ปักษ์ใต้ ปักหมุดหยุดเวลา @ พังงา
ตอนที่2 เกาะห้องพังงา-เขาพิงกัน-ล่องแพไม้ไผ่
#PhangNga
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผอ.ททท.สำนักงานภูมิภาคภาคใต้ ชาญชัย ดวงจิต
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูมิภาค ภาคใต้ ชาญชัย ดวงจิต กรุณาพาสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆไปท่องทะเลแหวกจังหวัดพังงา ซึ่งแปลกแตกต่างไปจากทะเลแหวกจังหวัดอื่นๆ เพราะที่นี่แหวกวันละ 2 ครั้ง 2 เวลา ช่วงเช้าครั้งหนึ่งและช่วงบ่ายแก่ๆอีกช่วงหนึ่ง สมญานามว่า ทะเลแหวกเกาะพง จังหวัดพังงา แต่คนพังงาภูมิใจที่จะเรียกว่าสันมังกรพังงามากกว่านะ
ขึ้นฝั่ง มีรถปิ๊กอัพขนาดเล็ก แต่ทรงรถแบบรถคอกหมู สวยเก๋มารอรับถึงที่ท่าเรือ เพื่อมุ่งหน้าไปค้างแรมและรับประทานอาหารค่ำที่ เกาะยาวใหญ่วิลเลจ พังงา ที่นั่น คุณคณากร สาคริก รอต้อนรับด้วยความอบอุ่น บ้านพักของ เกาะยาวใหญ่ วิลเลจ มีทั้งบีชฟร้อนท์วิลลา วิลลา 2 ห้องนอน สำหรับครอบครัว วิลลา 1 ห้องนอน และดีลักซ์วิลลา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน
ชายหาดยาว 400 เมตร แต่งแต้มด้วยสระว่ายน้ำเคียงทะเล พร้อมบาร์เครื่องดื่มและเตียงอาบแดด ติดกันเป็นภัตตาคารหรู Khayee Restaurant บริการอาหารสไตล์บุฟเฟท์ นานาชาติ นอกจากนั้นยังมาบาร์ฟังเพลงผ่อนคลาย สปาและศูนย์สุขภาพ อินเตอเน็ตและวายฟาย ลมทะเลพัดตึง มองไปเบื้องหน้าเป็นเกาะพีพี สถิตอยู่กลางทะเลหลวง
หลังอาหารเช้า คณะพร้อมเดินทางไปลงเรือสปี๊ดโบ๊ท เพื่อเดินทางไปตะลุยทะเลพังงากันต่อ แสงแดดอ่อนๆที่สาดใส่ให้ความอบอุ่นแก่ผิว แรงลมที่ตบใส่ใบหน้าและผมตั้งเด่ แต่ก็ไม่มีใครหลบ เพราะว่าเบื้องหน้าคือเกาะห้องที่ตั้งตระหง่านกลางทะเล เรือแคนู เรือหางยาวขนาดเล็ก และเรือทัวร์จอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับคำว่าเกาะห้องพังงา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
เกาะห้องจังหวัดพังงา
เรือสปี๊ดโบ๊ทห้อตะบึงไปบนผิวน้ำทะเลอย่างกับม้าพยศ มุ่งหน้าสู่ เขาตะปูและเขาพิงกัน อันเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาพิงกัน อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เมื่อเรือเทียบให้ขึ้นเกาะได้ ผมรีบเดินอ้อมร้านขายของที่ระลึกไปยัง “เขาตะปู” ซึ่งครั้งหนึ่ง เจมส์บอนด์ 007 ที่นำแสดงโดย ฌอน คอนเนอรี่ ขวัญใจหนังบู๊ของผมเดินขึ้นฝั่งอย่างทระนง จนทำให้เขาตะปูและเขาพิงกันโด่งดังไปทั่วโลก
