พระจันทร์วันเพ็ญ ปี Super Moon
#ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและความเชื่อ
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
Supermoon
วันที่ 13 ตุลาคม 2559 วันแห่งความโศกเศร้าของปวงชนชาวไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย รัฐบาลนายประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้งดงานรื่นเริงบันเทิงใจทั้งสิ้น และให้ไว้ทุกข์ 30 วัน การจัดงานสืบสานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ตามแนวทางของวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวไทยหลากหลายเชื้อชาติ ยุติสิ้น
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 อันเป็นวันที่ชาวไทยและชาวเอเซียภาคพื้นเดียวกัน เช่น เมียนมาร์ ลาว เขมร จีนตอนใต้ เป็นต้น สืบสานทั้งศิลปะการประดิษฐ์กระทง วัฒนธรรมการแต่งกายในคืนเดือนหงาย ประเพณีดีงามตามแนวทางของชาวพุทธ อันเป็นวิถีชีวิตและความเชื่อของแต่ละชุมชน เคยจัดงานกันแบบรื่นเริงบันเทิงใจ สวยสดงดงาม และยิ่งใหญ่อลังการ ต้องงดไปจนสิ้น แต่ไปลอยกระทงได้เหมือนโบราณกาล
นักดาราศาสตร์กล่าวว่าเมื่อ ปีพ.ศ.2491 พระจันทร์เคยเข้ามาใกล้โลกมากเช่นกัน แต่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 นี้เข้ามาใกล้โลกด้วยระยะทาง 356,500 กม. เราจะเห็นพระจันทร์โตขึ้น 14% แสงสว่างกระจ่างขึ้นถึง 30% และจะโคจรเข้ามาใกล้โลกอีกใน 18 ปีข้างหน้าคือปีพ.ศ.2577 อ้อ อากู๋บอกว่าพระจันทร์มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3,476 กม.
ผมอ่านแชร์เรื่องดวงจันทร์โตบะเห่งจนอดรนทนไม่ไหว ต้องคว้ากระเป๋าสะพายหลัง กล้องถ่ายรูปพร้อมขาตั้งกล้อง ย่องออกจากเคหา เดินขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงมุ่งหน้าไปสถานีพระนั่งเกล้า เพื่อลงไปชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงที่ปลอดผู้คนหนาแน่นแบบท่าน้ำนนทบุรี แล้วก็เก็บภาพที่มองเห็น เพื่อใช้ประกอบเรื่องเล่าคืนนี้
ท้องน้ำเจ้าพระยาราตรี
ไอ้เสริมในความทรงจำ
มณีดินเคยเขียนเรื่องบ้านทุ่งแสนสุขตอน 13. วันเพ็ญเดือนสิบสอง โพสท์ในเว็บไซต์ทองไทยแลนด์ดอทคอม มาแล้ว คืนนี้จึงเพิ่งจะได้ภาพไอ้เสริม ว่ายน้ำไปเก็บสตางค์ในกระทงมาประกอบเรื่อง ชีวิตจริงของคนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็ใช่จะไร้ค่า เพราะเขาช่วยว่ายน้ำพากระทงไปสู่กลางสายน้ำไหล ไม่ต้องมาติดแปะแถวชายฝั่ง
ใต้ถนนรถไฟฟ้าข้ามเจ้าพระยา
