http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,956,369
Page Views16,262,655
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

มูลนิธิเปาอินทร์สัญจรร่อนไปเยี่ยมญาติที่ระยอง โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ-ธงชัย-นิวัตร เปาอินทร์

มูลนิธิเปาอินทร์สัญจรร่อนไปเยี่ยมญาติที่ระยอง  โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ-ธงชัย-นิวัตร เปาอินทร์

 

                                      มูลนิธิเปาอินทร์สัญจรร่อนไปเยี่ยมญาติที่ระยอง 

                                                                                  โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ-ธงชัย-นิวัตร เปาอินทร์

 

             ต้นเรื่องของการประชุมสัญจรเพื่อถือโอกาสไปเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องที่อยู่ในท้องที่จังหวัดระยองและใกล้เคียง มีมติเอกฉันท์ครั้งไปงานของคุณพี่วินิจ เปาอินทร์ ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี คณะกรรมการที่ร่วมเดินทางไปกับพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานมูลนิธิฯ กำหนดวันที่ 31 กรกฎาคม 53 และวันที่ 1 สิงหาคม 53  กลุ่มหนึ่งไปด้วยกันในรถตู้ ที่เหลือแยกกันไป จุดหมายปลายทางอยู่ที่ท่าเรือเกาะเสม็ด เพื่อข้ามไปเกาะเสม็ด พักที่รีสอร์ท หาดทรายแก้วรีสอร์ท จ.ระยอง(Sai Kaew Beach Resort,Koh Samed,Rayong Province,Thailand)

                                                    เปาอินทร์กรุงเทพเดินทาง

             แต่แล้วเมื่อล้อหมุนไปใกล้ถึงบ้านฉางระยอง  พวกเราคิดถึงพี่สาวคนหนึ่งซึ่งอาวุโสสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ คณะกรรมการมูลนิธิจึงได้แวะไปคารวะตามประเพณีที่ดีงาม สร้างความอบอุ่นใจให้กับพี่น้องทุกผู้อย่างทั่วถึง ได้เห็นเจ๊เฮียงเปาอินทร์ (84 ปี) ยังแข็งแรงและขยายกิจการเพิ่มมาอีก 1 อย่าง ได้แก่การผลิตน้ำดื่ม "เต็งหนึ่ง" นอกจากธุรกิจตลาดนัดเอย เงินทุนสำหรับหมุนเวียนเอย ฯลฯ ได้พบหลานๆที่ขยันขันแข็งช่วยคุณย่าทำงานตัวเป็นเกลียวก็รู้สึกปลาบปลื้มกันทุกคน ได้เชื้อดีไปก็ต้องดีซิหนอ

                  

                                                    เจ๊เฮียง เปาอินทร์

             เจ๊เฮียงพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันที่หาดพลา ได้กลิ่นทะเลและได้บรรยากาศ สมกับมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่อยู่จังหวัดระยอง หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องร่ำลาเจ๊เฮียงด้วยความเคารพ เพื่อไปสมทบกับประธานกรรมการมูลนิธิที่รออยู่ที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว พอครบทีมก็ล่องเรือสปีดโบ๊ทเร็วรี่ สายน้ำแตกกระจายเป็นฟองขาวละออตา ท้องฟ้าเป็นใจใสกระจ่าง สวยซึ้งไม่เบา แต่เสียงเรือและแรงกระแทกกับคลื่นในทะเลเล่นเอานั่งก้นไม่ค่อยติดกระดานเชียว

