http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,042,895
Page Views16,353,145
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วรรณกรรมเยาวชน เรื่องกิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน2.เพื่อนรักนักซิ่ง

วรรณกรรมเยาวชน เรื่องกิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน2.เพื่อนรักนักซิ่ง

วรรณกรรมเยาวชน

เรื่อง

กิ่งคำปายกับยายทวด

โดย      เอื้อยนาง

 

๒. เพื่อนรักนักซิ่ง

เสียงกรีดร้องด้วยความสนุก  สะใจ  ดังอยู่รอบข้าง  แข่งกับเสียงแผดดังของรถ

มอเตอร์ไซค์    เหล่าวัยรุ่นทั้งหลายขับขี่ฉวัดเฉวียน โฉบเฉี่ยว  เป็นเจ้าถนนมากมายเหมือนฝูงตั๊กแตนเกาะกลุ่มเหาะเหิน

            กิ่งคำปายกำแฮนด์แน่น  บิดเต็มที่   พลางก้มหัวหมอบลู่ลง โน้มตัวไปข้างหน้าแนบหัวกับแฮนด์รถ  หลบกระแสลมที่พัดกระพือต้านความเร็วของยานสองล้อติดเครื่องยนต์   แต่ว่ากิ่งคำปายกับเพื่อนพยายามเร่งน้ำมันให้วิ่งได้เท่ากับเครื่องบิน 

หรือยานอวกาศ  ผมยาวปลิวสะบัดลู่ลม

            บินไปเลยลูกพี่

            โมบาย  เจ้าเพื่อนที่เกาะอยู่ข้างหลังตะโกนพลางขย่มเขย่ง  เกาะไหล่กิ่งคำปายแล้วยืนยงโย่ โบกไม้  โบกมือให้พรรคพวกที่ตามกันมาเป็นพรวน   และบางคันแซงขึ้นไปข้างหน้า  บางคันแกล้งเฉียดเข้ามาใกล้แล้วหักหลบฉวัดเฉวียน   มีเพื่อนผู้ชายบางคนเร่งเครื่องบรื้อบริ๊น..ๆ   แผดเสียงดังราวกับเสียงเปรตจากนรกขึ้นมาร้องขอส่วนบุญ   ต่างพยายามเร่งเครื่องแข่งความเร็ว  พลางตะโกนลั่นถนน  รถยนต์หลายคันที่สวนมาหลบลงข้างถนนแทบไม่ทัน  นั่นยิ่งทำให้เหล่าวัยรุ่นสะใจเป็นทวีคูณ

            กิ่ง....อย่าให้มันแซงได้นะกิ่ง  เร็ว  เร็วขึ้นอีก...ยู๊ว.ว...

            เสียงเชียร์  เสียงเร่งเครื่องยนต์แผดก้อง  เสียงไชโยโห่ร้องแข่งกันสนั่นสะเทือน  เป็นเหมือนเสียงปลุกวิญญาณของเหล่าวัยรุ่นทั้งหลายให้ออกมาโลดแล่น  พลังกายที่มีอยู่มากมายตามวัย  แต่ถูกเก็บกดไว้ในวิถีชีวิตยุคดิจิตอล  ยุคที่ผู้ใหญ่  พ่อแม่และครูเชื่อว่า  จอมอนิเตอร์  คอมพิวเตอร์  และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตคือเครื่องมืออันวิเศษ  ที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้กลายเป็นผู้วิเศษ  ได้อย่างวิเศษ  จึงปล่อยให้จมจ่อมอยู่กับมัน  ลืมวัน  ลืมเวลา  ลืมว่าร่างกายอวัยวะของมนุษย์ไม่ใช่มีแค่สองตา   และห้านิ้วสำหรับสัมผัสปุ่มเท่านั้น   โดยเฉพาะร่างกายที่เปี่ยมพลังในวัยของเหล่าตั๊กแตนโยงโย่ทั้งหลาย   ที่กำลังติดปีกบินไปกับยานสองล้อติดเครื่องยนต์ ที่พวกเขาพากันเรียกว่า      มอ ไซค์ เหินเวหา   ในขณะนี้

            ไอ้เห้งเจียมันจะแซง  อย่า อย่ายอมให้มันแซง  โว้ย.....

            มือที่กุมแฮนด์เร่งน้ำมันของกิ่งคำปายเกร็งแน่น  บิดจนสุดขีด  เร่งเครื่องเต็มที่  พาเจ้าสองล้อพุ่งทะยานโลดลิ่ว   ยกล้อหน้าขึ้น  แล้วกระโจนลง  กระเด็นกระดอน  จนคนขับขี่เองต้องยกก้นขึ้นให้ได้จังหวะ  ไม่เช่นนั้นมันจะถูกกระแทกกระทั้นจนระบมบวมในวันพรุ่งนี้

            สนุกจัง  วู๊ย..ย..ย..

