http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,942,031
Page Views16,247,411
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดย ธงชัย เปาอินทร์

                พระราชกฤษฎีกาประกาศจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้( ออป.) เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2499 ให้เป็นองค์กรประเภท รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมป่าไม้ เช่น การทำไม้ การเก็บหาของป่า แปรรูปไม้ ทำไม้อัด และภายหลังทำหน้าที่ปลูกป่าไม้เศรษฐกิจเพื่อทดแทนไม้จากป่าธรรมชาติที่ปิดป่าสัมปทานไปแล้ว

                เจตนารมณ์ของการตั้ง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นการมองการณ์ไกล ต่อไปภายหน้าการทำไม้เพื่อให้ประชาชนใช้สอยและทำเงินเข้ารัฐบาลนั้นต้องปลูกขึ้นมาใหม่ เพราะต้นไม้จากป่าธรรมชาตินับวันจะลดน้อยถอยลงโดยเฉพาะ หลังการปิดป่าสัมปทานทำไม้   ทำให้ ออป.เหลือแหล่งวัตถุดิบป้อนโรงงานจากไม้ของกลาง แต่มีปริมาณไม่สม่ำเสมอ  ออป.จึงขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม จากกรมป่าไม้ เพื่อทำการปลูกสร้างสวนป่าไม้สักและไม้อื่นๆ  เช่น ออป.ปลูกป่าไม้สักในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ออป.เปลี่ยนเป็นการปลูกยางพารา และไม้ยูคาลิปตัส คามาลดูเลนซิส เพื่อหมุนเวียนรายได้จากน้ำยางและไม้ยูคาฯอายุสั้นๆ


                ปัญหาของ ออป.คือ การใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในความควบคุมของกรมป่าไม้ การจะปลูก จะตัดเพื่อการบำรุง และการตัดออกมาใช้ประโยชน์  ออป.ต้องทำเรื่องขออนุมัติจากกรมป่าไม้ หากยังไม่อนุมัติก็ทำการใดๆไม่ได้เลย เอกภาพการบริหารสวนป่าจึงสะดุด ไม่คล่องตัว และมีปัญหาแทรกซ้อนมาอย่างยาวนาน  ต่อมามีปัญหาอีกคือการตั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วให้ ออป.ไปสังกัดกระทรวงดังกล่าว  ทั้งๆที่ ออป.มีพันธกิจต้องปลูกใหม่แล้วตัดมาแปรรูปจำหน่าย ไม่ใช่ทำหน้าที่องค์กรอนุรักษ์แต่อย่างใดเลย

            องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จึงควรเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีต้นไม้สักและไม้อื่นๆที่เห็นควรจะปลูกมาใช้ เป็นพืชเกษตร  กรณีเช่นนี้ จึงต้องตราพระราชกฤษฎีกาให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไปสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   แล้วยังต้องยกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ ออป.ปลูกป่าไม้ทั้งหมดให้ ออป.สามารถบริหารจัดการได้ทั้งองค์กรและที่ดินที่ใช้ประโยชน์ ในรูปแบบเดียวกับ ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรมที่ตัดให้ให้ สำนักงานปฏิรูปที่ดิน(สปก.) นำไปดำเนินการด้วยอำนาจเต็ม

ออป.จึงจะมีเอกภาพการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกและไม้ที่ปลูกได้อย่างเต็มพิกัด  เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล คล่องตัวในการหมุนเวียนไม้และเงินตราหล่อเลี้ยงคลังและองค์กรได้สำเร็จ  รัฐบาลจำเป็นต้อง ปลดโซ่ตรวนที่ล่ามองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จากกรมป่าไม้เสียเถอะ  และประการสำคัญ ตราพระราชกฤษฎีกายุบ พรบ.สวนป่า พ.ศ.2535 พร้อมการแก้ไข พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ไปในคราวเดียวกัน


                สิ่งที่ผมยังอยากเห็นเพราะได้เห็นมาตลอดชีวิตการรับราชการกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชกว่า 35 ปี พบว่า ออป.ปลูกป่าได้เก่งกว่า กรมป่าไม้  ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอยากเสนอให้ ออป.ทำหน้าที่ส่งเสริมการปลูกป่าของประชาชนบนที่ดินกรรมสิทธิ์แทนกรมป่าไม้  

                ปฎิรูปวงการป่าไม้อย่างยั่งยืน ต้องกล้าปลดแอกต้นไม้จากโซ่ตรวนที่ล่ามเอาไว้กว่า 100 ปี อยู่กับกรมป่าไม้มาตลอดแต่ป่ากลับหมดลดลงไปทุกวัน  แล้วเปิดวิสัยทัศน์กว้างๆให้ ออป.และประชาชนคนอยากปลูกป่าเป็นอาชีพของตนเอง ดำเนินกิจกรรมไปด้วยความปลอดโปร่งปราศจากอุปสรรคขวากหนามใดๆ เสียที ผมมั่นใจว่า ประชาชนจะปลูกป่าเป็นอาชีพโดยไม่ต้องเปลืองงบประมาณส่งเสริมแต่อย่างใด

                หวังปวงประชา ร่วมปลูกป่าเป็นอาชีพ ได้อย่างอิสระเสรี มีป่าปกเต็มเมืองและมีทรัพย์สินบนที่ดินมากขึ้นๆ

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view