http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,066,919
Page Views16,379,269
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 17 มวยล้ม โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 17 มวยล้ม  โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

โดย อินทรี ดำ

18.มวยล้ม 

          ต้นปีงบประมาณใหม่ เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวพอดี  สำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2.ทำงานกันตามปกติ  แต่ที่ไม่ปกติก็คือสภาพจิตใจที่อ่อนล้าและความลำพองหายไป  เกิดความเหนื่อยหน่ายและซังกะตาย "ทำกันไปวันต่อวัน"   เป็นความเจ็บช้ำจำใจที่ต้องดำเนินงานไปตามวิถีทางที่ต้องเป็น ผลพวงของการพิจารณาความดีความชอบประจำปี พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า  ระบบได้ทำลายคนได้อย่างเลือดเย็น

          มณีพักค้างที่ทำการมูลนิธิกลางหมู่บ้านคนเดียว  บ้านทรงหรูสไตล์ลูกทุ่งอเมริกันไม่ได้ช่วยให้เลือดลมสูบฉีดแรงขึ้นแต่อย่างใด  เช้าเย็นมณีนั่งทอดอาลัยตายอยากที่สนามหญ้าหน้าบ้านคนเดียว  เสียบกาน้ำร้อนและชงกาแฟกินเอง  เช็ดหยาดน้ำค้างที่พร่างพรมในคืนที่ผ่านบนเก้าอี้กลางสนามหญ้าเอง  สายตาทอดยาวไปกลางสระน้ำที่บางครั้งปลาก็ผุดขึ้นมาหายใจ  ใบไม้หน้าโรงเรียนไหวพะเยิบๆ เสียงนกและเสียงกา แม้แต่ไก่ขันอยู่เบื้องหน้า มณีก็ไม่ยินดียินร้ายใดๆ

          เด็กนักเรียนและชาวบ้านเดินออกไปทำงานด้วยกริยาท่าทีที่มีความสุข  เดินกันไปเล่นกันไป  บางทีก็มีเสียงตะโกนด่าทอหยอกล้อกันข้ามมาให้ได้ยิน  บางคนเมื่อเดินผ่านบ้านพักมณีก็เหลียวมามองและเดินผ่านไป  รู้กันหมดหมู่บ้านว่าหัวหน้าอารมณ์ไม่ดี  ก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาหยอกล้อเล่นเหมือนเช่นที่เคย  มณีลุกเข้าไปในบ้านแล้วลงมือเข้าครัวด้วยตนเอง  ไข่เจียวข้าวสวยร้อนๆ พริกขี้หนู  กระเทียม  หอมแดง หั่นฝอยแล้วบีบมะนาวลงไปครึ่งซีก มณีนั่งกินด้วยความอร่อย

          มณีกินจนอิ่มและล้างจานเก็บเข้าที่  อาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถปีศาจขาวขึ้นไปสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 บนที่ทำการริมถนนเจ้าฟ้าสายสา-นาน้อยตามปกติ  ทุกคนนั่งทำงานตามระเบียบ  การแต่งกายสบายๆ เหมาะสำหรับหน่วยราชการกลางป่าเขาลำเนาไพร เสื้อแขนยาวเรียบร้อย บ้างก็เสื้อแขนสั้นหลากสี รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ มณีเดินเข้าห้องแล้วนั่งรอกาแฟร้อนจากม้วน 

          “หัวหน้ากินข้าวเช้าหรือยังคะ” ม้วนเป็นห่วง มณีมองหน้าคล้ำน่ารักแล้วตอบ

          “ กินแล้ว ไข่เจียว” มณียิ้ม ม้วนต่ออีก

          “ให้ม้วนไปทำที่บ้านพักก็ได้นะคะ  เดี๋ยวหน้าหัวหน้าจะเป็นไข่เจียวสักวัน” ม้วนแหย่ มณีหัวเราะด้วยเอ็นดูแม่บ้านที่อยู่กันมาหลายปี