                                รอเรือ                                                         รอลง

              เรือเทียบหน้าหาดทรายแก้วบีชรีสอร์ท  เกาะเสม็ด ระยอง ตามที่ผู้ประสานงานได้โทร.จองไว้  ตื่นเต้นนิดๆที่กำลังจะได้ลงไปย่ำชายหาดที่นวลตายิ่งนัก เม็ดทรายละเอียดดังผุยผง น้ำทะเลสีครามช่างงามซึ้ง นักท่องเที่ยวที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติประปราย ไม่แน่นจนแทบไม่มีที่เดิน การมาท่องเที่ยวเกาะเสม็ดในช่วงโลว์ซีซัน(Low Season) ก็ดีไปอย่าง แต่ก็ดูเหงาๆ เหมือนว่า ร้านอาหารไหนไม่ค่อยมีคนเข้าไปแย่งกันกินก็ดูน่าจะไม่อร่อยลิ้น รีสอร์ทที่เราพักแรมคืนละ 2,000 บาท มีผ้าเช็ดตัวห้องละ 2 ผืน สบู่ก้อนจิ๋ว 1 ก้อน/2คน เหมือนในโรงแรมชั่วคราว(ม่านรูด) ไม่มียาสระผม ค็อตต้อนบัด หมวกคลุมแต่อย่างใดฯลฯ 

                                                 ภาพที่เห็นเย็นตาชวนลงเล่นน้ำ

              ผลัดเสื้อผ้ากันแล้วก็เดินเล่นชายหาด เป็นช่วงเวลาพักตามอัธยาศัยของใครของมัน บ้างก็นอนแผ่อยู่บนห้อง บ้างก็นั่งสมาธิทำใจที่ได้มาเที่ยวแบบคาดไม่ถึง บ้างก็เดินหามุมถ่ายรูปตามใจชอบ แต่มีเหมือนกันที่ลงเล่นน้ำทะเลเฮฮาตามประสาหนุ่มๆสาวๆ พวกคอทองแดงในอดีตเช่นน.พ.เลี้ยง เปาอินทร์ พ.ต.อ.อนันต์ เปาอินทร์ รองผู้ว่าช่วงชัย เปาอินทร์ เสี่ยโกเมศร์ เปาอินทร์ ฯลฯ วันนี้วัยล่วงเลยกว่ากาลเวลาที่เหมาะสม จึงเหลือแต่คนดีของครอบครัว สุรายาเมาเป็นของไม่ดี(เมียมาด้วยว่ะ) 

                                          นั่งเรือเร็วด้วยความร่าเริง แต่ก็เสียวๆ

              ค่ำคืนที่น่าตื่นตะลึงเริ่มขึ้น เมื่อตะวันโรยลับขอบเขา แสงสีเริ่มพราวพรายไปทั่วชายหาด เสื้อปูนั่งดื่มสัมผัสบรรยากาศภายใต้แสงเทียนหรู และดูช่างมีอารมณ์โรแมนติกเสียนี่กระไร หากว่ายังหนุ่มเหน้าอย่างเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ก็คงจะรู้สึกว่า "ต้องไปนั่งจับเหยื่อ  เอ้ย..อ่อยเหยื่อ" แต่วันนี้ มาเยือนเกาะเสม็ดเพชรเม็ดงามของระยอง เมื่อยามวัยโรยรา ก็ได้แต่เหลือบตาแลแล้วกลับมาจ้องรอรับใช้บรรดาคุณนายที่เหน็บมาด้วย(ที่แท้เมียมาคุม)

                   

                                          รับประทานอาหารร่วมกันแล้วประชุม

               อาหารค่ำท่ามกลางความสนุกสนานช่วยให้บรรยากาศเริงร่า  เสียงกระเซ้าเหย้าแหย่ดังไปทั่วโต๊ะอาหาร สีหน้าแววตาดูมีความสุขที่ได้มาอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง 

               มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นที่ต้องกล้ำกลืนฝืนกินอาหารทะเลที่ไม่สดและไม่ได้ขนาดให้สมกับราคาค่างวด เช่นปูม้านึ่งขนาดจิ๋วตัวใหญ่กว่าเหรียญสิบนิดหน่อย (ปูม้ามี 3 ขนาดคือ ใหญ่กก.ละ 250 บ. กลางกก.ละ 180 บ. และจิ๋ว กก.ละ 100 บ.    อันนี้เป็นราคาจากประมงเรือเล็กชายหาด

