มูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์
ปลูกป่าลดโลกร้อนด้วยต้นเสลา ครั้งที่ 2
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
อนุสนธิจากการที่คุณนันทวัน หิรัญพฤกษ์ เสนอให้กรรมการและผู้สนับสนุนมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ปลูกป่าลดโลกร้อนในพื้นที่ของหมู่บ้าน หุบเขาห้วยสามสบ ด้วยพันธุ์ไม้ชนิดดอกสีม่วง เมื่อปีพ.ศ.2558 คนที่ไปร่วมปลูกป่าครั้งนั้นได้แก่ ท่านอุดม –อำไพ หิรัญพฤกษ์ ท่านลือ ซ้อนสวัสดิ์ ท่านเพ็ญ ธรรมโชติ อาจารย์จรวย สิงห์พยัคย์ คุณนายกุณฑล สันทัดการ พร้อมผู้สนับสนุนเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้ต้นไม้เติบโตด้วยปุ๋ยจำนวนมาก
ภาพเมื่อปลูกป่าลดโลกร้อนปีที่ 1.
ในปีนี้ กรรมการ สมพล จินดาคำ หน.หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ จึงได้เตรียมกล้าไม้เสลาดอกสีม่วงเพื่อจะปลูกเพิ่มเติม โดยได้รับความร่วมใจจากผู้ใหญ่บ้านทองชั้น ธิเขียว ได้ขอกำลังพัฒนาจากชาวบ้านกิตตินันท์ ลงมือขุดหลุมและปลูกกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2559 เพิ่มเติมจากปีที่แล้ว พื้นที่ปลูกได้แก่รอบสนามโรงเรียนบ้านกิตตินันท์ ริมถนนของหมู่บ้าน ภายในสำนักงานมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ พร้อมปักหลัก ยึดโยง แน่นหนา
ตอนนี้ปักหลักขนาดนี้หมดทุกต้น
ความสำเร็จเกิดจากพลังร่วมใจ รวมต้นเสลาและดอกไม้สีม่วง ดอกไม้สีเหลือง รวมแล้วมากถึง 400 ต้น เป็นความหวังว่า เมื่อต้นไม้เหล่านี้เติบโตและออกดอกสีม่วงให้ได้ชมกัน เมื่อนั้น หมู่บ้านกลางหุบเขาของเราจะมีสีสันสวยงามดังเจตนารมณ์ของคณะกรรมการและชาวบ้าน และผลพวงที่จะได้ตามมาคือร่มเงาจากเรือนยอดต้นเสลา จะบดบังแสงแดดให้สนามหญ้าของเราร่มรื่น เย็นสบาย ปูเสื้อนอนเล่นได้
แต่อย่างไรก็ตาม ต้นไทรใบแหลมที่เราเคยปลูกกันไว้ แผ่กิ่งก้านสาขามาก ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบ เมื่อหน้าร้อนที่แล้วนี้ แล้งมาก ภูมิอากาศแล้งร้อนจนอยู่ในบ้านกันไม่ได้ ทุกบ้านได้อพยพกันมาปูเสือนอนเล่นที่ใต้ร่มเงาต้นไทรข้างสนามโรงเรียน เป็นที่ประจักษ์แก่ใจว่า ร่มเงาแมกไม้มีค่ามาก ดังนั้น เมื่อชวนกันออกมาปลูกต้นเสลาในปีที่ 2 สานต่อตามโครงการปลูกป่าลดโลกร้อนปีที่แล้วจึงสำเร็จง่ายดาย
อดีต หมู่บ้านของเราเกิดขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจพัฒนาในยามค่ำคืน ตั้งแต่ 18.00-24.00 น.มาตลอดเวลายาวนานกว่า 5 ปี(พงศ.2523-2527) ทำให้หมู่บ้านกลางหุบเขาห้วยสามสบแห่งนี้มั่นคง จากบ้านฟากไม้ไผ่ มุงหลังคาด้วยหญ้าคา วันนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นบ้านตึก บ้านไม้ชั้นเดียว บ้านไม้สองชั้น บ้านสองชั้นกึ่งตึกกึ่งไม้ ความสำเร็จเกิดแต่ความสามัคคีโดยแท้
เอาจริง ตามเจตนารมณ์ผู้ริเริ่ม
“ไม่มีงบประมาณจากภาครัฐ แต่พวกเราก็พัฒนาร่วมกันมาจนสำเร็จได้ ทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน วัด โรงเรียน อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปาภูเขา พืชผลอาสินที่ปลูกไว้กินเหลือก็ขายที่ตลาดเกษตรกรบ้านกิตตินันท์ของเรา และช่วยทางราชการปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำมาตลอดตราบทุกวันนี้ ทั้งนี้ก็ด้วยความเมตตาของคณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ และสมาชิกชมรมคุณเหี่ยว ที่สืบสานเจตนารมณ์ของนายสมเพิ่ม กิตตินันท์ ที่ได้มอบทุนไว้ให้เป็นครั้งแรก จนได้บัณฑิตทางการศึกษากว่า 25 คน ”
นี่แหละเพื่อนร่วมงานของผม อายุ 70-80 กันแล้ว สมาชิกมูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์
อดีตนักเรียนทุนมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ โรงเรียนบ้านกิตตินันท์ มีครอบครัวกันแล้ว
“ด้วยความตั้งใจมั่นคงด้วยอุดมการณ์ของท่านประธานกรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ท่านอุดม หิรัญพฤกษ์ เพื่อนวนศาสตร์ รุ่น 15 สมาชิกชมรมคุณเหี่ยว และผู้เปี่ยมได้ด้วยจิตเมตตากรุณาด้วยความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง คร่ำเคร่ง จริงจัง และจริงใจต่อเด็กๆและชาวบ้านผู้ด้อยโอกาสได้มีโอกาสตลอดเวลา 30 ปี”
บ้านที่เปลั้ยนไป ไก่บ้านที่เลี้ยงกินไข่และกินตัว เหลือก็ขาย
ใต้ร่มไทรต้นนี้ เย็นสบาย ปีนี้ร้อนมากชาวบ้านไปปูเสื่อนอนกัน
หนุ่มๆรอไปร่วมปลูกป่าลดโลกร้อนปีที่ 2
งบปลูกป่าต้นน้ำไม่มี ชาวบ้านต้องขุดหนู่ไม้ พืชผักมาขายกัน
รร.บ้านกิตตินันท์มีเด็กน้อย ถูกยุบ เด็กนักเรียนต้องไปเรียนนอกหมู่บ้าน
หน.สมพล จินดาคำ อยู่ ผมก็ไปฝากท้องกับท่าน
หน.ไม่อยู่ผมกินที่บ้านหลังนี้