ประเพณีการเกษียนราชการ
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ภาษิตจีนที่นิยมพูดถึงกันมาก "งานเลี้ยงย่อมมีการเลิกรา" การปฏิบัติราชการหรือการทำงานองค์กรใดองค์กรหนึ่งไม่ว่าภาคราชการหรือภาคเอกชนก็ตาม ย่อมมีวันหนึ่งที่ต้องพ้นสภาพของคำว่า "ข้าราชการ" หรือ "พนักงาน" แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะพ้นสถานะภาพโดยวิธีใดหรือ ถ้าอยู่จนอายุครบ 60 ปี ก็เกษียนราชการ
ครู..และเพื่อนๆถ่ายภาพร่วมกัน
แต่ถ้าต้องออกก่อนเวลาอันควร ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป เช่น อาจเกิดจากการลาออกเพราะว่าเกิดความเบื่อหน่ายระบบราชการ หรืออาจมีช่องทำธุรกิจที่คาดว่าจะได้ใช้ความสามารถเต็มที่ หรือต้องการลาออกเพื่อขอรับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญก้อนโตเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ หรือขอใช้ก่อนที่จะตาย หรือปลูกหรือซ่อมแซมบ้าน หรือส่งลูกๆเรียนต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศ การลาออกเช่นที่กล่าวมานี้ ไม่เรียกว่าการเกษียนราชการ
ครูมะลิวัลย์...กล่าวต้อนรับลูกศิษย์เกษียนแล้วรับมอบของที่ระลึก
เช่นเดียวกับการออกโดยการถูก ให้ออก ปลดออก และไล่ออก การออกทั้งสามประการนี้ เป็นการออกโดยเกิดจากการกระทำที่เกิดความผิดพลาดในระเบียบหรือกฎหมาย ส่วนจะเป็นความผิดที่มากหรือน้อยนั้นมีผลต่อคำว่า ให้ออก ปลดออก และไล่ออก การออกจากราชการด้วยประการฉะนี้ ก็ไม่เรียกกันว่า เป็นการเกษียนราชการ แม้ว่าจะถูกให้ออก ปลดออก หรือไล่ออก ช่วงใกล้ๆการเกษียนราชการก็ตามที
ครูวาณี...กล่าวต้อนรับลูกศิษย์เกษียนแล้วรับมอบของที่ระลึก
ข้าราชการทุกคนล้วนมีความปรารถนาที่จะอยู่รับราชการจนกว่าอายุจะครบ 60 ปีโดยไม่ถูกร้องเรียน ไม่ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือไม่ถูกข้อกล่าวหาว่า เสื่อมสมรรถนะ เสื่อมทรามทางศีลธรรม เสื่อมทางจริยธรรม และเสื่อมโทรมทางคุณธรรม ข้อกล่าวหาเหล่านี้ ในทางปฏิบัติแล้วเป็นเรื่องยากเย็นที่จะจับผิดกันได้ง่ายๆ แต่ด้วยความสำนึกดีมีคุณธรรมประจำใจ ข้าราชการจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจ "ขอลาออก" เพื่อแสดงความรับผิดชอบอันเป็นจริยธรรมสูงส่ง ควรเคารพในศักดิ์ศรีของเขาคนนั้น
ช่วงชัยและสุนันทา สำแดงว่าเกษียน
เมื่อรับราชการกันจนอายุครบ 60 ปี ได้เวลาเกษียนราชการตามระเบียบ ปราศจากมลทินใดๆ หรือเคยมีความผิดพลาดแต่ได้แก้ไขไปจนถูกต้อง ก็ถือเป็นประเพณีปฏิบัติกันมายาวนานแล้วว่า ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น นิยมจัดงานประเพณีเลี้ยงให้กับผู้ที่ได้เกษียนราชการ เช่นเดียวกับที่เพื่อนๆจากโรงเรียกกำแพงมณีวิทยา อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง มศ.3 รุ่นแรก ซึ่ง ณ วันนี้ ครบอายุที่จะต้องเกษียนราชการกันหลายคน
ยงยุทธและสะอาด กล่าวอำลาชีวิตราชการ
