http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,331,553
Page Views16,661,025
« October 2024»
SMTWTFS
  12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วัฒนธรรมการลงแขกทำขนมจีนเส้นสดบ้านเกาะมอญ กำแพงแสน นครปฐม

วัฒนธรรมการลงแขกทำขนมจีนเส้นสดบ้านเกาะมอญ  กำแพงแสน นครปฐม

วัฒนธรรมการลงแขกทำขนมจีนเส้นสดบ้านเกาะมอญ

กำแพงแสน นครปฐม

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

บ้านมอญ บ้านกลาง พี่น้องมอญ

             เพื่อนเฟสบุ๊ก คุณอนุชิต แก้วมา ช่างมือดีดูแลระบบคอมพิวเตอร์ บ้านเกาะมอญ กำแพงแสน นครปฐม เคยโพสท์รูปการณ์ทำขนมจีนบ้านเกิดให้เห็น ผมเฝ้ารอข้ามปี จึงได้มีโอกาสได้ไปชมและได้เรื่องราวดี ๆมาเล่าสู่กันอ่าน แน่นอนว่าต้องเล่าย้อนกันนิดว่า บ้านเกาะมอญ อยู่ที่ไหน เป็นใครกันหรือ จึงมีการสืบสานวัฒนธรรมเรื่องอาหารคาวเอาไว้ยาวนาน


แป้งจี่หอมกลิ่นข้าวหมัก

             บ้านเกาะมอญ กำแพงแสน นครปฐม เป็นหมู่บ้านของพี่น้องเชื้อสายมอญ อพยพย้ายถิ่นหากินมาแต่รุ่นทวดปู่ทวดยาย ไม่ได้ถูกกวาดต้อนมาแต่อย่างใด จับจองที่ดินทำกินเป็นหลักใหญ่  บ้านเกาะมอญเป็นบ้านที่เรียกขานกันทั่วไปในท้องถิ่น แต่ในทางการแล้วเป็นหมู่บ้านหนึ่งในบ้านหมู่เดียวกับบ้านกำแพงแสน ตั้งอยู่ริมฝั่งทางด้านซ้าย(ยืนหันหน้าล่องไปตามน้ำไหล)คลองท่าสาร


ห้อยแป้งกรองน้ำทิ้งแล้วเอามาปั้นแป้ง

             แต่บ้านกำแพงแสนนี่แปลก ฝั่งซ้ายคลองท่าสารเป็นบ้านเกาะมอญ แต่ฝั่งขวาคลองท่าสารเป็นบ้านเกาะกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นชุมชนคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่อพยพมาด้วยเหตุผลเดียวกัน จับที่ทำกิน คนกำแพงแสนและใกล้เคียงจึงเรียกว่า บ้านเกาะมอญและบ้านเกาะกะเหรี่ยง ต่างวัฒนธรรม ต่างประเพณี วิถีชีวิตและความเชื่อ 


             เช่น การถือผี บ้านใด ๆของพี่น้องมอญจะปลูกเรือนใหญ่ยกพื้นสูงกว่าพื้นชานและครัว มีแท่นบูชาตามความเชื่อและความเคารพ หากลูกสาวออกเรือนไปแล้ว เมื่อกลับมาเยี่ยมบ้าน จะห้ามมิให้ขึ้นไป “บ้านใหญ่” เดินเหินและใช้นั่งได้แค่ชานและครัว ถ้าเกิดลืมหรือเผลอก้าวเข้าไปในเขตบ้านใหญ่ ก็จะผิดผี ต้องมีการขอขมาลาโทษ มิเช่นนั้น ผลไม่ดีทั้งปวงจะไปตกอยู่กับบุตรหลานของผู้ผิดผี ซึ่งก็เป็นอีกกรรมวิธีหนึ่งในวิถีชีวิตที่ถือเคร่ง


             ส่วนใหญ่ในอดีต นิยมสร้างบ้านเรือนยกพื้นสูง ใต้ถุนโล่งๆใช้วางแคร่นอนเล่นยามพักผ่อน หรือทำกิจธุระครอบครัวหรือเพื่อนบ้านมาเยี่ยมยาม  รวมทั้งตากผ้าตากเสื้อ เก็บหาเครื่องทำมาหากินสารพัดชนิด กระทั่ง ครก ไม้ท่อนที่ขุดเอาเนื้อออกเพื่อใช้ตำข้าว แป้งทำขนมจีน แต่ถ้าคว่ำไว้ก็ใช้นั่งได้ 


