http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,041,364
Page Views16,351,571
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 13 กระบะสิบล้อเปลือย โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 13  กระบะสิบล้อเปลือย  โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

โดยอินทรีดำ

ตอน 13. กระบะสิบล้อเปลือย

          สำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2  ตั้งอยู่ห่างจากบ้านหนองห้า 7.5 กม.บ้านหนองห้าห่างจากอำเภอนาน้อย 5 กม.ถนนลาดยางสองทางวิ่งไม่เรียบนักซ้ำร้ายโค้งถี่มาก  นั่งรถไปแต่ละครั้งใช้เวลามากกว่าทางตรงๆ อันตรายสุดๆก็เวลาวิ่งสวนกับรถสาลี่บรรทุกไม้ซุงยาวๆ ที่เกือบจะชนกันหลายครั้ง 

          จากตัวตลาดอำเภอนาน้อยมีถนนลาดยางบ้างลาดฝุ่นบ้าง ไปจนถึงอำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นถนนสายที่เข้าไปยังป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยป่าเบญจพรรณประเภทมีไม้สักและไม่มีไม้สัก  ป่าดงดิบที่มีป่าต้นน้ำอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ยางแดง  กระบาก ตะเคียนทอง  และอีกหลายร้อยชนิด ล้วนแต่ต้นโตสูงใหญ่  มองดูรกครึ้มด้วยเรือนยอดที่ชิดติดกัน  เป็นป่าสองฟากฝั่งแม่น้ำน่านที่ไหลไปยังเขื่อนสิริกิติติ์ เป็นตัวกรองตะกอนและทำให้น้ำใสสะอาด ที่สำคัญเป็นป่าที่ดูดซับน้ำไว้มากมายเพื่อจะค่อยๆ ปลดปล่อยน้ำทีละนิดลงสู่ที่ต่ำกว่า แต่มีอย่างสม่ำเสมอ ตลอดเวลา

          ส่วนป่าเบญจพรรณทั้งประเภทมีไม้สักและไม่มีไม้สัก  มักจะมีไม้มะค่าโมง ไม้ประดู่ ไม้แดง  ไม้ปู่เจ้า  ไม้ชิงชัน  ไม้เก็ดดำ  ไม้เก็ดแดง   ฯลฯ แฝงเป็นไม้เนื้อแข็งชั้นดีและแฝงต้นอยู่ในป่าทั้งสองกรณีดังกล่าวเพียงแต่ป่าเบญจพรรณมักจะอยู่ในที่ราบต่ำหรือลาดเนินต่ำ หรือสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางไม่เกิน 600 เมตร  โดยเฉพาะพื้นที่ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำน่าน หรือป่า นน.3 ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์

          ก่อนถึงทางขึ้นดอยผาชู้ ป่าดงดิบผืนใหญ่แม่น้ำน่านฝั่งขวา 

มีด่านที่พวกเราชอบไปตั้งสกัดการขนไม้เถื่อน  จุดนี้เลยบ้านใหม่ไปเล็กน้อย บางทีก็นอนค้างกันทั้งคืนแต่ก็มักจะจับกุมไม่ได้เลย เพราะว่าหมาทางคงจะรายงานความเคลื่อนไหวจนไหวทันกันหมด  บางวันสายตรวจสำนักก็วิ่งรถไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมายปลายทางชัดเจน  เหมือนเลาะเลียบค่ายให้มอดไม้ตื่นกลัว 

                               

          วันหนึ่งบ่ายคล้อยราวๆ 16 น. สายตรวจวิ่งรถกลับจากการลาดตระเวนในป่าใหญ่เพื่อกลับสำนักพัฒนาป่าไม้ พอวิ่งไต่ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำน่านและกำลังไต่ขึ้นเขาสูงเพื่อที่จะข้ามสันปันน้ำ กม.16 สวนกับรถบรรทุกที่มีแต่หัวเครื่องส่วนกระบะกลับเปลือยอล่างฉ่าง เห็นแต่เหล็กแชสซีสีดำเป็นมันเท่าความยาวสิบล้อวิ่งสวนเข้าไปในป่า 

