http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,389,661
Page Views16,722,247
« November 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ไปร่วมงานฉลองรัฐกะเหรี่ยง KNLA กับพระชายกลาง อภิญาโณ

ไปร่วมงานฉลองรัฐกะเหรี่ยง KNLA กับพระชายกลาง อภิญาโณ

ไปร่วมงานฉลองรัฐกะเหรี่ยง KNLA ปีที่ 70 กับพระชายกลาง อภิญาโณ

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

            ตลอดชีวิตไม่คิดเลยว่าจะได้ไปร่วมงานฉลองการต่อสู้ของกองทัพปลดปล่อยชาติพันธุ์กะเหรี่ยง KNLA ปีที่ 70  ณ กองพลน้อยที่ 7 ค่ายโกล๊ะหย่อเล ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ตรงข้ามบ้านแม่สลิดน้อย ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก  ด้วยบารมีแห่งศิษย์พระตถาคต พระชายกลาง อภิญาโณ  วัดพระรามเก้า กรุงเทพมหานคร  ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ แต่เหนื่อยจนขาลาก


ผ่านชุมชนคนกะเหรี่ยงฝั่งไทย

            การเดินทางจากกรุงเทพ มูลนิธิสหชาติ ถนนประชานิเวศน์ ตรงข้ามตลาดบองมาเช่ ด้วยรถตู้ มุ่งหน้าไปยังอำเภอมาสอด จังหวัดตาก ผ่านถนน 4 ช่องจราจรที่กำลังพัฒนาอย่างยอดเยี่ยม แล้วลัดเลาะชายแดนไปยังอำเภอแม่ระมาด  อำเภอท่าสองยาง เข้าพักแรมที่รีสอร์ทในท้องถิ่น ติดถนนสายแม่สอด-แม่ฮ่องสอน


ผู้คนรอเดินข้ามสะพานไม้ไผ่หกลำ 

            ตะวันบ่ายคล้อย เสียงตะโกนเรียกให้ขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยังบ้านแม่สลิดน้อย  ตะวันรอนๆเหนือขอบเขา ฝูงค้างคาวโผผินออกจากถ้ำยามค่ำเพื่อออกหากินยามราตรี เวฟค้างคาวบนท้องฟ้าชวนให้สื่อมวลชนคนทำข่าวตื่นเต้น ลงไปจับมุมถ่ายรูปริมชายฝั่งแม่น้ำเมย แม่น้ำที่กางกั้นเขตอดนประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์  แต่คิวรอแพข้ามฟากน่าจะยาวนาน จึงต้องเดินทางต่อไปอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อข้ามไปด้วยการเดินเท้า


พระอาจารย์ข้ามไปฟากพม่าตอนค่ำ

            รถตู้พาไปถึงบ้านแม่สลิดน้อย ค่ำพอดี พวกเราต้องย่ำไปบนถนนดินลูกรังที่ฝุ่นหนาเตอะ  เดินขึ้นเขาลงห้วยจนไปถึงชายฝั่งแม่น้ำเมย โอ้ ฝูงชนชาวกะเหรี่ยงจากไหนไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเป็นพี่น้องกะเหรี่ยงจากฝั่งประเทศไทยนี่แหละ แห่แหนกันมายืนอออยู่ชายฝั่ง ซึ่งมีเพียงสะพานไม้ไผ่ 6 ลำมัดตรึงจนแน่นเชื่อมต่อระหว่างฝั่งไทยและเมียนมาร์ อนิจจา รอจนเกินกว่า 40 นาที พระชายกลางจึงเปรยว่า กลับไปพักแรม พรุ่งนี้เช้ามืดค่อยกลับมาอีกครั้งเพื่อข้ามประเทศเขตขัณฑเสมา พวกเราเดินย่ำขึ้นดอยแล้วก็ลงดอยไปตามถนนเส้นเดิม ขึ้นรถตู้ได้หายเหนื่อย


