่อนนำไปใช้จึงต้องใช้น้ำเกลือขัดรากจนหายขม
ราก เกาหลีใช้รากรักษาโรคหลอดลมอักเสบ หอบหืด วัณโรค เบาหวาน และโรคอักเสบอื่นๆ แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาต่อมทอนซิลอักเสบ แน่นหน้าอก
สารสกัดและสาร Platycosideบริสุทธิ์ (saponine)จากราก บำรุงปราสาท ยาปฏิชีวนะต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ว โรคภูมิแพ้ ต้านทานอินซูลินดีขึ้น ลดคอเรสเตอรอล