          “แล้วจะเปลี่ยนกับข้าวดูบ้าง  ม้วนดูแลครอบครัวเถอะ หัวหน้าทำได้”

                      

          สมชายเดินหอบแฟ้มเข้ามาให้เซ็นต์  วางแฟ้มเข้าที่ก็นั่งแมะที่เก้าอี้ข้างหน้า  เหลือบตามองหน้าแล้วพูดขึ้น

          “ปีศาจขาวไม่ผยองเสียแล้ว ทำไงดีครับ”

          “ก็เป่าตูดมันใหม่สิ” มณีตอบแล้วหัวเราะขึ้นพร้อมกัน 

          “เมื่อไหร่ดีพี่” สมชายกระตุ้น

          “พร้อมกันหรือยังล่ะ” มณีแซวกลับ สมชายลุกพรึบ ทำล้อเลียนด้วยท่าตะเบ๊ะ

          “พร้อมครับผม  ทุกคนรอวันนี้มาหลายสัปดาห์แล้วครับ” สมชายออกไปสั่งการ  ทุกคนพร้อมเตรียมขึ้นรถออกตรวจ 

          มณีปิดแฟ้มสุดท้าย  แล้วยกออกไปวางที่โต๊ะธุรการ  เจ้าหน้าที่ที่ว่างรับไปดำเนินการต่อไป  วันนี้ทั้งสำนักมีแต่ข้าราชการที่มีบ้านพักอยู่ที่นี่เท่านั้น  ส่วนคนอื่นๆ ที่มีบ้านอยู่แพร่ยังมาไม่ถึง หรืออาจติดการประสานงานที่ป่าไม้เขตแพร่ มีบางคนเข้าป่าไปตีตราไม้  สายตรวจที่พร้อมที่สุดจึงเหลือเพียงสายเดียว

          “เฝ้าสำนักไว้ดีๆ นะ  ไม่มีใครอยู่อย่าแบกไปขายนะจ๊ะ” มณีแหย่ลูกจ้างชั่วคราวสาวๆ สองคนที่ต้องเฝ้าโยง นั่นแหละ สาวๆ จึงกล้าอ้าปากหยอกล้อเหมือนเดิมได้

          “เฝ้ามาหลายสัปดาห์แล้วค่ะ  มีหัวหน้าก็เหมือนไม่มี วันๆนั่งใจลอยนะคะ” มณียิ้มกว้างแล้วเดินออกไปร่วมทีมปีศาจขาว

          สมชายขับ ประเสริฐประกบติด สา ส่วน อ้วน เผ่น กระโดดขึ้นที่นั่งประจำ  ปืนลูกซองห้านัดสองกระบอกวางกับพื้นรถ  มณีก้าวขึ้นนั่งแล้วปิดประตู สมชายเคลื่อนรถออก   ทีมหลังรถร้อง “เฮ !!”

          “ซ้ายหรือขวาครับเจ้านาย ?”  สมชายถามด้วยประโยคเดิม

          “ขวา”  มณีตอบเรียบๆ เหมือนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี  รถวิ่งไปถึงตลาดอำเภอนาน้อย จะผ่านเลี้ยวซ้ายขึ้นผาชู้แต่มณีนั่งนิ่ง  สมชายจึงขับไปเรื่อยๆ พอจะผ่านเลี้ยวขวาขึ้นขุนสถาน มณีก็นั่งนิ่งเหมือนเคย สมชายจึงตัดสินใจขับตรงไปบ้านนาหลวง มุ่งสู่อำเภอนาหมื่น  บรรยากาศในรถยังไม่คึกคักตามสภาพจิตใจ

          “พี่  ผมว่าวันนี้เราไปที่ปากนายเลยดีกว่า  ก่อนลงปากนายมีแยกซ้ายมือไปลงท่าเรือแพที่เขาแบ่งเป็นหมู่บ้านประมงปากนาย  เราไม่ค่อยได้เข้าไปนะครับ” ประเสริฐเสนอ