ที่พักแรมคืนรองรับพี่น้องกะเหรี่ยงต่างถิ่น

            พรุ่งนี้ เช้ามืด 04.00 น.ขอนัดให้พร้อมเดินทาง เพื่อไปรอข้ามสะพานไม้ไผ่ 6 ลำๆใหญ่ๆคล้ายไผ่ยักษ์ แต่ละคนเข้าพักเหนื่อยตามชอบ  และเมื่อถึงเวลาก็ต้องตื่นให้ทันเวลา  ผมนอนคนเดียว แต่ก็ต้องตื่นทันทีที่เพื่อนข้างห้องตะโกนเรียก ลุงๆๆ ตื่นได้แล้ว เขากำลังจะออกเดินทางแล้วนะคร๊าบ สื่อมวลชนหนุ่มเหลือครึ่งเรียกแบบเกรงใจๆ


ช่างภาพอาวุโสมือโปร จำลอง บุญสอง แอคท่าถ่ายรูปกับสาวกะเหรี่ยง ฮา

            รถตู้จอดริมถนนสายหลัก พวกเราก็เดินเท้าเข้าไปตามถนนดินลูกรังเส้นเดิม เมื่อไปถึงชายฝั่ง แสงไฟจากหลอดนวลๆส่องให้เห็นว่า มีเพียงคนรอข้ามไม่มากอย่างเมื่อคืน  เมื่อข้ามไปฝั่งเมียนมาร์ จึงได้เห็นว่า โรงแรมท้องถิ่นเพื่อรองรับแขกที่มาเยือนนั้น มีพี่น้องกะเหรี่ยงที่พักแรมนอนกันกราดเกลื่อน หลังคามุงด้วยฟางข้าว เสาไม้ไผ่ตั้งค้ำกันน้ำค้างและหมอกเหมย พื้นกระดาน 4 แผ่นยกสูงเกือบศอก พื้นดินปูด้วยฟางข้าว  นี่ไง บ้านพักรับรองพี่น้องกะเหรี่ยง ของจริง


ฉันเช้าเตรียมพร้อมเดินลุย

            แสงเช้ายังไม่สาดส่อง ตากล้องจ้องถ่ายรูปเดินหามุมที่ชอบและบันทึกเอาไว้ได้แตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน  พระชายกลางได้รับถวายภักษาหารมื้อเช้า ผมนั่งกินไข่พะโล้อัดสูญญากาศ 2 ฟอง ที่ซื้อมาจากฝั่งไทยกับข้าวเหนียวกำปั้นหนึ่ง  ดื่มน้ำขวดที่เตรียมมาอย่างรีบร้อนจนสำลัก

            “จากนี้ไป จะต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดที่กองพลน้อยที่ 7 จะสวนสนามแสดงพลังและความพร้อมสู้รบ ไม่ไกล กิโลสองกิโลเอง”


ไม่เหงาเ้ลย มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวกะเหรี่ยงเดินเป็นเพื่อน

            ผมฟังแล้วก็ใจชื้น คงพอทนกับสภาพชายชรา แต่แล้วความจริงก็เริ่มสำแดงเมื่อเริ่มก้าวไต่ตลิ่งแม่น้ำเมยขึ้นไปทีละก้าว หยุดถ่ายรูปไปตามรายทาง เหมือนพักเหนื่อยไปในตัว ถนนเป็นดินลูกรัง ฝุ่นไม่หนานักเพราะเดินย่ำกันมาแล้ว 2 คืน  คณะที่ร่วมเดินทางจากต่างถิ่นและท้องถิ่น เดินกันไปเหมือนมาเที่ยวชมงานเฉลิมฉลอง เว้นแต่ตาแก่ตากล้องทองไทยแลนด์ ย่ำแย่


             มีป้ายบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของวีรบุรุษชนชาติกะเหรี่ยงติดให้รู้ มีร่องรอยงานเฉลิมฉลองตลอดคืนที่ผ่านมา โรงลิเกม้านั่งระเกะระกะ พื้นหนาแน่นด้วยถุงพลาสติกปลิวว่อน มีร้านขายหมากพลู กะเหรี่ยงกินหมากปากแดงและปากดำ  มีร้านขายอาหารเช้า  แต่ละร้านมีลูกค้าหนาแน่น คงจะเที่ยวชมการแสดงจนหมดคืน ฉลองแบบโต้รุ่ง

 