          รถกระบะสิบล้อเปลือยของใครวะ มณีอดสงสัยไม่ได้

          รู้สึกจะของสจ.อั๋น บ้านหนองห้านะครับ ประเสริฐตอบ

          แล้วทำไมวิ่งเปลือยแชสซีอย่างนั้นล่ะ  แปลกๆ ว่ะ

          ลองตามไหมพี่ สมชายถาม

          ไม่ละ เหนื่อยจัง พรุ่งนี้ลองวิ่งสวนเข้าไปดูก็แล้วกัน มณีเอะใจแต่ก็เหนื่อยกันมาทั้งวัน สายตรวจกำลังใจกล้าแข็ง แต่ร่างกายจะทนไหวไหมถ้าต้องบุกๆๆ ทุกวันทุกคืน

          สายวันรุ่งขึ้น สายตรวจสำนักเตรียมพร้อมแล้วยกขบวนย้อนกลับไปรอยเดิม  ตะวันฉายแสงจ้าบอกเวลากว่าสิบโมงเช้า  ปีศาจขาวควบตะบึงไปตามแรงเหยียบ  ผ่านขุนเขาต้นน้ำกาด ความเย็นจากไอป่าดงดิบโลมไล้ผิวกายยะเยือก  สายตาทุกคนสอดส่ายไปตามข้างทางซ้ายขวา หากมีร่องรอยล้อรถหรือเกวียนเข้าออกทางแยกใด  ผิดสังเกตก็จะลงไปตรวจสอบดู

          หยุดชิดซ้ายซิสมชาย  ถอยกลับไปหน่อย สมชายถอยหลังกลับช้าๆ

          ส่วนลงไปดูซิว่า รอยล้อรถเข้าหรือออกทางแยกนั่น มณีตะโกนบอกพวกหลังรถ

          รอยออกครับ  น่าจะออกไปนานแล้วครับ รอยลบเลือนไปมากแล้วครับ 

          สมชายออกรถแล้วเหยียบขึ้นเขาสูง พอพ้นถึงจุดสูงสุดก็จอดแล้วลงไปบิดเอวให้หายเมื่อย พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธ์

          แหมพี่  ตรงจุดนี้ถ้าตั้งอุทยานแห่งชาติต้องทำเป็นจุดชมวิวนะครับ เห็นสภาพป่าไม้สองฝั่งแม่น้ำน่านเต็มตาดีจริงๆ สมชายพูดพลางก็ก้มหน้าเงยหงายหลังดัดตนไปเรื่อยๆ

          พวกเราเห็นมานานแล้ว  คิดเหมือนกันเลย ประเสริฐพูดเสริมขึ้นบ้าง  มณีเดินไปยืนมองดูป่าเขียวขจีผืนใหญ่สองฝั่งแม่น้ำน่าน แล้วเดินกลับจะขึ้นรถ ประเสริฐรีบก้าวเข้าที่ ทุกคนพร้อม สมชายเร่งเครื่องเบาๆ รถก็ไหลลงไปตามความลาดชันของภูเขาสูง  สายตรวจวิ่งผ่านไปตามถนนลาดฝุ่นสีแดง หากพบแยกไหนผิดปกติก็ลงไปสำรวจหาร่องรอย ไม่มีก็เดินทางต่อ

          เป้าหมายคือบ้านโคก  อุตรดิตถ์  วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วกันนะ มณีพูดจบก็เอนพิงเบาะมองตรงไปข้างหน้า สักพักก็หลับคาที่นั่ง คอพับไปพับมา นานๆ ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทีหนึ่ง  จนถึงจุดหนึ่งสมชายรีบเรียกให้ตื่นนอน

          พี่ครับ  มีเสียงเลื่อยโซ่ดังมาแต่ไกลนะครับ  มณีตื่นขึ้นมาแล้วมองไปซ้ายทีขวาที

          ถึงไหนแล้วประเสริฐ

          พ้นดอนป่าเต็งรังจะเข้าเขตบ้านโคกแล้วครับ สมชายมองหาทางแยกและเสียงเครื่องเลื่อยโซ่ พลันเสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น สวัสดิ์ชี้มือไปทางแยกขวามือ

          โน่นครับ  รถกระบะสิบล้อเปลือยหัวซุกเข้าทางแยก  เร็วครับ พวกมอดไม้กำลังวิ่งหนีกันแล้ว สมชายจอดรถแล้วติดเบร็คมือ ทุกคนกระโดดลงแล้ววิ่งกรูกันไปยังรถกระบะสิบล้อเปลือยที่ขณะนี้มีกระบะติดได้ข้างเดียว แต่พื้นปูเรียบสนิทแล้ว  มีกองไม้กระบะรถวางไว้กองใหญ่ มณีเดินตามไปด้วยความฉับไว

