ชมรมบานไม่รู้โรย ที่ครัวอภิรัตน์ นครปฐม
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
วัฒนธรรมใหม่ช่วงปลายของชีวิต ยุคดิจิตอล แปลกแตกตต่างไปจากอดีต เพราะในอดีตวัฒนธรรมการขับร้องเพลงนั้นมีแบบบทที่ลงตัวและเป็นทั้งวัฒนธรรมและภูมิปัญญา มักสืบทอดด้วยการฝึกฝนและพรสวรรค์ เช่นแม่ขวัญจิตต์ ศรีประจัน แม่เพลงอีแซวผู้ซึ่งยอมรับกันว่า เกิดแต่พรสวรรค์โดยแท้ หลายคนแม้เรียนรู้ได้แต่เก่งกาจยาก เพราะขาดพรสวรรค์
แต่วัฒนธรรมใหม่ในยุคดิจิตอลนั้นทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเสริมให้เกิดกลุ่มก้อนได้ นั่นคือเครื่องคาราโอเกะ เพราะวัฒนธรรมการร้องเพลงไม่ใช่จำกัดอยู่แต่ในแวดวงคนมีพรสวรรค์ หากแต่เกิดได้ด้วยเครื่องช่วยอิเล็คทรอนิกเครื่องนี้ แน่นอนว่าทุกคนชอบร้องเพลง แต่เพราะไม่มีพรสวรรค์จึงมักตกม้าตายที่การนั่งนิ่ง ฟัง แต่ไม่กล้าขึ้นไปร้อง
คาราโอเกะช่วยให้คนร้องเพลงไม่เป็นจำเนื้อเพลงไม่ค่อยแม่น สามารถร้องตามตัวหนังสือและเสียงดนตรีประกอบได้ ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีโอกาสเข้าร่วมในกลุ่มสว.คาราโอเกะ และด้วยว่ากลุ่มหรือชมรมคนรักเพลงนั้นมีอยู่ทั่วไป ปริมาณคนร้องเพลงไม่เก่งมีเยอะกว่าคนมีพรสวรรค์ จึงได้เกิดกลุ่มหรือชมรมขึ้นมากมาย
อาทิเช่น ชมรม มก.อาวุโส เป็นชมรมของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นครปฐม เปิดห้องพร้อมเครื่องดนตรีคาราโอเกะให้กับสมาชิกได้ใช้เวลาว่างมาผ่อนคลาย ได้ความอภิรมย์ ร่าเริงและสนุกสนานจากการได้ร้องเพลงด้วยเครื่องคาราโอเกะช่วย หรืออย่างชมรมคนรักเพลงของสมาคมชาวสุพรรณบุรี ก็เปิดให้ผู้สูงวัย(สว.)ได้ไปร่วมร้องเพลง
แต่ทั้งสองแหล่งนี้ อิงหน่วยราชการและองค์กรอิสระไม่หวังผลกำไร ด้วยว่าผู้บริหารขององค์กรนั้นๆมีวิสัยทัศน์กว้างไกล นับว่าเป็นความโชคดีของเหล่า สว.ชายหญิงที่ไม่นิยมกีฬาบัตรหรือเข้าสนามม้าแข่งหรือบ่อนชนไก่กัดปลา หรือสนามมวย หรือโต๊ะสนุ๊กเกอร์ แต่ทั้งสองลักษณะเช่นนี้ก็มักจะเปิดวันเว้นวันหรือ เปิดเป็นบางวัน
ในภาคเอกชนคนทำธุรกิจขนาดเล็กจิ๋ว เช่นเปิดห้องคาราโอเกะในห้างสรรพสินค้าให้ลูกค้าบรรดาเหล่าสว.ได้ขึ้นไปร้องด้วยอัตราค่าบริการ 12 เพลง 100 บาท กติกาง่ายแสนง่าย คนละ 2 เพลงหมุนเวียนกันไปตามที่ดีเจจะประกาศเชิญชวน ไม่แย่งกันร้องแล้วก็ไม่แย่งกันซ่าเพราะต่างก็แก่ๆด้วยกันทั้งนั้น
วันหนึ่ง ว่างเว้นจากการร้องคาราโอเกะประจำ เพื่อนในกลุ่มโทรมาชวนให้ไปด้วยที่ครัวอภิรัตน์ นครปฐม 12 เพลง 100 บาท อาหารมื้อกลางวันเป็นอาหารตามสั่ง ผมตามไปด้วยว่าอยากรู้อยากเห็น เมื่อไปถึงจึงได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเข้าไปกิน แล้วนั่งพักท้องและฟังเพลงจากเพื่อนสว.ที่มากันก่อนหน้าแล้ว ซึ่งมีทั้งชายสูงวัยและสุภาพสตรีสูงวัยเทียมกัน
