http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,066,955
Page Views16,379,321
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน 7.เจ้านางคำปลิว

วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน 7.เจ้านางคำปลิว

วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด

โดยเอื้อยนาง

ตอน 7. เจ้านางคำปลิว

         ไฟกองโตลุกโพลง   ขับไล่ความมืดและหนาวเย็นไปได้บ้าง  หนุ่มโย่งล้มตัวลงนอนข้างกองไฟ  ส่วนกิ่งคำปายพอใจจะเข้าไปเบียดวอมแบต  กับแม่เฒ่านาไบในโพรงมากกว่า   ทวดคำปลิวในร่างวอมแบตตอนนี้ก็สงบเสงี่ยมเงียบหงิม  จนกิ่งคำปายไม่แน่ใจว่าทวดยังอยู่หรือไม่  กระนั้น

ก็ยังเบียดหลังพิงอิงแอบเอาความอบอุ่นจากขนนุ่มนิ่มของเจ้าสัตว์น้อย

         ลมต้องสนเสียงดังหวีดหวิว  กิ่งคำปายแว่วๆ ได้ยินเป็นเสียงยายสร้อยสายคำกำลังขับกล่อมให้นอน  น้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเสียงลมอ้อนปลายไผ่ แกว่งไกว

โยกโยนดังอยู่แว่ว ๆ

นอนสาหล้าหลับตาแม่สิกล่อม....

สายใจสายคอของยายเอย นอนเถิดหนาหลับตานอนอู่

นกอีจู้มันกู่มันร้อง

มันมากล่อมน้องให้นอนหลับตา

พ่อไปไฮ่ปิ้งไก่มาหา

แม่ไปนาปิ้งมามาป้อน

เจ้าอย่าอ้อนนอนอู่สายคำ....

            ดึกมากแล้ว น้ำค้างพร่างพรม แต่ลมกลับนิ่ง เสียงนกและสัตว์ป่าบางชนิดกู่

ร้องก้องดัง  ฟังเหมือนเสียงเด็กร้องไห้แว่วมาจากที่ไกลๆ  สองคนกับหนึ่งสัตว์ขดตัวเข้าในโพรงไม้แคบๆ  แล้วหลับใหลด้วยความอ่อนเพลีย

 

นอนสาเด้อหล้าหลับตานอนอู่

เจ้าผู้ฮู้นอนอู่สายไหม

ลูกผู้ใด๋สายใจนอนอู่

เป็นลูกสูมาเอาไปมื้อนี้

ข้ามแต่นี้นางเป็นลูกกู...อื่อ  อือ อ อ...จ๊ะ

                             

           เสียงเห่กล่อมในพิธีสู่ขวัญรับเอาเจ้าคำปลิวทารกน้อยจบลงด้วยเสียงร้อง จ๊ะ...ของหญิงชราผู้เป็นย่าของเจ้าหนูน้อย ก่อนวางร่างเล็กจิ๋วในอ้อมแขนลงในเปลอย่างแผ่วเบา และนุ่มนวล

เสียงร้องดังจ้า เมื่อเปลถูกแกว่งไกว ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายที่รายล้อมแย้มยิ้มอิ่มใจ ทยอยกันเข้าผูกข้อมือเล็กๆ นั้นด้วยสายสิญจน์

มาเยอขวัญเอย

เมื่อวานเป็นลูกผี

วันนี้เป็นลูกคน มาเย้อ...