เช่นนายช่วงชัย เปาอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายยงยุทธ พุทธวงศ์ ผู้ตรวจราชการ อ.ส.ม.ท. อาจารย์สะอาด พุ่มสุวรรณ และ นางสุนันทา สุขุม ได้ครบเกษียนราชการในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2553 และด้วยความรักความผูกพัน เพื่อนๆร่วมรุ่นจึงได้เชิญชวนเพื่อนๆที่เกษียนราชการไปก่อนแล้วบ้าง ออกด้วยการลาออกก่อนเกษียนบ้าง ประกอบธุรกิจทั่วไปบ้าง มาร่วมกันแสดงความยินดีที่เพื่อนๆรับราชการจนครบเกษียน
อาจารย์และศิษย์ร่วมสังสรรค์
เมื่อลูกศิษย์เกษียนราชการหรือฉลองตำแหน่ง แต่คุณครูยังมีชีวิตอยู่ ส่วนใหญ่ก็มักจะกราบเรียนเชิญท่านมาเพื่อเป็นเกียรติ เป็นการแสดงมุทิตาจิต เป็นการสำนึกในพระคุณที่ได้สั่งสอนจนตนเองได้มีการศึกษา มีงานทำ มีฐานะ และมีหน้ามีตาในสังคม ได้รับใช้บ้านเมืองต่างหน้าที่กันไป
พะยอม มาไกลเชียว แต่บุญพิงแม้ขาเดี้ยงก็อุตสาห์มา
คณะลูกศิษย์เก่าโรงเรียนกำแพงมณีวิทยา หรืออักษรย่อว่า กว. ก็ได้กราบเรียนเชิญอาจารย์วาณี เดชคง และอาจารย์มะลิวัลย์ ซึ่งยังแข็งแรงและดีใจที่ได้เห็นลูกศิษย์รับใช้บ้านเมืองถึงเกษียน
เพื่อนๆและครอบครัว
ความรัก ความเคารพ และความผูกพัน อันเกิดจากการเป็นคนบ้านเดียวกันร่วมเรียนโรงเรียนเดียวกัน ครูที่สอนก็คนเดียวกัน ส่วนครูที่ตีก้นพวกเรานั้น ก็คนเดียวกัน ยิ่งได้ร่วมเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ยิ่งผูกพันแน่นหนักนัก ทั้งนี้และทั้งนั้น เพื่อนร่วมชั้นเรียนตั้งแต่สมัยเด็กๆเหล่านี้ล้วนไม่มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ซึ่งกันและกันแต่อย่างใด ก็ยิ่งสนิทใจที่จะรักกันเกินพิกัด
สมทรง นงเยาว์ และภาคภูมิ(สนอง) สุวิทย์และคำรน
หลังการเกษียนราชการแล้ว บางคนมีหลานให้ช่วยเลี้ยงแก้เหงาเช่นอาจารย์สุนันทา บางคนมีภาระหน้าที่ต้องรับใช้ชาติบ้านเมืองอีกรูปแบบหนึ่งเช่น ประธานกกต.สิงห์บุรีคนใหม่(นายช่วงชัย) หรือเลี้ยงลูกที่ยังเยาว์อยู่อย่างยงยุทธ ส่วนอาจารย์สอาดนั้นว่างเปล่าก็คงจะเข้าวัด ฟังเทศน์ฟังธรรมไปตามประสาคนชรารุ่นเดอะ
ป็อกนั่งขวาสุด..ดำสุด
ส่วนเพื่อนๆที่เกษียนราชการไปก่อนแล้ว บางคนทำธุรกิจห้องเช่า(พะยอม) บางคนเพาะต้นไม้ขายสร้างหลักฐานการงานให้ลูกๆเช่นพ.ต.คำรณ หรืออย่างบุญพิง์ก็เลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน คอยให้คำแนะนำภรรยาทั้งหลายให้ทำงานเลี้ยงครอบครัวต่อไป หรือพิทักษ์(ไอ้ป็อก)ก็วนเวียนไปเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง แต่งานคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่พิทักษ์จะจัดเพื่อเลี้ยงเกษียนให้เพื่อนๆ ด้วยว่าเหลือเป็นชุดสุดท้ายจริงๆ
ชู(แหย) ยงยุทธ ชูเจ้าชู้ สุวิทย์ และช่วงชัย