ลงจากรถไฟฟ้าก้าวขาออกจากสถานีก็พบกับครอบครัวคนสู้ชีวิต ประดิษฐ์กระทงขายริมทาง บ้างก็ทำมาแต่บ้านเปิดท้ายขายกระทงจากรถเก๋ง บ้างก็เปิดท้ายกระบะขาย บ้างก็นั่งล้อมวงทำกับพื้นชายถนน และมีกระทั่งตั้งโต๊ะขายกระทงขนมปังรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นอาหารให้กับปลาอีกด้วย น่ารักจริงๆ และส่วนใหญ่ใส่เสื้อไว้ทุกข์ให้ในหลวงด้วย
สภาพของท่าน้ำใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดแคนอกแห่งนี้ เทศบาลละเลยโดยสิ้นเชิง ไม่ได้ทำแพให้ประชาชนคนจะมาลอยกระทงเลย ต้องอาศัยเรือพายรับกระทงที่จรดหน้าผากสาธุการแล้วใส่เรือ เขาพายไปลอยให้กลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีค่าบริการตามน้ำใจของแต่ละคน ถ้าเทศบาลทำแพพิเศษให้ ประชาชนก็มีทางเลือกที่ดีขึ้น
บันทึกภาพจนพอใจก็เก็บขาตั้งกล้องแล้วเดินออกมาเรียกแท็กซี่เพื่อจะไปท่าน้ำนนทบุรีหน้าศาลากลางหลังเก่า แท็กซี่ตอบกลับว่า
“โอย ลุง นั่งเมล์เครื่องไปเถอะครับ รถต้องจอดไกลแล้วก็ต้องเดินไปอีกเป็นกิโล ลุงไหวหรือเปล่า”
แล้วแท็กซี่ก็หัวเราะพร้อมกับมองสีผมบนหัวผม เขาออกรถไปอย่างไม่แคร์ลูกค้าเล้ย ไม่แก่มั้งก็แล้วไปวะ
ไลน์หา สาวยังไม่มาเลย
หมดหวัง ตัดใจหิ้วขาตั้งกล้องแล้วเดินขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง กลับไปสถานีศาลากลาง ลงที่สถานีย่อยปากซอยรัตนาธิเบศก์ 10 ผมเดินลงไปเจอผู้คนเดินไปทางศาลากลาง จึงถามว่าไปไหนกันหรือหนู เธอตอบว่าไปลอยกระทงในสระน้ำหน้าศาลากลาง ผมฟังแล้วก็รู้สึกอัดอั้นตันใจในวิถีชีวิตของคนเมือง และไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า
ถ้าจะไปลอยกระทงหน้าศาลากลางเก่าอันเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดนนทบุรี รถแท็กซี่ยังไม่ยอมไป ใครจะเป็นคนรับรู้ความรู้สึกของชาวนนทบุรีบ้างไหม
ผมเดินเข้าไปที่ศาลหลักเมืองนนทบุรี ผู้คนมากราบไหว้กันมากมาย ผมเลี่ยงไปด้านข้างรั้วแล้วตั้งขากล้องถ่ายรูปพระจันทร์วันเพ็ญ ได้ภาพมาอวดด้วย เป็นพระจันทร์วันเพ็ญในปีที่ดวงโตที่สุดเพราะโคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ได้ภาพแล้วก็ได้เดินชมของว่างมากมายบนถนนทางเข้าออกศาลากลาง ในบริเวณสนามหน้าศาลากลางนี้มีสระน้ำขนาดใหญ่
ได้เห็นคนบรรจงจุดธูปเทียนปักกระทง ได้เห็นแม่ลูกกำลังเซลฟี่มีความสุข ได้เห็นคู่รักเซลปี่นัยน์ตาหวานฉ่ำ ได้เห็นกระทงลอยเป็นแพอยู่ในสระ ไม่ยอมลอยไปไหนเพราะว่าเป็นสระน้ำ นี่เลยมิติของคำว่า ยามไร้ เด็ดดอกหญ้าแซมผม ไม่มีแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังใสไหลเอื่อยๆ ก็ลอยมันในสระหน้าศาลากลาง เอาก็เอา
ผมเดินทางกลับบ้าน แล้วไปจุดเทียนบูชาพระจันทร์วันเพ็ญอย่างที่ครอบครัวเคยทำกันมาทุกปี แล้วก็นั่งตากยุง รอถ่ายรูปพระจันทร์คืนเพ็ญดวงโตและสุกสว่างพร่างนภากว่าเดิม