          “นาชังอะไรอย่างนี้ ปากอิ่ม แก้มนิ่มเป็นสีกุหลาบเชียว”

           “เอาผูกเบื้องซ้ายขวัญมา  ผูกเบื้องขวาขวัญอยู่เน้อ”

           “ดูผิวเจ้าผิวผ่องดังทองคำเชียว เจ้าชื่อคำปลิวก็แล้วกันนะ...ขอให้ใหญ่กล้าหน้าบานเร็ววันเป็นหลานขวัญหลานแก้วของย่าเด้อ”

           ผู้เป็นย่าคือเจ้านางแห่งนครจำปาศักดิ์เอ่ยอย่างชื่นชมผู้ที่ร่วมในพิธีต่างเออออ อื้ออึง  ด้วยชื่นบานหรรษา   ต่างขานรับด้วยคำเพราะเสนาะหู  อิ่มเอม  เปรมใจกับผู้เป็นเจ้าปู่ เจ้าย่า  และเจ้าหลานผู้เป็นทารกน้อยเพิ่งลืมตาดูโลกได้ครบสามวันในท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้ก ของแขกเหรื่อที่มาห้อมล้อมแห่แหนนั้น ผู้เป็นแม่ของคำปลิวเจ้าตัวน้อย กลับนอนนิ่ง  เหม่อลอยอยู่ข้างคีไฟ  น้ำในหม้อที่ตั้งบนก้อนเส้าเดือดปุดๆ กลิ่นสมุนไพรโชยชายหอมกรุ่น   กระบวยอันน้อยด้ามไม้สลักลวดลายนาคสองตัวตวัดพันเกี้ยวกอดวางพาดอยู่บนปากหม้อ

            นานเท่าไหร่แล้วหนอที่ผู้สลักลวดลายนั้นไม่ได้กลับมาใช้และจับต้องมันอีก นานเท่าไหร่แล้วที่ตัวเขาจากไปทิ้งไว้แต่ลูกในท้อง  และสิ่งของอันเป็นฝีไม้ลายมือให้คนอยู่หลังคำนึงถึง หญิงสาวมองทุกคนชื่นชมลูกน้อยแล้วน้ำตาไหลซึม ใช้มือข้างหนึ่งป้ายน้ำตา   อีกมือหนึ่งควานเข้าไปใต้หมอน  ดึงสิ่งหนึ่งออกมามองดูมันผ่านม่านน้ำตา

            “อิ่นอ้อยออยคำตัวนี้พี่ให้เจ้าเก็บไว้แทนใจ   ส่วนอีกตัวนี้ที่เป็นคู่ของมันพี่เก็บเอาไว้ติดตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง  ที่จริงมันต้องอยู่คู่กัน มันเป็นตัวผู้กับตัวเมียเจ้าดูซี...”

            เสียงเขาชี้ชวนให้ดูหอยสีชมพูเลื่อมมุกมันปลาบ ตัวเล็กๆ เท่าเหรียญคำ ลักษณะกลมนูนด้านหนึ่ง แต่อีกด้านกลับแบนราบมีร่องขดเป็นวงลงลึกเป็นปากหอย  สองตัวมีวงเวียนไม่เหมือนกัน 

            “ตัวของเจ้าเวียนซ้าย  จำไว้ตัวของอ้ายนี่เวียนขวา  มันเป็นคู่รักกันอยู่ด้วยกันมาแต่ไหนแต่ไร แม้อ้ายจะนำตัวหนึ่งจากไปไกล แต่มันสองยังครองใจเหมือนกับเราทั้งสองยังครองรักกันอยู่  แม้ห่างกันคนละฟากฟ้า มันก็เหมือนยังอยู่คู่กัน ด้วยมีสายใยแห่งรักร้อยเข้าไว้ด้วยกันตลอดเวลา เจ้าคอยอ้ายนะ เจ้าคอยอิ่นอ้อยก็คอยด้วย”

              ทารกน้อยในเปลร้องจ้า ท่ามกลางเสียงผู้ใหญ่พูดจาหัวเราะหยอกล้อ ชื่นชม ต่างนำเงิน กำไล สายสร้อยที่นำมาเป็นเครื่องรับขวัญวางลงข้างกายเด็กน้อย จนเปลหนักอึ้งเจ้าคำปลิวตัวน้อยกลับร้องไห้ดังลั่น  ร้องไปเหยียดยาวราวกับจะขาดใจ ใครต่อใครต่างผลัดกันเข้าไกลเปลกล่อม แต่เสียงร้องนั้นกลับดังยิ่งขึ้นราวกับถูกขัดใจใหญ่หลวงนัก  ผู้ที่มาชุมนุมในหอคำ(คฤหาสน์)ของเจ้าเมืองเริ่มมองหน้าสบตากันด้วยแววกังวล