เฮ้ย...ไอ้คันนั้น  ไอ้อั๋นอ้วนมันบินไปแล้ว  อย่ายอมมันนะกิ่ง  ตามมันให้ทัน

มีเสียงวี๊ด  กรีดก้อง  ร้องตะโกน เสียงคนเสียงเครื่องยนต์สองล้อดังประสานเป็นเพลงเรียกวิญญาณ   บนท้องถนนขณะนี้มีแต่ฝูงยานสองล้อ ที่ล้อเล่นกับยมบาล  ไม่รู้กาล ไม่รู้เวลา  ไม่รู้หน้า  ไม่รู้ข้างหลัง   มีแต่ความสนุกสุดขีด  มีบางคันแล่นลิ่วปลิวคว้างอยู่กลางถนน  เพราะถูกอีกคันพุ่งเข้าชนจนกระเด็นกระดอนไปด้วยกัน  เลือดสาดกระเซ็นใส่หน้าคันที่ตามมาเปื้อนเปรอะหูตาพร่ามัว

เฮ้ยไอ้นั่นละเลงสี

ไอ้ขี้แย  เหยาะแหยะสมน้ำหน้า  อยากแซงดีนัก

โมบายที่เกาะข้างหลังป้องปากตะโกน  พลางยืนเขย่ง โยงโย่  โยกตัวถ่วงน้ำหนักให้เอียงไปข้างเดียว  รถจึงเสียหลัก แฉลบเข้าไปเฉียดเฉี่ยวกับรถเพื่อนอีกคันที่แกว่งตัวเข้ามาใกล้    กิ่งคำปายหมุนแฮนด์หักรถออกได้อย่างเฉียดฉิว   แต่ตัวเองก็เสียหลัก  รถพุ่งกระโจนไปข้างหน้าอย่างไร้การควบคุม

โครม!!!

วี้ด....บึ้ม  ร่างสองร่างกระเด็นกระดอนไปคนละทิศทาง   ขณะรถพุ่งออกจากโค้งถนนโผนกระโจนลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในคูน้ำข้างถนน

ร่างของกิ่งคำปายปลิวไปหลายวา  เบาโหวง โล่งลิ่ว ปลิวไปเหมือนปุยนุ่น  กระแสลมจากเหล่าตั๊กแตนคันอื่นที่เฉียดผ่าน พัดเอาร่างของกิ่งคำปายให้เหินลอย   ลอยขึ้น   สูงขึ้น    สู่ห้วงนภากาศไปลิ่วๆ

ลิ่วๆ ล่องลอย

เลื่อนๆ  ลิบๆ  วิบไหว

ร่างล่องท่องทางยาวไกล

บินได้เหินฟ้าไม่อาลัยดิน

กิ่งคำ....

มีเสียงเรียกชื่อเธอดังแว่ว ๆ  มาจากที่ไกลๆ   และปรากฏมือยาวๆ   ยื่นมาสาวเอาร่างของกิ่งคำปายกลับลงสู่พื้นดิน   อ้อมกอดอุ่นๆ เสียงสะอื้นกระซิกๆ  ทำให้เด็กสาวนักซิ่งลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น

กิ่งคำ...กิ่งคำปายลืมตาได้แล้ว  ลูกแม่ฟื้นแล้ว

เสียงคุ้นๆ กระตือรือร้นแสดงความตื่นเต้นดีใจดังอยู่ข้างหู

แม่  แม่จ๋ามาดูหลานของแม่ซิ  เขาลืมตาได้แล้ว  คุณหมอ  คุณหมออยู่ไหนมาช่วยกิ่งคำปายเร็ว

เสียงแม่  ยาย  หมอ  และพยาบาลดังอยู่อึงอน   แต่คนที่อุ้มกิ่งคำปายไว้ในอ้อมกอด  แล้ววางให้นอนลงบน เตียงนุ่มกลับเป็นใครอีกคน  ที่กิ่งคำปายไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน   เป็นหญิงชราในเครื่องแต่งกายแบบไทอีสานโบราณ  ใบหน้าที่เหี่ยวย่นนั้นประดับไว้ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น   เผยให้เห็นฟันสีดำขัดเงาวาววับ   แต่แววตาที่ยังดูสดใสขัดกับใบหน้านั้นกลับแฝงไว้ด้วยแววขบขัน   และกลั้นยิ้มราวกับกิ่งคำปายคือเด็กซนๆ  ทำเรื่องตลกๆ  เท่านั้นในความรู้สึกของหญิงชรา