             ผมเดินตามคุณอนุชิตเข้าไปทักทายพี่น้องมอญ หลายรุ่น หลายอายุ พี่สาวอายุสูงสุด 78 ปี หญิงร่างเล็ก สวมเสื้อผ้าสวยงามตามวัย ผู้ชายหน้าตาไทยๆ ว่ากันตามจริง ไทยและมอญแยกแยะแทบไม่ออก จนลงไปถึงเด็ก ๆทั้งหญิงและชาย วิ่งเล่นกันอยู่รอบ ๆ แคร่ที่ตั้งนั่งเตรียมทำกิจกรรมกันอยู่ใต้ร่มเงาต้นแจง

             บางคนกำลังล้างครกไม้อยู่ บางคนเดินแบกไม้ไผ่ด้ามปลายทาสีแดง สากไม้ไผ่ครับ เตรียมตำแหลกแป้งขนมจีน  บางคนตั้งหน้าคั้นมะพร้ามเอากะทิหม้อใหญ่ บ้างก็ตำเครื่องแกงขนมจีน  ตำกระชายจนแหลกละเอียด บ้างก็แกะเนื้อปลาต้มสุกเก็บเอาก้างออกทิ้ง


            “ก่อนนี้ทำน้ำยากะทิจะใส่เนื้อปลาช่อน แต่เดี๋ยวนี้ แพงมาก เลยทำน้ำยาเนื้อปลานิลแทนครับ”

            ผู้ชายหลายคนเดินไปเดินมา หาที่นั่งพัก รอจังหวะเมื่อถึงหน้าที่ต้องทำ  จึงจะทำ


            “สมัยก่อน ผู้ชายจะขุดเตาดิน  ตั้งกระทะใบบัวที่จะโรยขนมจีน แต่สมัยนี้ใช้ถังน้ำมันตัดครึ่งทำเตา สะดวกไปอีกแบบหนึ่ง”


มือปรุงน้ำยาและน้ำพริก

            ผู้หญิงคนหนึ่งปีนหักกิ่งมะยมเอามาปูในกระด้งตามห่าง เพื่อเตรียมรองขนมจีนที่จับแล้ว  เด็ก ๆ วิ่งเล่นกันตามมุมต่าง ๆ ตามประสาเด็ก  พี่น้องมอญทยอยกันแวะเข้ามารวมตัวกัน ยังไม่ถึงนาทีทำงานก็ทักทายให้เฮฮาประสานานทีปีหนได้พบญาติพี่น้อง การแต่งกายก็สบาย ๆไม่ได้แต่สวยงามอย่างภาพในทีวี


             “งานลงแขกเริ่มตั้งแต่ ตัดไม้ไผ่มาทำสาก ฟืนไม้ไผ่ก็หาจากไม้ไผ่ข้างบ้าน เอามาโยนรวมกองกันไว้ ข้าวสารที่จะหมักทำขนมจีนก็แบกใส่ถุงมารวมกันไว้ที่บ้านกลางหลังใหญ่ กระบุง กระจาด ต้องเตรียมล้างแล้วผึ่งแดดให้สะอาดไร้กลิ่นสีที่แปดเปื้อน แต่บางคนก็จะเอาเงินมารวมกองกลางเพื่อซื้อปลานิลและเครื่องแกงบางชนิด”


น้ำพริก

น้ำยา

             “แต่ละเตาใช้ไม้ฟืนที่ลงแขกแบกมาให้ไว้  จริงๆแล้ว การลงแขกทำขนมจีนทำบุญสงกรานต์นี้เริ่มขึ้นเมื่อได้ข้าวสาร(ข้าวจ้าว)และเกลือ ใส่กระบุงหมัก 3 วัน แต่ละวันต้องเปลี่ยนน้ำล้างหมักใหม่ แล้วนำข้าวสารหมักมาตีเป็นแป้ง  ใส่ถุงผ้าดิบหมักไว้ด้วยการแขวนไว้ใต้ถุนบ้านใหญ่ ตอนนี้ พี่น้องจะเริ่มต้นลงแขกออกแรงกันละครับ”