          สวัสดิ์ยิงปืนข่มขวัญหน่อย สมชายตะโกนสั่ง  เสียงปืนดังก้องป่าสองนัดติดกัน ประเสริฐเดินเข้าไปยังรถสิบล้อ มณีตามไปติดๆ

          จับไม่ได้สักคนครับ  มันวิ่งไวจริงๆ เล้ย สมชายทำเสียงสูงแล้วยืนหอบ สา ทวี ประเสริฐเข้าตรวจสอบจำนวนไม้แล้วแยกกองตามขนาด

          ไม้ประดู่แผ่นใหญ่ทำกระบะรถสิบล้อ 8 แผ่น หน้า 36 นิ้ว หนา 1 นิ้วครึ่ง ยาว 4.50 เมตร เหล็กฉากเกาะยึดไม้กับแชสซี 40 ตัว น็อต 2 นิ้ว 160ตัว  ไม้ประดู่หนา 1 นิ้วครึ่งหน้าสิบนิ้ว 85 ตัว   ยาว 4.5 เมตร ตงประดู่หน้า 4 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว 35 ตัว เครื่องฉุดกำลังยันม่าร์ 1 เครื่อง  แท่นเลื่อยวงเดือนขนาดใบเลื่อยกว้าง 40 นิ้ว 2 ใบ ติดกับแท่นเครื่อง 1 ใบ กองอยู่ข้างๆ 1 ใบ ขวาน สิ่ว พร้าอีโต้ ค้อน  ตะปู 5 นิ้ว

          สมชายบันทึกการจับกุม  ได้รถกระบะสิบล้อเปลือย 1 คัน  และของกลางอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้น  ส่งคดีและเก็บรักษาของกลางตามระเบียบ  ส่วนรถกระบะสิบล้อเปลือยเป็นรถเช่าซื้อมาจากเอเย่นต์ขายรถสิบล้อในเมืองน่าน   บริษัทคงมาดำเนินการขอรับคืนได้อยู่แล้ว  ช่องว่างของกฎหมายหลายตัวช่วยให้การขโมยไม้ไม่สิ้นสุด  รถกระบะถอยออกมาได้ตามกติกา ถ้ายอมเคลียร์ตามระบบของตำรวจที่รับผิดชอบ ใช่  ป่าไม้จับ ตำรวจสอบสวนดำเนินคดี เหนื่อยไหมครับ!!

          เตะหมูเข้าปากหมาอีกตามเคย !!” สมชายต้องบ่นให้ได้ทุกครั้ง  ประเสริฐพยักหน้าเห็นด้วย

          ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะทำอะไร  อย่าคิดมากเลยน่ะ  มีหน้าที่ปกป้องป่าไม้ก็ทำไป กฎหมายให้ตำรวจสอบสวนก็หน้าที่เขา  เป็นความผิดพลาดที่กฎหมายบัญญัติไว้เช่นนั้น ฮั้วกันได้เราก็หงายเก๋งทุกที  แต่ก็พ้นความรับผิดชอบไปแล้วนี่ มณีบ่นแกมหยิกบ้าง

          เพราะว่าความไม่เท่าเทียมกันอย่างนี้แหละ บางทีไม่อยากจับชาวบ้านด้วยล้อเทียมวัวเลย  ถ้าส่งคดีทั้งล้อ ไม้ วัวและคน  ชาวบ้านก็โดนหนัก แต่พอจับตำรวจหรือข้าราชการก็ใจอ่อนเอาแต่ของกลาง คนและรถปล่อยไป ก็รู้สึกสะเทือนใจว่ะ  ผะอืดผะอมบอกไม่ถูก เหมือนรู้สึกผิดที่ไม่เที่ยงธรรม มณีติดลมบนสาธยายต่อยืดยาว สมชายเลยได้ทีแซว

          มิน่า ป่านศรนารายณ์ล้มมวยอยู่เรื่อย  เอาแต่ของกลางตีวัวลากล้อหนีกระเจิง  ต่อไปเอาแต่ของกลางคือไม้อย่างเดียวแล้วกัน  ได้คดีหนึ่งเหมือนกัน ชาวบ้านจะได้ลำบากน้อยหน่อย