พยูน) ส่วนที่นี่จะขายเท่าไรก็ไม่มีใครว่า กุ้งขาวขนาดเล็กก็ไม่สด   แกงป่าที่มีรสชาติจืดชืดยังกับน้ำล้างครก  ต้มยำที่ออกรสชาติฝรั่งมากไปหน่อย เหมือนไม่ใช่ต้มยำ แต่พวกเราเป็นคนไทยทั้งหมดชอบรสชาติไทยๆก็เลยเซ็ง อาหารหลายอย่างที่สั่งมีเพียงปลาทอดน้ำปลาอย่างเดียวที่พอกินได้  แต่ No Good Sae Food - Bad Service ว่างั้นเถอะ เข็ดจนตายเลย

                    

                                           คณะกรรมการมูลนิธิเปาอินทร์สัญจร

                เจ้าของรีสอร์ทเป็นคนรู้จักกันมามากกว่า 50 ปี  จึงคิดว่าดีกว่าไปพักรีสอร์ทที่ไม่รู้จักกันเลย แต่ก็มาท่องเที่ยวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปเตรียมบวกลบคูณหารกันเรียบร้อยตามอัตราที่พอจะได้ข้อมูลจากพนักงานที่ติดต่อ  ไม่ได้หวังว่าจะมาขอกินฟรี พักฟรี ญาติพี่น้องทั้งตระกูลเปาอินทร์ล้วนมีกะตังส์ ตั้งทรัสต์ก็น่าจะได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อตัดสินใจตามคำแนะนำพี่สะใภ้คนหนึ่ง ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับเจ้าของมาก ก็เลยหลวมตัวไปเต็มอัตราศึก ทำให้เสียความรู้สึกไปถนัดใจ

                ที่เขาว่ากันว่า จะกินอาหารร้านไหนก็ขอให้เลือกร้านที่มีคนกินเยอะๆเถอะ ไม่ผิดหวังแน่นอน ก็จริงซะแล้วคราวนี้

                   

                                พระอภัยมณีกับนางเงือกที่กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง

               ในราตรีที่มีแสงไฟหลายหลากสีสันอย่างกับงานมหกรรมบนชายหาด หลังอาหารพี่น้องท้องเปาอินทร์กลับนั่งเสวนากันอย่างกับประชุมใหญ่ บรรยากาศการเสวนาเครียดแล้วก็ครื้นเครงสลับกันไป มีเสียงถามมาจากพนักงานของรีสอร์ท

               "ไม่ไปเทคหรือครับ ข้างๆรีสอร์ทแห่งนี้เอง"

               "บนเกาะเสม็ด อุทยานแห่งชาตินี่นะ มีเทค" ผมอดใจไม่ไหวก็เลยเผลอปากย้อนถามไป 

               "มีครับ มีหลายแห่ง มีทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ครับ นี่ผมก็กำลังจะไปอยู่" พนักงานรีสอร์ทให้ข้อมูลแล้วก็รีบเดินจากไปด้วยกริยาอาการ "อยาก" 

 

                    

                          พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์กับคณะกรรมการมูลนิธิเปาอินทร์สัญจร

               "ในหลักการจัดการอุทยานแห่งชาติ มีระเบียบไม่ให้นำสุรายาเมาเข้ามากิน  ไม่เปิดเพลงเสียงดังจนรบกวนคนอื่น ไม่แต่งแต้มสิ่งก่อสร้างและร้านอาหารผิดสี(สีน้ำตาล-สีขาว-สีทอง) ต้องดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ในอดีตเกาะเสม็ดก็เป็นเช่นนั้น บังกาโลไม้ระกำ หลังคาหญ้าคา หรือใบจาก กระเบื้องหรือสังกะสี"

                "แต่วันนี้อาคารเป็นตึกสูงหลายชั้น สีสันแพรวพราว และเปิดดนตรีกันดังสนั่นลั่นหาด อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้รีสอร์ททุกแห่งเช่าที่จาก ราชพัสดุ อันอาจจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายทับซ้อนกับพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 มาตรา 3 ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวหรือม่"