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเพิ่งเคยได้มาเหยียบย่ำด้วยเท้าตนเอง ตื่นเต้นจนแทบจะไม่มองหาสินค้าของฝากจากร้านรวงมากมายเอาซะเลย นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าไม่มีร้านขายของฝากขวางกลางหาดระหว่างฝั่งตะวันตกกับฝั่งตะวันออก เจมส์บอนด์คงเดินลัดข้ามหาดไปหลบผู้ล่าอีกฝั่ง มันจะเป็นหาดทรายที่สวยแค่ไหนหนอ ผมชอบที่เจ้าหน้าที่สร้างสุขาและที่ทำการเล็กๆหลบในซอกหินคล้ายโพรงถ้ำ แต่ไม่ชอบร้านขายของที่ระลึกซึ่งมากมายเกินพอดีไป
นักท่องเที่ยวที่เห็นมีทั้งเด็ก คนชรา เชื้อชาติฝรั่งอั้งม้อและจีนเสียส่วนใหญ่ คนไทยมีเพียงกลุ่มสื่อมวลชน
เรือสปี๊ดโบ๊ทพาเราวนไปรอบเกาะเพื่อให้ถ่ายรูปเขาตะปูได้อย่างสมใจ ภาพที่ได้แม้ไม่ตรงกับช่วงแสงมากนักแต่ก็งามตามสภาพที่พอจะถ่ายได้ นักท่องเที่ยวกลายเป็นองค์ประกอบภาพที่ทำให้ดูมีชีวิตชีวา แต่ตอนนั้น ผมจำได้ว่าไม่มีร้านค้าของที่ระลึก มีแต่ชายหาดระหว่างขุนเขาหินปูน จึงได้เห็นทะเลทั้งสองฟากฝั่ง การพัฒนาเป็นเรื่องดี แต่การพัฒนาแล้วทำลายภาพสวยงามก็เอวัง
เรือแล่นผ่านเทือกเขาหินปูนกลางทะเล มีป่าชายเลนขึ้นหนาแน่นเป็นผืนใหญ่ ระหว่างเขาหินปูนที่รายล้อมจนแทบจะดูเหมือนตกอยู่ในวงล้อม ช่างตระการตา ภาพที่เห็นเป็นเรือทัวร์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กจอดรอนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ลงเรือแคนู กลางเวิ้งขุนเขาแห่งนี้มีเรือขายอาหารและเรือขายเครื่องดื่มเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตกลางทะเล
นักท่องเที่ยวพายเรือแคนูขวักไขว่ บ้างก็พายลอดถ้ำไปทะลุอีกฟากเขาหนึ่ง การพายเรือแคนูเล่นในทะเลหลงที่ปลอดภัย ไร้คลื่นลม เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาก
“เรือแคนู 1 ลำ นั่งได้ 2 คน มีนายท้ายพายเรือให้ด้วย ค่าบริการราคาลำละ 400-800 บาท ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ท้องทะเลในห้องเขาหินปูนจุดนี้สงบ ไม่มีความเสี่ยง ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ และทำเงินให้ชาวบ้านมากโข” ผอ.ททท.สำนักงานภูมิภาค ภาคใต้ กล่าว
“มองไปรอบๆห้องแห่งท้องทะเลในโอบของเขาหินปูซิครับ จะเห็นว่า ใบหน้านักท่องเที่ยวยิ้มแย้มแจ่มใส ดูมั่นใจในความปลอดภัย และพอใจที่ได้ลงเรือแคนู “
เรืออาหารนะจ๊ะ
เป้าหมายก่อนเที่ยง เป็นเกาะปันหยี หมู่บ้านชาวประมงที่อยู่อิงเขากลางทะเลแสนกว้างใหญ่ ทั้งชุมชนเป็นชาวอิสลาม มีหมู่บ้าน กระชังปลาและกุ้ง โรงเรียน มัสยิด สนามฟุตบอลลอยน้ำ ร้านขายของฝาก และที่ตะลึงมากคือแพร้านอาหารมากมาย และขนาดใหญ่ๆทั้งนั้น
ผอ.ททท.ชาญชัยเล่าว่า "ดั้งเดิมเป็นชุมชนชาวประมงเล็กๆ แต่เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น หมู่บ้านปันหยีเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ จึงเกิดการวิวัฒนาการ พัฒนาทั้งรูปแบบและสิ่งก่อสร้างตามการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลดีต่อชุมชน"