          ก็ดี  ต่อไปทำแต่คดีไม่มีตัวแล้วกัน  ถึงอย่างไรสองขั้นสำนักเราก็ไม่มีทางได้เหมือนพวกอื่นเขา มณีรับคำประชด และตั้งใจจะถือปฏิบัติ เพื่อความเป็นธรรม 

ลดช่องว่างชนชั้น ประเสริฐเสริม

ดี มณีย้ำพลางก็นึกในใจ ไม่มีตัวตำรวจจะแย่งกันทำคดีไหม พลางหัวเราะฮึๆ 

สายตรวจปีศาจขาวกลับถึงที่ทำการบ่ายสี่โมงเย็น  ทุกคนกลับไปพักผ่อนและย้อนกลับมาฉลองผลงานที่หน้าสำนักเช่นเคย

คืนนั้นยังไม่ทันจะเลิกการฉลองรถกระบะสิบล้อเปลือย พี่ชัยออกมาจากป่านน.2 บ้านสันทะแล้วส่งคดีไม้แปรรูปแต่ไม่มีตัวคน ส่งมอบรถของกลางให้กับ ตำรวจ สภต.นาน้อย

หัวหน้า สิบล้อหัวหน้าตำรวจคืนของกลางให้ ส.จ.อั๋น ไปแล้ว กันเอง 150,000 บาทแค่นั้นเอง

พี่ชัยหัวเราะชอบใจ ทุกคนหัวเราะเหมือนเรื่องขำ  แต่รู้ทั้งรู้ว่า มันเป็นเรื่องที่เสียดแทงใจดำคนทำงาน สายตรวจสองสายจึงร่วมกันฉลองด้วยความครึกครื้นตามประสา คนตีงูให้กากิน

ขบวนการที่ดีอาจเป็นระบบวันสต็อปเซอวิส  เบ็ดเสร็จที่เดียว  ถ้าให้ป่าไม้มีหน้าที่สืบสวน  ปราบปรามจับกุม  สอบสวน  และส่งคดีขึ้นสู่ศาลโดยตรง  อาจไม่มีคำว่า ตีงูให้กากิน เพราะว่าถ้าจะกินก็จะกินกันเสียเอง  การคานอำนาจในระบบบริหารงานเป็นเรื่องดีถ้าทุกคนดี  แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ดี ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี

                       

เพราะว่าเรื่องการส่งคดีโรงพักนี่แหละเกิดเรื่องขำกันไม่ออกเมื่อคืนวันหนึ่ง ช่วงเวลา 23.55 น. สายตรวจสำนักพัฒนาป่าไม้กำลังเดินขึ้นโรงพักพร้อมตัวผู้ต้องหาสองคน  รถขนไม้เถื่อนสองตันหนึ่งคัน และไม้เถื่อนของกลางจำนวนมากกว่า 500 แผ่น/ชิ้น   สารวัตรสืบสวนรีบวิ่งจากบ้านพักมาทั้งชุดกางเกงนอน เพื่อมาขอรับคดีด้วยตนเอง

งานนี้ ผมรับเอง ร้อยเวรไม่ต้อง นี่คดีใหญ่มาก ร้อยเวรหน้าจ๋อย จ่าเวรกับสิบเวรก็หน้าจ๋อยไปด้วยเช่นกัน มณีและคณะขำกลิ้งแต่ก็ทำทีไม่รู้เรื่อง

แหม ! ดีจังครับ  จะได้เอาให้เข็ดเสียที เต็มที่เลยนะครับ

มณีและคณะลากลับด้วยความสุขและอารมณ์ขบขัน  อีกสองวันต่อมา ได้รับรู้ว่าคดีดังกล่าวเกิดกรณีพิพาทที่โรงพักระหว่างสารวัตรสืบสวนกับร้อยเวรและคณะ  สารวัตรใหญ่แก้ปัญหาด้วยการจัดการเสียเองทั้งสิ้น

งานนี้ มากหมอคนไข้ตาย และเข้ากับภาษิตโบราณ “ตาอินกับตานา” ยังไงยังงั้น

 

Tags : Forester life เสือกลิ่นสาบ อินทรีดำ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view