                      

                                 แสงสีชวนเมาสุดๆ      นี่หรืออุทยานแห่งชาติเกาะเสม็ด

               เดิมทีเดียวเกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ทหารเรือขอใช้ประโยชน์ ต่อมากรมป่าไม้ประกาศพระราชกฤษฎีกาทับให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ทั้งบนบกและในท้องทะเล แต่ในการประกาศทับครั้งนั้น มีชาวประมงอาศัยทำกินอยู่บนเกาะแห่งนี้กว่า 30 ราย ต่อมา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เข้าทำการจับกุมข้อหาบุกรุกอุทยานแห่งชาติขึ้น จึงมีคดีความที่ขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่เริ่มเปลี่ยนเป็นรีสอร์ท และบางส่วนขายให้กับนักธุรกิจจากที่อื่นๆ เข้ามาทำรีสอร์ท

                ต่อมานายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ไปตกลงกับจังหวัดระยอง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้กันพื้นที่ส่วนที่เป็นรีสอร์ท(ซึ่งมีเจ้าของกิจการมากกว่าเดิม)รอบเกาะเช่าที่ดินจากราชพัสดุจังหวัดระยอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกาะเสม็ดก็เจริญด้วยสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ร้านค้านานาชนิด บาร์เบียร์มีทั่วทุกชายหาด และเครื่องเสียงกระหึ่มไปอย่างกับเกาะสมุยและเกาะภูเก็ต 

                     

                                               บาร์เบียร์ชายหาดทรายขาวละออ..แต่

                ผมไม่ใช่นักกฎหมายแต่อ่านกฎหมาย ก็เลยสงสัยอยู่บ้างว่า เป็นการแก้ไขปัญหาถูกต้องหรือไม่ เป็นการบังคับใช้กฎหมายทับซ้อนหรือไม่ ขัดกับเจตนารมณ์ของมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติพ.ศ.2504 หรือไม่  การขออนุญาตสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่อุทยานผ่านระบบความกลมกลืนมาได้อย่างไร อะไรมันไปค้ำคอหรือไม่ มือก็เลยลงนามตามสั่งไปหมด  ต่อไปเกาะเสม็ดจะเป็นเช่นไร  จะมีสาวนู๊ดรูดเสาเหมือนที่พัทยาไหม ใครจะเข้ามาบริหารจัดการทรัพยากรที่เสื่อมทรามเหล่านี้ได้หรือไม่ หรือจะปล่อยกันไปอย่างกับว่า "แผ่นดินนี้เราจองกระนั้นหรือ"  

                "สว.เรืองไกรอยู่ไหน" ช่วยด้วย 

                     

                                                  โรแมนติกฉิบ........เป้งเลย

               คืนนั้นทุกคนนอนหลับไปกับห้องแอร์ แต่แล้วตกดึกสงัดก็ดับไปทั้งเช้า ก็ไม่รู้ว่ามันไฟปั่นหรือไฟหลวง แต่ก็เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่ก  ครั้นเปิดหน้าต่างก็ไม่มีมุ้งลวด ยุงก็เลยเข้ามารุมเอาเสียอีก ตื่นเช้ามาก็มาบ่นกันระงม โอ้ พระเจ้าจอร์จ  อาซ้อสายทิ้งอยู่ไหน?  