นั่งรอจังหวะทำงานแต่เด็กๆรอกิน

             “ขั้นตอนนี้เรียกว่าการปั้นแป้ง  เทแป้งในถุงหมักและกรองเอาแต่แป้งออกใส่ในกระถางดินเผา ยีแป้งให้ละเอียด ครึ่งจนแป้งจับตัวเป็นก้อนกลมๆ แล้วตั้งไว้ จะมีอีกคนหนึ่งทำหน้าที่มัดลูกแป้งกลมๆขนาดลูกฟุตบอล โดยการใช้ใบตองรองก้นลูกแป้งแล้วมัดด้วยก้านตองแห้งที่เตรียมไว้ เป็นเชือก เพื่อให้แผนมต้มยกไปทีละลูกๆ ใส่ลงในกระทะใบบัวที่ต้มเดือด”


กระบุงหมักข้าวสารและเตาปิ้งแป้งจี่แจกที่วัด

             “หนุ่มที่ทำหน้าที่ต้มลูกแป้งจะเฝ้าดูว่า ลูกแป้งยักษ์จะสุกได้ที่หรือยัง แล้วก็จะยกหูใบตองแห้งไปใส่ลงในน้ำเย็นที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นก็จะเอาไปใส่ครกที่ตั้งรอตำ  นี่ก็ได้เวลาดังที่เห็น แต่ละคนลุกกันมาหยิบสากไม้ไผ่ปลายแดง เริ่มการตำ สากแรกแซะจนลูกแป้งแตก สาต่อมาก็จะรุมกันสกรัมจนลูกแป้งแหลกละเอียด แป้งที่ต้มและตำเริ่มเหนียว จะมีคนหนึ่งทำหน้าที่งัดพลิกแป้งที่เริ่มเกาะเหนียว”


ผลัดเปลี่ยนกันตำเมื่อทีมเก่าเมื่อยล้า

            "ได้ลูกแป้งก้อนใหม่เหนียวหนึบ อีหคนหนึ่งก็ยกจะทำหน้าที่มายกไปให้ “มือนวดหักหัว” คนหนึ่งทำหน้าที่ขยำลูกแป้งเหนียว อีกคนหนึ่งยกหม้อน้ำร้อนมาคอนหยอด  นวดไปหยอดน้ำร้อนผสมไป จนกว่าแป้งเหนียวจะละลายจนเหลวเละ ซึ่งหญิงที่ทำหน้าที่นวดหักคอนี่ต้องใช้แรงมากแถมยังร้อนมือ  ได้แป้งเหลวข้น พร้อมใส่  “ฝาจีบถุงผ้าดิบ” เพื่อโรยเส้นขนมจีน”


นวดหักหัว ให้แป้งเหลว


แป้งเหลวจนพร้อมโรยเส้น

จีบผ้าโรยเส้นภูมิปัญญาดั้งเดิมพี่น้องมอญ

             “อุปกรณ์ที่ใช้ทำฝาจีบนี่ก็คือ ขันสังกะสีเจาะก้นให้เป็นรูพร้อมโรยเส้น เย็บติดกับผ้าดิบหนา หญิงคนหนึ่งทำหน้าที่กวนแป้งเหลวในหม้อ ชายอีกคนทำหน้าที่ตัดแต่งกาบกล้วยให้เป็นพายกล้วย พร้อมตะหลิวตักแป้งเหลวใส่ถุงฝาจีบ แล้วก็ยกถุงฝาจีบไปโรยบนกระทะใบบัวที่ใส่น้ำต้มเดือด โรยไปแล้ว อีกคนก็จะรอขนมจีนเส้นสดลอยขึ้น ตักเพื่อส่งต่อให้ทีม “จับจีบ”    


กวนแป้งเหลวตลอดเวลาและโรยเส้นขนมจีน

             “กระด้งก้นห่างวางเรียงรอไว้ ปูด้วยใบมะยม คนจับจีบนี้ต้องเชี่ยวชาญเฉพาะ ไม่งั้นจะจับจีบไม่สวย และนี่คือขั้นตอนสุดท้ายของขบวนการทำขนมจีนเส้นสดตามวัฒนธรรมพี่น้องมอญครับ”


