หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
สิงห์บุรี:ไพบูลย์ไก่ย่างเจ้าเก่า
โดยลุงดำ คำโต เรื่อง-ภาพ
เรารู้จักสิงห์บุรีเพราะว่างานบ้านบางระจัน แต่เรารู้แหล่งที่กินอาหารโด่งดังมากจากเทศกาลกินปลาแม่น้ำ ต่อมารู้กันว่า ถ้าขึ้นเหนือด้วยถนนสายเอเซียแล้วผ่านจังหวัดสิงห์บุรี ต้องแวะกินอาหารกลางวันที่ไพบูลย์ไก่ย่างเจ้าเก่า ซึ่งมีเพียงร้านเดียวโดดๆ จำง่าย จอดรถสะดวก ห้องน้ำห้องท่าสะอาด ที่สำคัญมีไก่ย่างอร่อยมากๆเป็นจานเด็ด ตามด้วยอาหารตามสั่งที่มีสารพัดชนิด โดยเฉพาะอาหารประเภทปลาแม่น้ำ วันนี้ผ่านมาหลายสิบปี ร้านไพบูลย์ไก่ย่างก็ยังรอบริการท่านอยู่เสมอ แวะไปนะครับ คุณคมสันต์ น้อยศรี หนุ่มรุ่นลูกรอให้บริการครับ
จากกรุงเทพมหานคร วิ่งรถยนต์ไปตามถนนสายเอเซีย ผ่านอ่างทอง-วัดไขโย(หลวงพ่อเกศไชโย) เข้าเขตอำเภอพรหมบุรี แวะไหว้พระพรหมเจ้าที่เสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของนักเดินทาง แล้วเลยไปอีกไม่ไกลก็ถึงร้าน ไพบูลย์ไก่ย่าง ก่อนทางแยกเข้าจังหวัดสิงห์บุรีครับ
เป็นร้านอาหารที่เทียบเคียงระดับภัตตาคาร เป็นที่รองรับแขกบ้านแขกเมืองของชาวสิงห์บุรีมาช้านานกว่า 28 ปีแล้ว และเป็นที่ไว้วางใจนักเดินทาง ลุงดำก็หยุดใช้บริการระหว่างการเดินทางบ่อยครั้งเมื่อยังต้องขึ้นล่องจังหวัดทางภาคเหนือ วันนี้ก็เลยได้โอกาสไปแวะชิมทบทวนความหลังอีกครั้ง สิ่งที่ได้พบเห็นคือยังเป็นร้านที่สะอาด สวยงาม ร่มรื่น บรรยากาศดี มีทั้งส่วนที่ติดแอร์และส่วนที่ปล่อยไว้โล่งๆโปร่งสายๆ ส่วนอาหารก็มีรายการเพียบ แต่ลุงดำกินน้อย ประหยัด ก็เลยสั่งมา ดังนี้ครับ
จานแรกเป็นออเดิร์ฟร้อน ให้กินเรียกน้ำย่อยกันด้วยส่วนผสมของอาหารในจานแปลกไปจากร้านอาหารจีน เช่นมีส้มตำไทย ไก่สามอย่าง ยำมะม่วง แหนมซี่โครงหมูอ่อน ลูกชิ้นปลา ฯลฯ มีผักแนมพอประมาณ ก็ได้รูปแบบและรสชาติแปลกแตกต่างไปจากออร์เดิร์ฟร้อนทั่วๆไปส้มตำรสชาติกำลังดี ไม่เปรี้ยวหรือเผ้ดจนเกินไป แต่ลูกชิ้นปลาแข็งไปนิด
จานที่สองเป็นยำสามหอย ลุงดำสั่งก็ด้วยชื่อเชียว แต่พอจานยำลงก็ร้องอ๋อ ยำหอยแครงลวก หอยนางรมสด และหอยแมลงภู่สด เครื่องยำครบครันด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม โรยด้วยใบสะระแหน่ กระเทียมสด เรียงยอดกระถินมาให้แกล้มกับหอยนางรมอีก15 ยอด ทั้งหมดรองด้วยใบตองดูดีจัง ลุงดำลองตักแตะลิ้นก็ได้เรื่อง เผ็ดนำ เปรี้ยวตาม และเค็มนิดๆ แกล้มเครื่องดื่มมีดีกรีกำลังดีเลย วันนั้นลุงดำลืมตัวดื่มไปหลายแก้ว ทั้งๆที่เลิกมากว่า 30 ปีแล้ว
จานที่สามเป็นปลาช่อนแดดเดียว ส่วนจะเป็นปลาช่อนแม่ลาหรือไม่ ไม่มีใครยืนยัน แต่ทอดปลามาได้เหลืองนอกนุ่มใน หั่นขนาดกำลังดี ช่วยให้กินได้สะดวกกว่ายกมาทั้งตัว รสชาตินุ่มๆ ไม่เค็มอย่างกระปุกเกลือตกใส่ หรือกรอบจนแข็งแห้งไร้ความนุ่ม ถือได้ว่าเป็นจานเด็ดอีกจานหนึ่ง วางได้แว๊บเดียวก็เกลี้ยงไปจากจาน
จานที่สี่เป็นปลาช่อนเผา แหวะให้เห็นเนื้อขาวๆ เคียงด้วยใบอ่อนต้นสะเดา น้ำจิ้มมากมายหลายชนิดเช่น น้ำพริก น้ำจิ้มแบบซีฟู๊ด น้ำปลาหวาน ฯลฯ เลือกจิ้มได้ตามใจชอบ น้ำจิ้มรสแซบกลางๆ เป็นอีกจานหนึ่งที่ชวนกินมาก กินกันเร็วจนเกลี้ยงเหลือแต่หัวปลา เนื้อปลาสดหวานนิดๆ ไม่มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นดินโคลน
จานที่ห้าเป็นรายการอาหารที่ต้องแนะนำให้กินนะครับ ไก่ย่างไพบูลย์ มีชื่อเสียงมาก ไก่มีขนาด 6-8 ขีด แต่ที่นี่ใช้การต้มไก่ให้สุกแล้วทอดจนเหลืองหอมชวนน้ำลายสอ หนังกรอบ ไม่เลี่ยน น้ำจิ้มมีให้เลือก 6 ชนิดเช่นน้ำพริกกะปิ น้ำพริกขี้กา น้ำพริกตาแดง น้ำพริกแป๊ะซะ น้ำพริกแมงดา และน้ำปลาหวาน ร้านไพบูลย์ไก่ย่างนี่สังเกตได้ว่า นิยมจัดจานในใบตองสดๆ ทำให้ดูพิถีพิถันกว่าปกติๆ ร้านอื่นจะเอาอย่างก็ดีครับ
ต้มยำน้ำใสปลาคัง ตักแจกในถ้วยเล็กๆ ซดสองทีก็แทบหมดถ้วย เลยลืมถ่ายภาพมาอวดครับ แต่รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนำเค็มตามตามสูตรต้มยำไทยๆ ที่ไม่ลืมใส่พริกแห้งเผาจนหอมกรุ่น โรยด้วยใบมะกรูดซอยละเอียด
ร้านไพบูลย์ไก่ย่างยังน่าเข้าไปแวะพักรถและกินอาหารระหว่างเดินทางเหมือนเดิม เปิดร้านตั้งแต่ 09.00-22.00 น. ครัวปิดแต่ก็ยังนั่งได้ โทร.ไปจองได้ทั้งทางโทรศัพท์หมายเลข 036-512132 หรือจะเปิด www.paiboonkaiyang.com ก็ได้อีกช่องทางหนึ่ง