                  ภาพเก่าเล่าเรื่องได้เสมอ                                   โอ่งจากจีนและตาชั่งเก่า

                คณะกรรมการมูลนิธิได้ขึ้นฝั่งเรียบร้อยดี (ค่าเรือ 4,000 บาท) รายการต่อไปก็แวะรับประทานอาหารกลางวันร้านเจ๊กิมห่อคนดังเมืองเพ ซึ่งเจ๊กิมห่ออุตสาห์มาลงมือทำอาหารด้วยตนเอง ได้รสชาติและได้เสวนาการบ้านการเมืองกันหลายเรื่อง ด้วยว่าเจ๊กิมห่อไม่ได้ลงเล่นการเมืองแต่น้องๆล้วนเป็นนักการเมือง จนได้เวลาก็ร่ำลากันตามธรรมเนียม แล้วเดินทางต่อไปยัง "ตลาดเก่าเมืองระยอง" ซึ่งมีพี่น้องของเราชื่อนิวัตร เปาอินทร์ ช่างภาพอัจฉริยะ ศิลปินดีเด่นจังหวัดระยอง เป็นผู้มีส่วนร่วมในการริเริ่มและสานงานอยู่ตลอดเวลาหลายปี

                             นิวัตรกำลังอธิบายให้พล.ต.ท.วิโรจน์ ผู้พี่ฟังเรื่องราว

                ที่นี่พวกเราได้ชมพิพิธภัณฑ์ตลาดเก่าเมืองระยอง ได้แนวความคิดและได้รู้เรื่องราวจากนิวัตรมากมายหลายอย่าง ได้เห็นผลงานที่นิวัตรเล่าว่าเริ่มจากคนแก่(เฒ่านั้ง)สี่ห้าคนคุยกันและลงมือทำ ในที่สุดพี่น้องทั้งถนนยมจินดาก็ให้ความร่วมมือ ลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างสรรค์และช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมไว้ได้อย่างสวยงาม กลายเป็นถนนคนเดินทุกเสาร์อาทิตย์ มีร้านค้าที่เปิดให้ซื้อหาสิ่งของได้ มีร้านอาหารแปลกๆ มีร้านของนักสะสมตัวจริงที่ไม่ยอมขายสิ่งที่สะสม รวมทั้งห้องนิทัศนการภาพถ่ายฝีมือนิวัตร เปาอินทร์ หนังสือสะสมนับพันๆเล่ม 

          

                   หมากรุกเพลินเลย                                                สนใจ มองกันจนเหม่อ

                  "พี่น้องมาดูเพื่อจะเอานิวัตรกลับไปบ้านที่อ่างทอง" ผมเล่าให้นักสะสมของเล่นฟัง

                 "โฮ!! แล้วใครจะดูแลที่นี่ละครับ" นักสะสมหนุ่มอุทานเสียงดัง

                 "มาเอาตัวไปช่วยจัดพิพิธภัณฑ์ของตระกูลที่เป็นอาคารโรงสีเก่า แต่ทุกวันนี้สร้างใหม่ด้วยรูปลักษณ์เหมือนเดิม เพื่อให้เป็นห้องภาพเล่าเรื่องของวงศ์ตระกูลครับ ไม่ได้มาเอาไปเลยทีเดียว เสร็จงานก็ปล่อยกลับมายังที่ที่เขาชื่นชอบและอยู่อย่างมีความสุข" นักสะสมยิ้มเต็มใบหน้า

                   

                                                       ความสุขของนักสะสม

                   ในการจัดพิพิธภัณฑ์ตระกูลเปาอินทร์นั้น ทุกครอบครัวทุกสาย(11 สายหลัก)จะต้องจัดเตรียมรูปภาพ วัสดุสิ่งของเครื่องใช้ทั้งในการอุปโภคบริโภค  ครก กระต่ายขูดมะพร้าว มีดพร้า ตาชั่ง โม่แป้งโบราณ เบ้าขนมครก ถ้าบ้านไหนเคยต้มเหล้าขายก็อย่าลืมเอาไห จู๋ โอ่ง ถัง พร้อมอุปกรณ์ ลูกแป้งไม่ต้องเอามาเดี๋ยวโดนสรรพสามิตจับ  ส่วนกะลาที่ใช้ขายน้ำตาลเมาเอามาได้ หรือขันตั้งน้ำเวลาตีไก่ชนก็เอามาได้ โหลเหลี่ยมปลากัด  สุ่มไก่ชน ตะข้องใส่ปลา เบ็ดตกปลา รอบดักกุ้งและปลา ผืนยอ แห ผ้านุ่ง ผ้าโจงกระเบน ฯลฯ ขนมาเลย เดี๋ยวนิวัตรจัดให้งดงามอร่ามตาแน่ๆ