เปลี่ยนมือโรยและทิ้งขนมจีนบูชาไฟ ใช่แล้ว ไฟกินฟืน

             “ย้อนไปคนปรุง น้ำพริกและน้ำยา หลังทำเสร็จด้วยตนเองเพียงคนเดียวแล้วก็ยกไปตั้งรอกิน เอ้ย รอขนมจีนจะจับจีบเสร็จ  มีคนทำหน้าที่ทำเครื่องเคียงขนมจีนคือการซอยหัวปลี กล้วย เด็ดใบแมงลัก โหระพา  กระทั่งใบอ่อนต้นมะยม ฯลฯ เป็นอันว่า ลงมือกินกันได้”


เด็กๆได้เล่นร่วมกัน และรอกิน

              เรื่องไม่จบแค่นั้น หากแต่ทีมต้มลูกแป้งยักษ์และทีมตำแป้งยังคงส่งเสียงร้องเชียร์เอาแรงกันต่อไปจนกว่า แป้งที่หมักไว้จะหมด ใครเมื่อยล้าก็จะพักมากิน ใครมีแรงก็จะลุกไปตำแทน   เด็กๆมีความสุขมากกับการได้กินก่อน  เป็นการลงแขกหรือลงแรงหรือลงเงินเพื่อสืบสานวัฒนธรรมการทำขนมจีนเส้นสด หรือเป็นการรวมญาติพี่น้องลูกหลานเหลนกันแน่


              “ปีหนึ่ง เทศกาลใดทำกินกันแล้วมีแรงมีเวลาว่างพร้อม ๆกันก็จะรวมกันทำขนมจีนเส้นสด ปลอดสารฟอกขาว ปลอดสารกันบูด เพื่อนำไปถวายพระร่วมกัน เป็นอานิสงที่ร่วมใจกันทำ บางปีพร้อมกันดีก็จะทำตอนเข้าพรรษาหรือออกพรรษา แต่วันทำบุญวันสงน้ำพระวันที่ 18 เมษายน ทำทุกปีครับ” 


แป้งจี่หอมกลิ่นข้าวหมัก 

              ผมจบกระบวนการสืบสานวัฒนธรรมการลงแขกทำขนมจีนบ้านเกาะมอญ ด้วยการกินขนมจีนเส้นเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นข้าวหมัก กับน้ำยากะทิ และน้ำพริก  สองชาม อิ่มจนแทบจะล้มตัวนอนบนแคร่ใต้ต้นแจง  แถมขากลับยังได้ของฝากติดมือมาชุดใหญ่


เปลี่ยนมือโรย คงจะใช้แรงไม่น้อย

             “พรุ่งนี้เช้า ไปทำบุญที่วัดเพื่อถวายขนมจีน น้ำยาและน้ำพริก แด่พระสงฆ์แล้ว พี่น้องบ้านเกาะมอญยังเตรียมเตาไปปิ้งแป้งจี่แจกให้กับพี่น้องร่วมศรัทธาวัดกำแพงแสน เดียวกัน ด้วย ลุงอย่าลืมไปถ่ายรูปนะ สนุกมากเลย แจกญาติโยมที่มาทำบุญครับ”

ขนมจีนน้ำยากะทิ 

ขนมจีนน้ำพริก 

              “แล้วก็ตอนบ่าย ผมไปตั้งเครื่องเสียงให้กับวัดกำแพงแสนเพื่อสืบสานประเพณีสรงน้ำพระ มาให้ได้นะครับ”

              เฮ้อ นุเอ๊ย ลุงอิ่มขนมจีนน้ำยาและน้ำพริกจนหลับเป็นแมว เช้าตรู่ไม่ตื่น มาตื่นเอา 08.20 น. สายไปจนไปถ่ายรูปไม่ทัน ปีหน้า หรือพรรษาหน้า แก้ตัวเน้อ แต่บ่ายนี้ไปแน่ เผื่อได้ภาพสวยๆมาผสมผเส ในเรื่องเดียวกัน


              สนใจ การสืบสานวัฒนธรรมการลงแขกทำขนมจีนบ้านเกาะมอญ ติดต่อ คุณอนุชิต แก้วมา  โทร.099-908-8840  เฟสบุ๊ก Anuchit Kaewma

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view