          “ดีเหมือนกัน  ออกมาค่อยหาข้าวกินที่เรือนแพอีกที” มณีตอบเรียบๆ

          “สมชาย  ปลาแรดนึ่งเนื้อเหลืองหอมมันน่ากินจริงๆ  เนื้องี้หวานๆ” ประเสริฐเสริม

          “เหล้า น่ะมีไหม ?” สมชายทำท่าเปรี้ยวปาก

          “หลังเบาะ  ยังมีอยู่หรือเปล่า” ประเสริฐถาม

          “เออ !  พี่ก็ไม่เคยเปิดดู ได้แต่ใช้รถว่ะ” มณีตอบ  “น่ะเดี๋ยวก็รู้เอง”

          ตะวันคล้อยลงไปบอกเวลาว่าบ่ายแก่ๆ   รถสายตรวจยังวิ่งไปตามถนนมุ่งสู่ปากนาย  กำลังรถปีศาจขาวยังเข้มแข็ง  ทุกคนส่ายสายตามองไปรอบกายด้วยความสนใจ  ป่าดงพงไพรหลายส่วนที่ร่อยหรอลงไปกลายเป็นไร่ข้าวโพด  สวนมะขามหวาน  บางแปลงก็ปล่อยทิ้งร้างไร่เหล่ารกครึ้ม  แต่ทันใดที่รถเลี้ยวเข้าโค้งกลางสันเขา  สมชายต้องแตะเบรกยาว  ล้อลากไม้ครึ่งคันกำลังวิ่งดิ่งลงมาด้วยแรงสิบล้อ  ทุกคนกระโดดลงรถแล้วผวากันเข้าไปยึดล้อและวัว

          คนขับล้อดูชราพอควรจับวัวให้นิ่งจากสายบั้งเหียน  หน้าที่เหี่ยวย่นซีดเผือด  มณีก้าวลงรถแล้วเดินตามกันไปที่ล้อลากไม้  สมชายทำงานทันทีคว้าบันทึกเตรียมจด  ประเสริฐเดินไปดูไม้กับส่วน สา อ้วนและเผ่นยืนระวัง

          “ไม้ประดู่แปรรูป หนานิ้วครึ่งหน้าหกยาว 6 เมตร 8 เล่ม  ไม้แดงแปรรูปหน้า 8 นิ้ว หนา 1 นิ้ว ยาว 3 เมตรเป็นไม้พื้น 20 แผ่นครับ” ส่วนตะโกนรายงาน  สมชายจดลงบันทึกย่อๆ  มณีมองหน้าลุงด้วยความรู้สึกพิพักพิพ่วน

          “ลุงเลื่อยมาจากไหนครับ” มณีสอบถาม

          “ไม้แก่นล่อนมันล้มในไร่ จะเอาไปสร้างบ้านอยู่  อยากอยู่บ้านไม้จริงๆ กับเขาสักที” ลุงพูดด้วยเสียงสั่นๆ

          “อยู่บ้านฟาก(ไม้ไผ่ผ่าซีก)มาตลอดชีวิต  ลูกมีคนเดียวก็ทิ้งไปอยู่กรุงเทพแล้วไม่เคยกลับมาเลย”

          “ลุงอยู่กับเมียสองคนหรือครับ ?” มณีถามต่อ

          “ครับ  ตอนหนุ่มๆ ลุงก็มัวแต่กินเหล้าเมาแล้วก็เที่ยว  กว่าจะนึกได้ก็ใกล้ฝั่งแล้ว สงสารเมียที่หนีมาอยู่กับผมนะครับ พ่อเขาขายของในตลาดที่เวียงสา มีฐานะแต่ต้องมาลำบากกับผมจนไม่กล้ากลับบ้าน” น้ำตาลุงไหลออกมาทั้งสองข้างแล้วหยาดลงร่องแก้ม  มณีมองด้วยความสงสาร  แต่หน้าที่ที่ต้องทำช่างทำให้ลำบากใจ  วันนี้เพิ่งจะเลียแผลที่ชอกช้ำใจ กลับต้องมาเจอเรื่องสะเทือนใจอีก

