ไก่ต่อ..ไก่ตั้ง...หรือไก่ป่า
ธงชัย เปาอินทร์/เรื่อง นิวัตร เปาอินทร์/ภาพ
หมู่บ้านของเราอยู่กลางป่าเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าเบญจพรรณ หรือบางทีก็เรียกว่าป่าโปร่ง ป่าผลัดใบ พันธุ์ไม้ป่ามากมายหลายชนิด เช่นหว้า มะค่าโมง ประดู่ เต็งรัง ซ้อ แดง มะกอกป่า มะเกลือ มะพลับ โอย จารนัยไม่หวาดไหว
ในป่าโปร่งอย่างนี้แหละครับมีไผ่หลายชนิดแทรกแซมผสมผสานกะนทั่วไป ตั้งแต่ริมห้วยเชิงดอยจนถึงบนสันปันน้ำ(ยอดดอย) เช่นไผ่ฮกซึ่งมีลำใหญ่มาก ขนาดโคนขาผู้ใหญ่ แต่ละปล้องยาวเกือบๆ 1 เมตร เนื้อไม้หนา ไผ่บง ไผ่ไร่ ไผ่รวก ไผ่ซาง ฯลฯ
เจ้าไผ่ไว้กอพวกนี้แหละที่เป็นแหล่งอาหารอย่างหนึ่งของไก่ป่า หมูป่า กวางป่า เก้ง กระจง กระรอกกระแต ฯลฯ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ไผ่กอไหนออกดอก หรือเรียกกันว่าไผ่ออกขุย หลังเมล็ดไผ่แก่และร่วงหล่น มันช่างมหัศจรรย์นะครับว่า ไผ่กอนั้นจะตายลงทันที ธรรมชาติบันดาลให้ไผ่ออกดอกและทิ้งเมล็ดไว้แผ่ลูกหลานสืบไป เรียกว่าไผ่ตายขุย
ไก่ป่าจะเป็นพวกแรกที่เข้ามาหากินเมล็ดไผ่ซึ่งก็มีเมล็ดที่คล้ายคลึงกับเมล็ดข้าวเปลือก
และนั่นคือจุดเสี่ยงตายของเจ้าไก่ป่าฝูงนั้น พรานป่าอย่างศรีวรรณ สารผัด ผู้เก่งกาจการล่าแห่งหุบเขาห้วยสามสบ จะไปเฝ้าด้วยปืนแก๊บ แต่เจ้าไก่ต่อที่ทางภาคเหนือมักเรียกกันว่า ไก่ตั้ง แต่แท้ที่จริงมันก็คือไก่ป่าตัวหนึ่งที่แปลงบทบาทและหน้าที่ในการดำรงอยู่และยังประโยชน์ให้แก่เจ้าของหรือพราน
"เมื่อเลือกได้ที่เหมาะๆ ก็จะเอา"เจ้าไก่ต่อ"ไปผูกไว้กับหลักสั้นที่ปักเอาไว้โคนกอไผ่ที่กำลังจะตายขุย แล้วแอบซุ่มอยู่ห่างๆ เจ้าไก่ต่อจะขันเรียกพวกอยู่อย่างนั้น เมื่อมีไก่ตัวผู้เข้ามาท้าประลองฝีเท้าก็ได้เรื่อง หรือบางทีก็เป็นไก่แม่(ตัวเมีย) เข้ามายลโฉมสุดหล่อ ก็ล่อซะด้วยปืนแก๊บ"
"เรื่องจะยิงพลาดไปถูกไก่ต่อก็ไม่เคยนะ แต่พรานคนอื่นๆเขาพลาดหรือเปล่าไม่รู้"
ไก่ต่อจึงเป็นสัตว์เลี้ยงสวย น่ารัก และมีคุณอนันต์ในการต่อไก่ป่ามาให้กินเป็นอาหาร แต่มันก็อาภัพนะ เพราะว่าพรานจะผูกเอาไว้บนที่สูงๆ พ้นจากตัวเมียและเพื่อนๆ เหงามั้ยไม่รู้ ถ้าเป็นเองบ้างจะเป็นยังไง