หนองน้ำครกม่วงตึ๊ด พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดเล็ก?
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
น้ำครกเป็นคำเรียกขานของชาวน่าน ที่เรียกพื้นที่หนองน้ำใดๆก็ตามซึ่งเคยเป็นโค้งแม่น้ำเก่าแก่ แต่เปลี่ยนแปลงไปด้วยแรงตวัดของกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทาง เพราะระดับของพื้นที่ที่ไหลลาดผ่านไปแต่ละแห่งแต่ละที่ พูดสั้นๆ เป็นโค้งแม่น้ำเดิมที่น้ำเปลี่ยนทิศทาง โค้งที่เหลืออยู่ยังมีน้ำขังอยู่แต่บางทีก็เหลือเพียงน้ำฉ่ำแฉะเป็นอ่างกระทะที่ลุ่มต่ำ คล้ายตูดครก
ผมนั่งเครื่องบินผ่านหนองน้ำครกเช่นที่ว่านี้มากมายหลายแห่ง ถ่ายรูปไว้ก็หลายครั้ง ได้แต่คิดว่าเมื่อทางน้ำเปลี่ยน ส่วนโค้งของแม่น้ำที่ถูกกระแสน้ำลัดจนขาดห้วงไปจากแม่น้ำสายเดิม มักกลายเป็นหนองน้ำที่อาจตื้นเขิน อาจยังมีน้ำไหลรวมและขังอยู่ หรืออาจถูกวัชพืชขึ้นรกเรื้อจนแทบมองไม่เห็น ส่วนชื่อที่เรียกก็มักเรียกตามท้องถิ่นนั้น เช่น บ้านน้ำครกใหม่ หนองน้ำครกม่วงตึ๊ด หรืออย่างน้ำครกแท่น บ้านแท่น
หากจะถือว่า หนองน้ำครกเหล่านี้เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติดั้งเดิมก็ใช่ หากจะกล่าวว่าเป็นที่สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินก็ไม่ผิด หรือถ้ามีน้ำขังและยังชีวิตของพืชและสัตว์นานาชนิดอยู่ได้ด้วยธรรมชาติที่ยังหล่อเลี้ยงหนองน้ำแอ่งนี้ ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำก็ไม่ผิด ขึ้นอยู่กับว่าท้องถิ่นจะมองเห็นและให้ความสำคัญกับน้ำครกเช่นนี้อยู่หรือไม่
ผมเพิ่งเคยเข้าไปที่หนองน้ำครกด้วยว่าคุณประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง อดีตทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่านพาไป เพราะเห็นว่ามีเวลาเหลืออยู่และเห็นว่ามีนกนานาชนิดในหนองน้ำครก เหมือนรู้ใจตากล้องจ้องถ่ายรูปนก (ผู้เขียนหนังสือชื่อ นกสัตว์โลกแสนสวย ขนาดพ็อกเก็ตบุ๊ค) ประกอบกับฐานข้อมูลกล่าวว่า มีนกเป็ดน้ำปีกสีน้ำเงินอพยพหลบหนาวแล้วลงมาหากินที่หนองน้ำครกบ้านม่วงตึ๊ดแล้วไม่อพยพกลับ คงติดใจอาหารอร่อย ปลาและกุ้งสดๆในหนอง
พื้นที่หนองน้ำครกบ้านม่วงตึ๊ดมีขนาดเล็ก เหมือนเป็นโค้งแม่น้ำน่านดั้งเดิมที่เปลี่ยนทางน้ำไปเช่นบ้านน้ำครกใหม่ แต่ด้วยว่าน่าจะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่รอบๆเป็นเนิน และน้ำยังไหลรวมลงมายังหนองน้ำครกจนมีปริมาณน้ำที่ดูแล้วเหมือนหนอง มีพืชน้ำนานาชนิด มีปลา กุ้งหอยและสัตว์น้ำสารพัดชนิดอิงอาศัยอยู่ แถมด้วยวัชพืชมากมาย
“พื้นที่หนองน้ำครกเดิมกว้างขวางกว่าที่เห็นครับ หน่วยราชการขอใช้ประโยชน์ ก็มีการอนุญาตให้ใช้ ด้วยการถมดินลงไปแล้วก็สร้างอาคารถาวรดังที่เห็นรอบๆพื้นที่นี่ละครับ บางส่วนตัดเป็นถนนวนรอบหนองน้ำครก บางแห่งวัชพืชรกเรื้อ มีส่วนที่เป็นหนองน้ำยังเป็นที่อยู่อาศัยและหากินของนกน้ำนานาชนิด เช่นนกอีโก้ง(นกไก่น้ำ) นกพริก นกเป็ดแดง ฯลฯ “
“ทำไม ไม่ประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดเล็กไปเสียเลย เพื่อปกป้องการรุกล้ำพื้นที่และถมทับจนเป็นตึก หรืออย่างน้อยก็เป็นแก้มลิงที่ซับน้ำไว้ให้ความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน แต่ก็อย่างว่า หน้าที่พื้นที่สาธารณะเช่นแม่น้ำลำคลองที่ถูกกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางไปแล้ว ยังเป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าหรือมหาดไทย” ผมแย้งด้วยความข้องใจ
“พื้นที่สาธารณประโยชน์ อบต.ม่วงตึ๊ดเข้ามาจัดการ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นไปถึงนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดครับ”คุณประสิทธิ์กล่าว
ผมพยายามค้นอ่านจากบทความประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเมืองน่าน แต่ก็ไม่เห็นข้อความใดที่เป็นข้อมูลเรื่องพื้นที่ขนาดของหนอง พื้นที่หนองดั้งเดิมกี่ไร่ ถูกหน่วยราชการใดขอใช้ประโยชน์ไปกี่ไร่ ยังเหลือพื้นที่รกเรื้อที่ยังไม่พัฒนาเท่าไร และอนาคตประโยชน์ของหนองน้ำครกในด้านการอนุรักษ์ จะมุ่งเน้นด้านใดได้บ้าง
ภาพที่ได้เห็นภาพแต่ขรัวแตะไม้ไผ่ ศาลาหลังคาหญ้าคา แปลงดอกทานตะวัน ดอกดาวเรืองและแปลงผัก ข้างหน้า แต่สำหรับผมแล้ว ยอมรับว่า หนองน้ำครกบ้านม่วงตึ๊ดมีคุณค่าแก่ชุมชนในฐานะที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับชุมชนคนถิ่นใกล้ๆแค่นั้น เป็นเส้นทางเดินออกกำลังกายของชุมชน
คงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะก้าวเข้าไปสัมผัสนั้นคงไม่ไปถึงไหน ไปครั้งเดียวก็เข็ดไปตลอดกาล
แต่ถ้าประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วเพิ่มแนวทางการปกป้องพื้นที่ให้เป็นของชุมชนคนชอบร่มเงาต้นไม้ ปลูกป่าไม้ให้รอบหนอง ปิดกั้นเสียงรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมารอบพื้นที่ด้วยกำแพงต้นไม้ บางที อาจเป็นแหล่งศึกษาและเรียนรู้ เรื่องนกของชุมชนและชุมชนใกล้เคียงได้อย่างมีศักยภาพไม่น้อย เป็นได้แค่แหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับชุมชนแค่นั้น
ขี่ช้างจับตั๊กแตนกันแล้วมั้ง อพท. และ ททท.