              เด็กอาจหิวนมกระมัง  ผู้เป็นเจ้าย่ายื่นมือช้อนผ้าแพรที่ห่อหุ้มร่างเล็กจิ๋วแต่เสียงจ้านั้น  อย่างเบามือทะนุถนอม  พาไปให้แม่ผู้ยังนอนอยู่ไฟเพื่อให้นม  แต่ปากน้อยๆ ไม่ยอมงับเอาหัวนมยังคงอ้ากว้างส่งเสียงร้อง เอาเป็นเอาตาย

             “ เจ้าปู่เล่ามาผูกแขนรับเอาขวัญหลานแล้วหรือยัง”

             ใครบางคนตะโกนแข่งเสียงเด็กออกไปที่โฮงกลาง อันเป็นห้องโถงใหญ่ ใช้เป็นที่ชุมนุมญาติพี่น้องและไพร่พลของเจ้าเมือง   เจ้าโฮงและแขกเหรื่อกำลังนั่งดื่มกินสรวลเฮฮากันอยู่ที่นั่น

              “ใครว่ากันล่ะ ก็ข้ากำลังจะมา หลานของข้าข้าไม่รับแล้วใครจะรับได้”

             ชายผู้เป็นผู้ใหญ่กว่าคนทั้งปวงในที่นั้น   และเป็นเจ้าปู่ของทารกน้อยว่าพลางเดินผึ่งผายมาหา   ก้มลงกระซิบกับเจ้าน้อยผู้อ้าปากร้องไม่หยุดเบาๆ  เว้าวอนเสียงอ่อนโยน  แล้วเป่าขม่อมน้อยๆ  นั้นแผ่วผิวสามครั้ง โอม...เพี้ยง...ๆ....ๆ ...ก่อนใช้ของบางสิ่งสวมลงที่คอน้อย เป็นสร้อยเงินเส้นยาวพร้อมจี้ที่ทำขึ้นเพื่อบรรจุเครื่องรางโดยเฉพาะ   ลักษณะเป็นตลับรูปร่างกลมรีสลักลวดลายพญานาค มีเดือยเล็กๆ ด้านข้างสำหรับเปิดปิด

             เสียงร้องเงียบลงเป็นปลิดทิ้ง  ตลับเงินใบจิ๋วลายพญานาคสะท้อนแสงแวววับอยู่กับแพรไหมที่ใช้ห่อหุ้มเจ้าตัวน้อย

             “นี่เป็นของฝีมือพ่อของเจ้าทำขึ้นเองนะ  หากเขาอยู่ที่นี่เขาคงจะดีใจมาก”

              เจ้าปู่กลืนก้อนที่จุกแน่นในอกลง  เป่าขม่อมน้อยๆ  อย่างแผ่วผิวอีกทีหนึ่ง แล้วกลับไปที่กลุ่มเดิม คนอื่นๆ ต่างลุกขึ้นทยอยกันตามไปร่วมวง   ยังเหลือแต่นางพี่เลี้ยงที่คอยดูแลฟืนไฟและแม่ลูกอ่อนผู้นอนอยู่ข้างคีไฟ(รางตั้งเตา หรือก้อนเส้าสำหรับก่อไฟในบ้านเรือน)

               “อย่าลืมดื่มน้ำร้อนมากๆ นะเจรียงทอง  มันช่วยขับน้ำคาวปลาถ่ายเลือดถ่ายลมให้คนอยู่ไฟดีที่หนึ่งเลยหละ อย่าคร้านในการดื่มกินและอาบน้ำร้อน  ทาขมิ้นผสมไพลให้ผิวผ่องนะลูก  เดี๋ยวเจ้าราชวงศ์ลูกชายข้า กลับมาเขาจะได้เห็นเมียที่สวยสาวราวกับเป็นสาวขึ้นใหม่เทียวแหละ”