"เมื่อเดินผ่านแพอาหาร ก็ถึงร้านขายของที่ระลึกซึ่งมีทั้งของฝากของที่ระลึกประเภทแก้วเป่า เสื้อสัญลักษณ์ อาหารพื้นถิ่น ทำให้ชุมชนมีช่องทางหารายได้อย่างมั่นคง นักท่องเที่ยวมีทั้งฝรั่ง จีนและคนไทย แพอาหารนั้นส่วนใหญ่เป็นคณะทัวร์มาลงตามกำหนดการ ซึ่งค่อนข้างจะแน่นอน เพราะต้องมีการจองและการจัดการที่เหมาะสม มิเช่นนั้นคงพาทัวร์ลงไม่ได้"
ใกล้เที่ยง เรือแล่นไปยังร้านอาหารของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ที่นั่น หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดพังงา คุณรวีวรรณ แสงจันทร์ และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา รอต้อนรับและจัดการเรื่องอาหารกลางวันให้กับสื่อมวลชน ท่ามกลางป่าชายเลนเขียวขจี ริมฝั่งแม่น้ำ..........ค้นหาไม่เจอว่าเป็นคลองอะไรที่ไหลลงอ่าวพังงา นี่คือฐานข้อมูลที่บอดสนิท(ตำหนิอุทยานฯ)
หลังอาหารกลางวัน ท่านผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ได้กรุณาพาไปหาประสบการณ์ใหม่ ด้วยการไปล่องแพไม้ไผ่ที่คลองลำรู ซึ่งคุณเกศกานดา พรามแก้ว ผู้เป็นเจ้าของกิจการ โกมลคอนเนอร์ นำเที่ยวด้วยการล่องแพ หนึ่งในเจ็ดเจ้า คุณกานดาเล่าว่า มีลูกจ้างชาวเมียนมาร์ 23 ชีวิต เป็นคนทำแพไม้ไผ่และซ่อมบำรุง เป็นคนถ่อแพพานักท่องเที่ยวล่องคลอง และพนักงานขับรถลากจูงและรับส่งนักท่องเที่ยว
“คลองลำรูมีน้ำไสไหลเย็น ตื้น แต่ก็ลึกพอที่จะล่องแพได้อย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวชอบโดดลงน้ำเพื่ออาบและเล่น เพราะน้ำใสสะอาดและเย็นเฉียบ เป็นที่ถูกอกถูกใจ อัตราค่าล่องแพลำละ 800 บาท นั่งได้ 2 คนพ่วงเด็กๆได้ด้วย มีคนถ่อแพชาวเมียนมาร์ 1 คน ปีหนึ่งล่องได้ 5-6 เดือน นักท่องเที่ยวมีทั้งฝรั่งและจีน คนไทยก็มีเหมือนกันนะ อ๋อ ไม่ได้ทำห้องพัก แต่ขายอาหารและเครื่องดื่ม”
สนใจจะเพิ่มประสบการณ์ ติดต่อได้ที่โทร.081-0852389 หรือ089-7273021 แหม เมียผู้ใหญ่บ้านโกมลคนนี้ ไม่เหมือนในเพลง ผู้ใหญ่หนุ่ม เลยนะ ทั้งๆที่ผู้ใหญ่โกมลแกก็ไม่ค่อยอยู่ทำงานธุรกิจ มีแต่ไปประชุมๆๆๆๆ
ค่ำลง เข้าพักแรมที่ เขาหลัก เบย์ฟร้อนท์ รีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเขาหลักลำรู่ ด้านหนาติดชายหาดทรายทอดยาวเหยียด ฝั่งทะเลอันดามันนั่นเลย ภายในรีสอร์ทมีสระว่ายน้ำ 2 สระ บาร์เครื่องดื่มพร้อมบริการ นักท่องเที่ยวมีทั้งคนไทย จีนและฝรั่งต่างชาติ ห้องพักมีทั้งอาคาร 2 ชั้น และวิลลา เดี่ยวๆ สนใจติดต่อ ค้นหาจากอินเตอร์เน็ตไม่ได้จ้า
ร้านอาหารบ้านปลาแนม โทร.076-421339 อร่อย ถูกใจ แต่โชคร้ายที่ไม่ได้พกกล้องไปด้วย