          “บ้านลุงอยู่ไกลไหมครับ” มณีสอบสวนต่อ

          “ลงดอยนี้แล้วก็เข้าหมู่บ้าน  บ้านลุงอยู่หลบลงไปชายทุ่ง      กระต็อบไม้ไผ่เก่าๆ จะล้มไม้ลมแหล่ นั่นแหละครับ”

          มณีตัดสินใจแล้วตะโกนบอกทีมงาน

          “ตามลุงไปบ้าน” ทุกคนขึ้นรถแล้วชะลอรถวิ่งตามล้อลากไม้ไปเรื่อยๆ  สาแอบไปนั่งข้างหลังลุงแล้วโบกมือหย่อยๆ   ล้อและรถไปจนถึงบ้านลุง ป้าเดินออกมามองด้วยสายตางงๆ

          “ป่าไม้เขาจับ  มาเจอกันพอดี”ลุงตะโกนบอกป้าๆ หน้าซีดเผือดน้ำตาร่วงเผาะๆ  ชาวบ้านแห่มาดู  มณีเห็นสภาพกระท่อมแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ  จะเอาหน้าที่หรือจะเอาคุณธรรม  สักครู่ผู้ใหญ่บ้านเข้ามายกมือไหว้มณี

          “ขอเถอะครับ ลุงเขาจะสร้างบ้านใหม่ให้เมียเขาครับ”  แล้วเสียงชาวบ้านที่รุมล้อมก็ร้องขอกันทุกคน  มณียืนมองไปทุกสายตา  ลุงต้องเป็นคนดี ไม่งั้นคงไม่มีคนช่วยขนาดนี้

          “ได้   แต่ผมขอให้ทุกคนช่วยกันสร้างบ้านให้ลุงให้เสร็จนะครับ  ผู้ใหญ่ครับช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย  สมชาย  ประเสริฐ กลับ” 

          สายตรวจปีศาจขาวหน้าซีดขาวกันไปด้วย ทุกคนนั่งนิ่งแต่อาจจะต่างความคิด  รถยังมุ่งหน้าไต่เขาขึ้นไปปากนาย  กว่าจะถึงก็ใกล้ค่ำตะวันรอนๆ ลงเหลี่ยมเขาฝั่งเมืองลีไปแล้ว  ถึงทางแยกไปหมู่บ้านประมงปากนายแต่มณีกลับชี้มือให้ไปทางตรง  เรือนแพปากนาย  แพอาหารและพักค้างเหนืออ่างเก็บน้ำสิริกิติติ์

          สมชายจอดรถที่ริมทางแล้วทุกคนก็กระโดดลงไป  ใช่ถึงเวลาพักกินอาหารค่ำกันแล้วตามสัญญา  สมชายเปิดเบาะหลัง แต่ร้อง “ว้า !” เสียงดัง ประเสริฐถลาเข้าไปดู แล้วหันไปมองสากับอ้วน  ๆ เดินเลี่ยงไปไกลๆ  ทำชี้นกชมไม้เฉย

          “ไอ้สองตัวแสบล่อไปแล้ว” ประเสริฐพึมพำ

          มณีเดินดิ่งลงเรือนแพ  เจ้าของแพมาต้อนรับด้วยความดีใจได้ลูกค้า 

          “สั่งเลยประเสริฐ  สมชาย อย่าลืมเหล้าสักหน่อยล่ะ  ตั้งใจแล้วนี่”  มณีผลักภาระให้ แล้วลุกเดินไปยืนริมน้ำหน้าแพ  ท้องน้ำที่ใสจนเขียว ลมเย็นพัดกรูเข้าใบหน้าช่างเย็นชื่นใจ  มณีสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด    แล้วก้าวเดินข้ามไปอีกแพหนึ่งใกล้ๆ กันซึ่งดูเหมือนจะเป็นแพพักค้างแรม  แต่ดูหนักและเอียงๆ ชอบกล  มณีเดินไปเปิดห้องดูแล้วก็ต้องตกใจ