              แสงแดดเริ่มโรยตัวลงมาผ่านม่านหมอก  หมอกที่ฟุ้งไปทั่วบริเวณ ผมเดินไต่ขึ้นดอยแล้วก็ลงดอยแล้วก็ไต่ขึ้นดอยเหมือนเต่าคลาน ทำได้ตามวัยและอายุสภาพ ผมจึงไปไม่ทันกลุ่มสื่อมวลชนและพระอาจารย์ซึ่งล้วนแต่แข็งแรงเพราะยังหนุ่มแน่นกว่า แต่ผมก็เดินไปจนถึงลานกว้างใหญ่หลายสิบไร่ คราคร่ำไปด้วยพี่น้องชาวกะเหรี่ยง ด้วยสีสันเครื่องแต่งกายที่สวยงาม


              ผมเหลียวมองหาสาวกะเหรี่ยงที่ยังสวม “ชุดเชวา”  อันมีความหมายถึง กะเหรี่ยงสาวโสด แต่ถ้าแต่งด้วยชุดผ้าซิ่นสวมเสื้อแยกส่วน เป็นผู้หญิงกะเหรี่ยงที่ไม่โสด แต่งงานแล้ว หรืออาจเป็นหม้าย  ผมรู้จักชุดของหญิงกะเหรี่ยงก็ด้วยวิสัยนักอ่าน เรื่องราวที่แต่งโดยหนุ่มกะเหรี่ยงนักเขียน ชื่อหนังสือ “เชวาตัวสุดท้าย” กวีนิพนธ์มีทุกชนเผ่าทุกเผ่าพันธุ์


              ผมนับไม่ถูกประมาณไม่ได้ว่ามีพี่น้องกะเหรี่ยงกี่ชาติพันธุ์ หรือมีปริมาณมากน้อยเพียงใด เห็นแต่ภาพชุดสีสันสวยงามแตกต่างกันไป ยืนบ้าง นั่งบ้าง ทุกที่ที่สามารถมองเห็นการสวนสนามของเหล่าทหารหาญ นักรบเพื่อชาติ ภายใต้ม่านหมอกที่ไหลอบอวลไปทั่วบริเวณ ได้ยินเสียงจากเครื่องขยายเสียงเป็นครั้งคราว แต่ไม่เห็นปะรำพิธีของบรรดาขุนพลกะเหรี่ยง


              แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนสื่อมวลชน(ขอบคุณคุณภาวินีย์ เจริญยิ่ง แห่งข่าวสด) คนทำข่าวก็แชร์ข่าวที่ได้สัมภาษณ์ให้ด้วยเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่กะเหรี่ยงและสื่อด้วยกันเอง ดังนี้คือ

             

              ท่านพลเอก มูตู ประธานาธิบดีของรัฐกะเหรี่ยง เป็นปรานในงานเฉลิมฉลอง 70 ปีของการปฏิวัติของชนชาติกะเหรี่ยง กล่าวว่า พี่น้องชาวกะเหรี่ยงที่มาร่วมงานหลายหมื่นคนในครั้งนี้ มีทั้งกะเหรี่ยงที่ข้ามมาจากฝั่งประเทศไทยและกะเหรี่ยงที่อยู่ในรัฐกะเหรี่ยงฝั่งประเทศเมียนมาร์ นอกจากนั้นยังมีผู้แทนรัฐ อาระกัน รัฐฉาน และนานาประเทศจากทั่วโลก


สื่อด้วยมือถือ คืออาวุธวันนี้

อดีตนักรบที่มาร่วมกิจกรรม

             กิจกรรมในงานพิธีเฉลิมฉลอง การปฏิวัติรัฐกะเหรี่ยงปีที่  70 นั้นประกอบไปด้วย การสวนสนามของเหล่านักรบ ทหารชาติพันธุ์กะเหรี่ยงซึ่งมีทั้งชายและหญิง  กลางคืนเฉลิมฉลองด้วยมหรสพ การแสดง นานาชนิดจากชนเผ่า อันเป็นความบันเทิงครั้งใหญ่ที่สุดที่ประชาชนคนกะเหรี่ยงได้ชมชอบ มีการสร้างที่พักแรมรับแขก พร้อมน้ำดื่ม อาหาร และสุขา บริการอย่างครบถ้วน เพื่อพี่น้องชาวกะเหรี่ยงต่างถิ่น การเฉลิมฉลองตั้งแต่วันที่ 28-31 มกราคม 2562