               เจ้าแม่แห่งนครจำปาศักดิ์สั่งลูกสะใภ้ผู้กำลังอยู่ไฟ  แล้วตามหลังสวามีและคนอื่นๆ ไป ทิ้งให้เจรียงทองแม่ลูกอ่อนนอนนิ่งอยู่ข้างเตาคีไฟเพียงเดียวดาย

              “เดี๋ยวเจ้าราชวงศ์กลับมา...เมื่อไรเล่าเขาจะกลับมา”

              ประโยคนั้นตอกย้ำเป็นคำถามที่ไม่เคยมีคำตอบของสาวแม่ลูกอ่อนเจรียงทอง ให้ยิ่งต้องหม่นหมองครองเศร้า และเหงาทรวง

                                         

              นานเท่าไหร่แล้วหนาที่เขาจากไปกับชาวจีน ชาวค้า ชาวสำเภา  ข้ามน้ำข้ามมทะเลไปแดนไกล  ออสเตรเลียประเทศใหม่   เขาบอกว่าจะไปขุดทองคำ  นำมาเป็นทุนกอบกู้บ้านเมืองจากการยึดครองของฝรั่งเศส   เขาร่ำลือกันนักหนาว่าที่เกาะใหญ่

              อันได้ชื่อว่าประเทศออสเตรเลียโน้นมีทองคำมากมาย   มากมายเหมือนหินทรายในแก่งดอนโขงนั่นแหละ ภูเขาทั้งลูกของที่นั่นคือแหล่งทองคำ  ชาวจีน  ชาวญวนเขาล้วนหลั่งไหลกันไปที่นั่น

             “เจ้าอ้ายเป็นถึงราชวงศ์แห่งจำปานครราช  อันเคยยิ่งใหญ่รุ่งเรือง  เหลืองเลื่อมมาแต่โบราณกาล  ผ่านมาถึงวันนี้ที่ชาวลาวเฮาถูกย่ำยี  ถูกแบ่งแยกให้เป็นข้าสองเจ้าแบ่งเล้าสองฝ่าย ฝั่งซ้ายฝรั่ง  ฝั่งขวาสยามยึดครอง  อ้ายจะอยู่ดูดายได้อย่างไรอ้ายไปไม่นานหรอกขอให้เจ้าน้องคอยก่อน ...”

             แต่นี่กลับนานนักหนาแล้วสำหรับคนคอย  นานตั้งแต่เดือนสามผ่านยามแล้งร้อนมาจนฟ้าหม่นฝนหลั่ง จนกระทั่งจะเริ่มหนาวข่าวคราวก็ยังเงียบหายเงียบหายไปกับสายลม ที่อุ้มสมพัดพาเรือใบสำเภาไปขุดค้นค้าขายยังแดนไกล ไกลสุดเขตขอบฟ้า จนเวลาผันผ่านเป็นเดือนเป็นปี ตั้งแต่เลือดในกายก่อตัวขึ้นในครรภ์ได้เพียงสองเดือน จนบัดนี้ลูกน้อยลืมตามาดูโลกอันเงียบเหงา เพราะสาวเจ้าผู้เป็นแม่เอาแต่ตั้งตาคอย   ได้เห็นหน้าลูกน้อยกลับยิ่งเศร้าสร้อยคิดถึงเขา อยากให้มาช่วยกันเลี้ยงเจ้าหนูน้อยให้เติบใหญ่

นอนสาหล้าหลับตาแม่สิกล่อม....

นอนอ้อมล้อมในอู่สายไหม

พ่อไปไททางไกลทางค้า

น้อยอ่อนหล้าคอยพ่อกลับมา

นอนสาหล้าหลับสาก่อน....อื่อ อือ อ อ......

************

 

 

 

 

Tags : กิ่งคำปาย เอื้อยนาง วรรณกรรมเยาวชน เจ้านางคำปลิว

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view