คุณป้า อิ่มพร(เล็ก) ทัตตานนท์ อายุ 80 ปี เล่าว่า ป้าเป็นประธานชมรมบานไม่รู้โรย คือกลุ่มที่ร้องคาราโอเกะด้วยกันที่ครัวอภิรัตน์ ป้าร้องอยู่ที่นี่มานานกว่า 7 ปีแล้ว มีสมาชิกที่ไปๆมาๆ ราวๆ 50 คน ที่เห็นๆหน้าอยู่นี้เป็นเพียงบางส่วน แล้วแต่ใครจะว่างมา อ๋อ สาวคนนั้นเป็นลูกสาวคนสุดท้องของป้าเอง เขาขับรถมาส่งให้ ถ้าลุกสาวไปทำงานก็จะนั่งเมล์เครื่องมาเอง
ทํศนาพร ทัตตานนท์ สาวกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ป้าหมดห่วงแล้ว ลูก 3 คนมีครอบครัวและมีหลานให้หลายคน แต่การเป็นคนแก่อยู่บ้านนั้นมันเหงา ประกอบกับป้าชอบร้องเพลง ก็เลยได้ช่อง วันนี้ เป็นวันสงกรานต์พอดี ทางร้านเปิดให้ร้องฟรี และพวกเราก็จัดเตรียมให้สมาชิกได้สรงน้ำพระ และดำหัวผู้อาวุโสด้วย ซึ่งก็มีป้า อาจารย์โกมล เป็นหลัก
อาจารย์โกมล ทับทอง อายุ 76 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม เล่าว่า ผมชอบร้องเพลงมาแต่หนุ่ม หลังเรียนจบมาเป็นอาจารย์ที่ศิลปากรจนเกษียณราชการ ระหว่างนั้นความที่ชอบร้องเพลง จึงได้รับเชิญให้ขึ้นไปร้องเสมอมา จนเมื่ออายุ 61 ปีนี่มาเริ่มใหม่เลย เพิ่มกิจกรรมการร้องเพลงจากตามงานมาเป็นเข้าร้านอาหารอย่างครัวอภิรัตน์นี่แหละ ก็สนุกดี
ผมมีลูก 3 คน ทำธุรกิจร้านกาแฟอยู่ใกล้ๆวัดไผ่ล้อม พอให้มีกิจกรรม คนเราเมื่อแก่ตัวหากไม่มีงานใดเลยจะเหงา ผมเข้ามาร้องประจำที่นี่ ร่วมในกลุ่มบานไม่รู้โรยของพี่เล็กนี่แหละ พวกเรามากันประจำจนสนิทสนมกลมเกลียว เป็นเพื่อนยามสูงวัยที่มีแต่ให้คุณซึ่งกันและกัน ผมร้องได้ทุกแนวทั้งลูกกรุงและลูกทุ่ง อ๋อ ผมเป็นชาวสุราษฎร์ธานีครับ
ผอ.สมศรี จำนงค์ทอง อายุเป็นเพียงตัวเลข เกษียณแล้วก็เข้าชมรมสว.หลายแห่งทั้งนครปฐมและกำแพงแสน ลูก 3 คนหมดห่วงแล้ว อยู่ตัวคนเดียวมันเหงานิ ขับรถไปร่วมร้องเพลงกับเพื่อนๆ เพลิดเพลินดี แถมได้ถ่ายภาพลงคลิปในไลน์ด้วย ถ้าว่างจากชมรมก็จะไปเรียนแพทย์ทางเลือกเสริมภูมิปัญญาไปเรื่อยๆ ชอบค่ะ
วันนั้น หลังเที่ยง ป้าเล็กจัดเตรียมให้สรงน้ำพระพุทธรูปและดำหัว สว. ได้พรอันเป็นมงคลไปแล้วก็แยกย้ายกันกลับ แต่เนื่องจากทางร้านเปิดให้ร้องเพลงฟรี 1 วัน จึงทิปให้กับดีเจที่จัดเพลงให้เป็นสินน้ำใจที่อุตสาหะนั่งคีย์เพลงให้เหล่าสว.มาครึ่งวัน
วัฒนธรรมใหม่เกิดขึ้นแล้ว คนแก่ต้องไปเข้าชมรมผู้สูงวัยแล้วร้องคาราโอเกะด้วยกัน ดีกว่าไปเข้าชมรมกีฬาบัตรอย่างแน่นอน ประหยัด อารมณ์ดี มีสตางค์เหลืออยู่