          “ไม้สักแปรรูป  หน้าสิบนิ้วทั้งนั้นเลย ไม้เถื่อนเต็มแพ”  

           มณีอุทานในใจแล้วเดินกลับมาแพอาหาร  นั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างเว้นข้างประเสริฐ  มณีนิ่งพูดอะไรไม่ออกบอกใครก็ไม่ดี  ได้แต่นั่งตั้งท่ารอกิน

          “สั่งไปกี่อย่างแล้วประเสริฐ มณีเสถาม

           “แม่โขงหนึ่ง โซดา 4 น้ำแข็งหนึ่ง ครับพี่” สมชายเสริม

          “นึ่งปลาแรด  ต้มยำปลาบึก  ปลาบึกลวกจิ้ม  ยำปลาเล็กปลาน้อย (ปลาซิวแก้ว)  ฉู่ฉี่ปลานิล  ปลาบู่ทอดจิ้มน้ำปลา ครับ”  

             มณีพยักหน้ารับรู้แล้วเริ่มกินเมื่ออาหารจานแรกมาถึง  ทุกคนดื่มและละเลียดอาหารไปเรื่อยๆ 

          “ไปไหนต่ออีกไหมครับพี่” สมชายถาม

                    

          “อื้อ” มณีส่ายหน้าแทนคำตอบ ปลาบู่เต็มปากกำลังเคี้ยว แสงสุรีย์ลับขอบฟ้า  แต่เหนือขุนเขาฟากน้ำทิศตะวันออกดวงจันทร์ดวงโตกำลังแมน โผล่พ้นเหลี่ยมเขา  แสงสีแดงเปล่งประกายนวลใย  ชวนให้เคลิบเคลิ้มกับภาพฝันกลางป่าเขาและสายน้ำ  มณีหลงใหลได้ปลื้มกับธรรมชาติแสนสวยเสมอ  อารมณ์แปรเปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้น  แต่แล้วเสียงอ้อแอ้ก็ดังขึ้น

          “พี่ๆ  เมื่อบ่าย  มวยล้มนะพี่” สมชายคร่ำครวญ  คนอื่นๆ หัวเราะขำ มณีพยักหน้าแล้วร้อง  

          “อ๋อ  อ๋อ  ใช่  แล้วไปเห็นน่ะทำลงหรือ” มณีใส่กลับ

          “ถ้าจับส่งตำรวจลุงเขาก็ต้องเสียทั้งวัว ทั้งล้อ และเงินไปไถ่ อีกจมเลยนะครับ” ประเสริฐเสริม

          “ตีงูให้กากิน” สาโพล่งขึ้นบ้าง

          “แล้วต้องมานั่ง “แดกซ์” ปลาที่ปากนาย ควักจ่ายเองอีกนะพี่” สมชายแซวต่อ

          “ระหว่างหน้าที่กับคุณธรรมและความเป็นจริง  ผมก็ทำไม่ลงครับ” ประเสริฐเสริม

          “มวยล้ม ๆ ๆ” สมชายยังแซวเรียกเสียงหัวเราะกันอีกหลายครั้ง

          มณีนิ่งไม่บอกสิ่งที่เห็นและรู้  ยอมล้มมวยเสียดีกว่าต้องมากลายเป็นมวยล้มต้มคนดู  

          ถ้าจับอาจถูกใส่ร้ายว่ากินแล้วต้องจ่ายเงิน โกรธก็เลยจับ เสียคนแน่ๆ

          นิ่งเสีย ตำลึงทอง ยอมจ่ายเงินค่าอาหารไปตามปกติดีกว่า                 

 

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view