                   

                              พี่วินิจ เปาอินทร์ เยี่ยมชาวเกาะคุณชวลี หาดทรายแก้ว

              การเดินทางมาประชุมสัญจรครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง(ครั้งแรกกาญจนบุรี)ที่มูลนิธิจัดขึ้น เพื่อสานสัมพันธ์ให้ญาติพี่น้องได้ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับปีหน้านี้ 2554 พี่น้องชาวระยองฮิ!รับเป็นผู้จัดงานสังสรรค์ตระกูลเปาอินทร์ประจำปี จึงได้ถือโอกาสนำพาคณะกรรมการและญาติพี่น้องไปชมสถานที่ที่เต้นฮูล่าฮุก เอ้ย ไม่ใช่น่า  ได้เลือกชมกันหลายแห่ง แต่น่าจะได้ที่ชายหาดพยูน (ดูภาพประกอบ) มีรีสอร์ทและโรงแรมให้เลือกนอนได้ สนนราคา 1,000 บาทขึ้น

                     

                                               สจ.สุรินทร์ เปาอินทร์และภรรยา

               เมื่อได้เดินชมสถานที่ที่ สจ.สุรินทร์ เปาอินทร์ เจ้าของกิจการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเจ้าใหญ่ "ส.โชคชัย รวมเศษ" บ้านฉางนำชมแล้วรับปากว่าทุกอย่างขอรับผิดชอบเต็มพิกัด ทุกคนก็ยิ่งพึงพอใจและวาดหวังว่าจะได้มาเยี่ยมเยือนพี่น้องตระกูลเปาอินทร์ถึงถิ่นระยองถิ่นที่บรรดาญาติพี่น้องของเราได้มาลงหลักปักฐานกันมั่นคง เช่น เรียม รัชพงษ์ไทย  บุญทิ้ง เปาอินทร์ ฯลฯ จำชื่อจริงนามสกุลจริง(แต่งงาน)ไม่ได้อีกหลายคน แต่ทุกคนก็รู้สึกได้ว่า ตื่นเต้น และดีใจ การสังสรรค์เปาอินทร์ทุกปีจัดงานกันที่บ้านห้วยคันแหลน หน้าโรงสีเอี่ยมถ่ายฮวดติดต่อกันมากว่า 40 ปีแล้ว

                   

                                                         หาดพยูนที่เตรียมจัดงาน

               ด้วยว่าญาติพี่น้องมีมากกว่าพันคน หากรอเพียงงานแต่ง งานบวชและงานฌาปณกิจแล้วไซร้ ก็ย่อมจะต้องเหินห่างกันไปไม่น้อย แต่นั่นก็เป็นประเพณีแล้วว่า ญาติคนใดมีงานมงคลหรืออะมงคลก็ตาม จำเป็นต้องแจ้งเวียนเพื่อให้พี่น้องรับรู้และได้มีโอกาสไปร่วมงาน  แถมได้พบปะกันและกัน ได้รู้สารทุกข์สุกดิบกันและกัน การเดินทางมาประชุมสัญจรครั้งนี้ จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีเพื่อความเหนียวแน่นและความกลมเกลียวของพี่น้องมากยิ่งขึ้น ก่อนจากลา สจ.คี้ (สุรินทร์) พาไปกินหัวปลาหม้อไฟเจ้าอร่อย กุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ สะใจจริงๆ

 

      รีสอร์ทที่เตรียมให้พัก 10 หลังมีสระว่ายน้ำ                     สมาชิกเข้าประชุมเคร่ง

                     

                                                     ประชุมโต๊ะกลมกันอีกรอบ

Tags : Sai Kaew Beach Resort Samed Rayong หาดทรายแก้วบีชรีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view