หลากลีลา ช้าง ที่ หัวหิน
“เอื้อยนาง”
หัวหิน อำเภอหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เคยได้ชื่อว่าเป็นถิ่นสำราญ ถือเป็นเมืองตากอากาศแห่งแรกของประเทศไทย และยังคงได้รับความนิยมมาจนปัจจุบัน เดิมชื่อบ้านสมอเรียง หรือบ้านแหลมหิน อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง ๒๘๑ กิโลเมตร มีหาดทรายยาว ๕ กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของพระตำหนัก และบ้านพักตากอากาศชายทะเลของเจ้านายเชื้อพระวงศ์มา และข้าราชการชั้นสูงในสังคมไทยมาเกือบศตวรรษ และเป็นที่ตั้งพระราชวังไกลกังวลที่ประทับพักในช่วงฤดูร้อนของพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๗ ซึ่งเป็นผู้ทรงสร้างขึ้น
“สรศัลย์ แพ่งสภา” เขียนย้อนอดีตสถานตากอากาศชายทะเลในหนังสือ ราตรีประดับดาวที่หัวหินไว้ว่า
“เมื่อทางรถไฟสายใต้เดินได้ถึงหัวหิน ช่วงปี พ.ศ.๒๔๕๔ ชาวกรุงก็พากันออกหาบ้านพักชายทะเลมากขึ้น มีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนเรศร์วรฤทธิ์(ต้นสกุลกฤดากร) ด้วยพระองค์หนึ่ง ทรงสร้างตำหนักอยู่ด้านใต้ของหมู่หิน ทรงขนานนามหาดนี้ว่า “หัวหิน
“และประทานชื่อตำหนักว่า “แสนสำราญสุขนิเวศน์ “ และได้มีเจ้านายอีกหลายพระองค์นิยมมาสร้างตำหนักที่ประทับเพื่อแปรพระราชฐานที่หัวหิน หัวหินจึงกลายเป็นที่พักตากอากาศชายทะเลที่สุดสวยด้วยธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร เมื่อทางรถไฟเปิดถึงเขาเต่า การจับจองที่ดินก็ยืดออกไปถึงเขาเต่า มีการตัดถนนจากสถานีรถไฟไปถึงชายทะเล ย่านการค้า การพาณิชย์ขยายใหญ่ขึ้น”
ถึงวันนี้ก็เกือบร้อยปีแล้วสินะ หัวหินกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีโรงแรมและบ้านพักทุกระดับให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการ
ร้อนนี้ชาวลูกหลานพ่อใหญ่เลาะก็มาพักหัวหิน นอกจากประทับใจหาดสวนสนเขาตะเกียบแล้วเด็ก ๆ กลับได้ตื่นเต้นกับกิจกรรมของช้าง ที่หัวหินซาฟารีด้วย
วันนั้น เป็นวันแรงงานพระอาทิตย์ส่องแสงจ้า ที่ชายหาดเขาตะเกียบมีงานคอนเสิร์ตมาราธอน เปิดแสดงตั้งแต่บ่ายแก่ๆยันรุ่ง ๑๘ ชั่วโมง รถยนต์ รถไฟแน่นขนัดจนเมืองหัวหินกลายเป็นอัมพาต แต่ใกล้ ๆ กันนั้น ณ หัวหิน ซาฟารี น้องไอพ่น กับไออุ่น สองพี่น้องกำลังจ้องเจ้าช้างลีลา ชนิดตาไม่กะพริบทีเดียว
บรรพบุรุษของเราเป็นส่วยผู้ปิดทองบนหลังช้างมาแต่โบราณ เคยคล้องช้าง จับช้างมาใช้งาน มาเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ เป็นสมบัติของครอบครัว ครอบครัวละช้างสองช้างเป็นอย่างน้อย จนดินแดนนั้นได้ชื่อเป็นดินแดนแห่งช้าง มีประวัติศาสตร์ภูมิอกภูมิใจได้เคยนำช้างมาถวายราชสำนักสยามในอดีต ที่นานจนใคร ๆ แม้แต่ลูกหลานก็จำไม่ได้แล้ว และเรากลับมาตื่นตาตื่นใจกับช้างที่หัวหินท่ามกลางแสงแดดแผดเผาแห่งเมษายน