ทานาคาทาแก้มนั้นมิใช่มีเพียงชนชาติมอญ กะเหรี่ยงก็ทาจ้า

              พลเอก จอห์นนี่  ผู้บัญชาการทหารสูงสุดรัฐกะเหรี่ยง กล่าวว่า กะเหรี่ยงในพม่ามีอยู่ 4 กลุ่ม มาเข้าร่วมเพื่อแสดงพลังสามัคคี ทำหน้าที่ด้วยหัวใจดวงเดียวกันคือเพื่อรัฐกะเหรี่ยง แต่ทั้งหมดทั้งมวล อยู่ภายใต้กะเหรี่ยง KNU ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งจากประเทสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆทั่วโลก ในมิติการหยุดยิงและเจรจาสันติภาพกับเมียนมาร์


วัฒนธรรมการแต่งกายของพี่น้องกะเหรี่ยงหลากสีสันและสวยงาม

              ส่วนนางอองซานซูจีนั้น ยังช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนักเนื่องจากทหารพม่ายังมีบทบาทเหนือกว่านาง  อย่างไรก็ตาม รัฐกะเหรี่ยงของเรา พร้อมสู้รบเมื่อจำเป็นต้องปฏิบัติการ


             การสวนสนามของเหล่าทหารหาญท่ามกลาวม่านหมอกที่ห่มคลุมไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่ดูลึกลับและเหมือนมีมนต์ขลัง ผู้คนชนกะเหรี่ยงแต่งกายหลากสีสันและสวยงาม ห้อมล้อมกันชมความเข้มแข็งของเหล่าวีรบุรุษขุนศึกนักรบของพวกเขา เด็กๆทั้งชายหญิงตามพ่อแม่มาร่วมงานด้วยแววตาแสนบริสุทธิ์ ความงดงามของวัฒนธรรมการแต่งกาย ชวนหันไปพินิจพิจารณา เด็กน้องและเด็กระดับเยาวชนถูกหล่อหลอมด้วยพลังความรักชาติและสามัคคี


             กว่าพิธีการสวนสนามและการกล่าวปราศรัยของเหล่าขุนพลจะจบลง ผมเหนื่อยและเมื่อยเหลือกำลัง ผมหันหลังให้กับลานสวนสนามแล้วย่องๆเดินช้าๆกลับไปตามเส้นทางที่เข้ามา ขึ้นเขาลูกหนึ่งก็หยุดพักขาและหายใจให้ปอดได้รับอ็อกซิเจน  แล้วก็เดินต่อไป เนินแล้วเนินเล่า จนถึงประตูแดงที่นัดหมาย แต่เมื่อผมไปถึงตะวันสาดส่องสว่างโล่งไปทั่ว ท้องฟ้าสีครามสดใส แต่หัวใจผมสั่นระริก ไข่พะโล้ 2 ฟองกับข้าวเหนียวกำปั้นหนึ่งหมดน้ำยา  จะเป็นลม  


คุณพ่อขอร้อง พร้อมแอคชั่น 

             ทันใดก็เห็นร้านเครื่องดื่ม น้ำสีต่างๆ ผมเดินดิ่งเข้าไปเลือกชนิดที่เติมน้ำตาลและเกลือแร่ สินค้าจากฝั่งไทยทุกยี่ห้อ  ดื่มไปจนหมดขวด ใจก็ยังสั่นระรัว ภาวะขาดน้ำตาลอันเนื่องมาจาก อาหารเช้าไม่พอเพียงต่อการเผาผลาญ ในสภาพคนเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและไขมันในเส้นเลือดที่ตีบไปแล้ว 2 เส้น ต้องระวังจงหนัก ผมควักไข่พะโล้อัดสูญญากาศอีก 2 ฟอง กัดกินแล้วกินๆๆๆๆจนได้คืนสู่สภาพปกติ อะฮ้า พระคุณไข่พะโล้


             ผมตัดสินใจเดินข้ามสะพานไม้ไผ่หกลำข้ามมายังฝั่งประเทศไทย แล้วเดินขึ้นเขาลงห้วยท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า กว่าจะหารถที่เดินทางพบก็แทบขาดใจ  สภาพมิติ ขาลาก ว่างั้นเถอะ

 

หมากพลูมีขายทั่วไป

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view