ยาย  ยายหรือค่ะ

กิ่งคำปายเผยอริมฝีปากเปล่งเสียงถามออกมาเบาๆ  อย่างยากเย็น   แต่เจ้าของอ้อมกอดอุ่นไม่ตอบว่ากระไร  เพียงแต่พยักหน้ายักคิ้วให้แล้วหายวับ

ใช่จ๊ะ  ยายเอง โอคุณพระช่วย  หลานของฉัน  กิ่งคำปาย...สายใจ  ของยาย ไม่ตายแล้ว   ฟื้นแล้ว

เสียงที่ตอบรับ  และร่ำรำพันคร่ำครวญอยู่ข้างเตียง  กลับเป็นหญิงชราอีกคนที่กิ่งคำปายคุ้นเคย  เพราะเป็นคนที่เลี้ยงดูกิ่งคำปายมาแต่เล็กแต่น้อย   รักและห่วงใย  ตามอกตามใจ  จนใครๆ  โดยเฉพาะแม่ของกิ่งคำปาย นั้นหาว่าเป็นคนที่ทำให้กิ่งคำปายเสียคน

ยาย  แล้วยายคนนั้นล่ะ

เด็กสาวถามพลางสอดส่ายสายตาสำรวจรอบกาย  มองหาใครอีกคนที่ใช้มือยาวๆ คว้าเอาร่างของเธอแล้วอุ้มลงมาจากที่สูง  แต่ไม่พบ  คนที่รุมล้อมอยู่ข้างเตียงมีแต่แม่  ยาย  และกลุ่มคนในเครื่องแบบของโรงพยาบาล

ยายคนไหนอีก  หลานฝันหรือจ๊ะ...

เสียงยายเริ่มจะวิตกกังวล  และพร่ำบ่น   ภาวนา  ขอคุณพระคุณเจ้าให้มาคุ้มครองหลานสาวที่รักดั่งดวงใจ  พลางบนบานศาลกล่าว วุ่นวาย  คร่ำครวญ  จึงถูกหมอขอร้อง และกันทุกคนให้ออกไปจากห้อง

ให้คนป่วยได้พักผ่อนก่อนนะคะ

พยาบาลบอกเสียงอ่อนโยน  ก่อนเปิดประตูห้อง  เชื้อเชิญให้ทุกคนออกไป  หญิงสาวผู้เป็นแม่แม้จะห่วงใยแต่ก็ยอมถอยออกไปแต่โดยดี   ผู้เป็นยายนั่นซิยังพะว้าพะวัง ถอยออกไปได้แค่ประตูก็ตัดใจไม่ได้  หันมามองดูสารรูปหลานสาวที่น่าสงสารนั้นแล้วโผเข้ากอดหลานรักอีกครั้ง  อย่างอาลัยอาวรณ์  และห่วงใยล้นเหลือ   สุดท้ายล้วงของบางอย่างออกมาจากตะกร้าหมากกุกกัก

ของฮักษานี้ ช่วยจะช่วยคุ้มครองเจ้า ...สายคอสายใจของยายให้ปลอดภัย

เป็นสายสร้อยเงินเก่าคล้ำ  พร้อมจี้ที่ทำเป็นตลับเงินเล็กๆ  คล้องที่คอของหลานแสนรัก  แล้วจับมือน้อยมากุมจี้ไว้พลางบ่นพึมพำ

คุณยายออกไปก่อนนะคะ

เสียงพยาบาลเตือนมาอีกครั้ง   หญิงชราพึมพำพูดกับสิ่งที่วางในมือหลานอยู่งึมงำ แล้วจับมือนั้นยกขึ้นใส่หัว  ก่อนวางไว้หว่างอกเหมือนเดิม  แล้วจึงยอมถอย และออกจากห้องไป

ของฮักษา  ที่ยายว่าคือตลับเงินใบเล็กจิ๋วสลักรูปพญานาคสองตนชูคอเผชิญหน้าอ้างปากเหมือนกำลังเจราจาต่อกัน  รูปร่างของตลับน้อยนั้นกลมรี มีสลักปิดเปิดเป็นปุ่มอยู่ตรงกลาง

ทันทีที่มือน้อยกุม  ของฮักษาอันเย็นชื้นนั้นไว้หว่างอก  พลังความอบอุ่นกลับแผ่ซ่านในกำมือแล้วแผ่ขยายไปทั่วร่าง

สายลมอ่อนโยนโชยมา  กลิ่นกรุ่นๆ อ่อนละมุนของดอกไม้บางชนิดพลิ้วมาแตะจมูก  กิ่งคำปายเคลิ้มๆ  คล้ายมีใครบางคนเป่าหัวให้เย็นสบาย จนเธอหลับไปอีก

 

                        ****************************************

 

           

 

Tags : เอื้อยนาง ouynang เรื่องสั้น วรรณกรรมเยาวชน

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view