บนอัฒจันทร์ ณ สนามการแสดงของช้างตอนนี้ มีเสียงเพลง เสียงดนตรีจังหวะสนุก ๆ ดังอยู่ไม่ขาด ขณะผู้ชมการแสดงทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งไทยและเทศกำลังทยอยขึ้นไปนั่งรอ หมอช้างจากแดนที่ราบสูงก็พาช้างทั้งหลายออกทักทายผู้ชมรอเวลาแสดง
เจ้าช้างตัวเล็กสองช้างที่ได้ชื่อยอดฮิต คือ ก้านกล้วย กับ ชบาแก้ว ดูช่างมีอารมณ์ตามเพลงซะเหลือเกิน ขณะชูงวงทักทาย หรือทำอะไร ๆ ตามคำสั่งหมอช้าง
เท้าของเธอทั้งสองก็ไม่เคยหยุดขยับไหวไปตามจังหวะเพลง
“ซื้อกล้วยให้ช้าง ซื้อกล้วยให้ช้างหน่อย”
น้องไอพ่นร่ำร้อง ด้วยน้องรู้แต่ว่าถ้ารักช้างก็ต้องซื้อกล้วยให้ช้าง แต่เพราะเรานั่งอยู่แถวบน ๆ ไม่สะดวก จึงบ่อยให้เธอบ่น ๆ ไปก่อน ครั้นได้เวลาแสดงจริง ขบวนพาเหรดของเหล่าช้างเยื้องย่างออกมาเธอก็เงียบมิดจี้รี่ไปเอง
ช้างทั้งเจ็ดอันมี คุณขนุน คุณแซนดี้ คุณสยาม คุณยุโรป คุณเก็จมณี และน้องเล็ก ก้านกล้วย ตามด้วยชบาแก้ว เดินตามกันใช้งวงเกาะหางกันออกมาในขณะเสียงเพลงก็บรรเลงเร้าใจ
หนังการ์ตูน เกมส์ ของเล่นที่เป็นหุ่นยนต์กลไกสร้างความสนุกตื่นเต้นให้เด็ก ๆ มามากแล้ว แต่มันแตกต่างจากการแสดงของสัตว์จริง ๆ ตรงที่ความมีชีวิตของสัตว์โลก
ที่สัมผัสได้ถึงการตอบสนอง อันแสดงถึงความชื่นชม หรือไม่จากผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง ช้างในวันนี้จึงคล้ายกับสื่อได้ถึงเสียง และอาการเบิ่งตามองของผู้ชม ที่สำคัญเสียงพิธีกรคนเก่งที่พูดอังกฤษได้คล่องใช้ทั้งน้ำเสียง และลีลาหลอมรวมความสนใจของผู้ชม กับผู้แสดงเป็นหนึ่งเดียว
ตัวโต ๆ ทรงพลังของช้างมักทำให้ผู้คนขยาด แต่ความรัก ความผูกพัน รางวัล และกติกา จากเจ้าของผู้เป็นหมอช้างก็ทำให้ช้างยอมสยบ และดูน่ารักมากกว่า จากช้างศึก ช้างบรรทุกของเดินทาง ช้างลากซุง ลากแท่งหินสร้างปราสาท จึงมาเป็นช้างหมอนวด ช้างขี่จักรยาน ช้างจิตรกรนักวาด ช้างนักเตะฟุตบอล ช้างนักเต้นเล่นห่วงยางในวันนี้ที่น้องผู้มาเยือนคงจะคุยคำโตไปอีกหลายวัน
จบการแสดงช้างท่ามกลางแดดจ้านั้นหลายคนเดินเข้าไปนั่งบนอัฒจันทร์อีกแห่งหนึ่งหน้าสระน้ำใสที่ล้อมไว้ด้วยผนังกระจก เพราะเป็นที่สิงสถิตของคุณจระเข้ ญาติของพญาชาละวัน พร้อมไกรทองปรีชา ออกมาวาดลวดลายยั่วน้ำลายนักกินมนุษย์ทั้งหลายให้อ้าปากงับ
แต่วันนี้ดูคุณจระเข้ทั้งหลายช่างอ้วนพี และเอาแต่นอน จนไกรทองปรีชาลากหาง ดึงขา ง้างปาก อย่างไร คุณเธอทั้งหลายก็คล้ายดั่งจะไม่สนใจ กระนั้นเขี้ยวแหลม ๆ คม ๆ ในปากจระเข้ก็ใช่ว่าจะน่าวางใจ เราจึงปรบมือให้ไกรทองปรีชาแบบถอนหายใจโล่งอกไปด้วยทุกทีที่เธอรอดตัวออกมาจากวินาทีเสียว ๆ ได้ก่อนจะมาใจตุ้ม ๆ ต้อม ๆ กับนักเล่นกับงูสัตว์อันตรายอีกชนิดก่อนที่จะพากันออกไปนั่งช้างขึ้นเขา และลงห้วยผ่อนคลายอารมณ์ให้สงบเย็นกลับคืนหลังจากตื่นเตลิดไปกับสัตว์เขี้ยวพิษอย่างจระเข้ กับงู พี่ไออุ่นนั่งช้างชื่อประจวบ ส่วนน้องไอพ่นนั่งตัวที่ชื่อเหมือนทวด ๆ คนหนึ่งคือ บุญจันทร์
๐๐๐๐