มีอยู่เพียงสนอง(คุณภาคภูมิ) ที่เป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนไม่มีอายุเกษียน ก็ไม่เหงาอีกทั้งยังมี”บ้าน”ไปมาหลายแห่งก็ยิ่งสนุกสนาน เช่นเดียวกับอาจารย์บุญชู(สองชู) คนหนึ่งสอนหนังสือ..ต่อ แต่อีกคนหนึ่งเลี้ยงไก่ชน..ต่อ ในงานนี้ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนเช่น เฟี้ยม ร่างเล็กเหมือนเดิม อายุมากแต่ไม่โตขึ้นเลย ลำยองชวนสามีมาร่วมแสดงความดีใจที่เพื่อนๆเกษียน
ส่วนประทีปก็นั่งยิ้มทั้งคืนเพื่อนคนนี้พกรุ่นพี่ซึ่งเป็นสามีมางานด้วย 1 คน ร้องเพลงเก่ง เสียงดีมาก ว่ากันว่า ชอบแอบเข้าห้องร้องเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนตอนพักเที่ยงกับอาจารย์สุวิทย์ อดีตนักร้องเสียงดีประจำโรงเรียนกำแพงมณีวิทยามาก
อนงค์หนึ่งนั่งนิ่งเฉย ไม่ค่อยพูดค่อยจากับใคร ชื่อนงเยาว์ ผิวเข้มเหมือนเดิม นั่งคู่กับคนสุดท้ายที่ต้องกล่าวถึงคือสมทรง ตอนเด็กๆก็จ้ำม่ำน่ารัก แต่พอเห็นวันนี้จ้ำม้ำยิ่งกว่าแต่ยังน่ารักเหมือนเดิม ดูท่ามีความสุขมาก รับว่า งานสังสรรค์ปีหน้าของรุ่นนี้ จะขอให้จัดงานที่บ้านของเธอ เธอจะเลี้ยงเต็มที่ เอากับแม่ซิ..ฮึฮึ!!(บ้านที่อบทม)
รุ่นพี่ครูบุญส่ง เห็นเงาก็รู้ชูปากห้อย
หลังเกษียนแล้ว ข้าราชการส่วนใหญ่ได้รับเงินเดือนแบบบำนาญเป็นรายเดือน ส่วนรายใดจะรับบำเหน็จก้อนเดียวก็กระทำได้ เพียงแต่ว่า เมื่อเงินหมดก็จะลำบากมากๆ สวัสดิการเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลหรืออื่นใดก็จะพลอยไร้สิทธิไปด้วย การเกษียนราชการจึงนิยมรับบำนาญมากกว่า มีไม่น้อยที่รับเงินบำนาญได้เพียงไม่กี่เดือน กลับมีอันเป็นไปเร็วเกินควร อย่างนี้ก็ขาดทุนลูกเมียที่อยู่ข้างหลังก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย
"ไอ้แก่ มึงอย่าเพิ่งรีบตายกันนะโว๊ย"
บรรยากาศในงาน..สบายๆ
ดังนั้น จึงต้องขอเตือนเพื่อนๆที่เกษียนราชการวันนี้ ให้รักษาสุขภาพพลานามัยให้จงดี โดยเฉพาะสุขภาพจิตและโรคภัยไข้เจ็บต้องหมั่นตรวจตรา ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องลดความเสี่ยงจาก สุรายาเมา ลงไปให้สมกับวัยที่มากขึ้น "กินมามากแล้ว หยุดเสียได้ก็ดี" แต่จะมีใครเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ตามใจเถอะเพื่อนเอ๋ย
ประการสุดท้าย แก่แล้วอย่าริเอาเงินก้อนสุดท้ายไปลงทุน พลาดแล้วมันแก้ไม่ทัน ถนอมทรัพย์สินก้อนสุดท้ายเอาไว้ใช้นานๆ และถนอมวันเวลาที่มีความสุข ความรัก ความผูกพันเอาไว้ให้ได้นาน
ไอ้สนอง..เอ้ยภาคภูมิ ขับกล่อมตลอดงาน
"นับจากนี้ พวกเราเหลืองานอีกเพียงสองงานเท่านั้นที่ต้องไป คืองานสังสรรค์กันจนเหลือคนสุดท้ายและงานเผาเพื่อนๆที่หนีไปก่อน"
หลังงานเลิกรา เหลือเงิน 1,000 บาท ทำบุญไปกับสุนันทา ได้บุญร่วมกันอีก
บุญชูจอมเจ้าชู้ทิ้งท้ายก่อนประกาศเลิกรางานเลี้ยง "เกษียนราชการ" งานนี้จัดที่ ชมรมเพื่อนเกษตร ของธนกฤต วงศ์ทองดี น้องชายภาคภูมิ ที่บ้านริมฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งเปิดให้เช่าพักค้างอ้างแรมได้ในราคาย่อมเยา อยู่ในซอยหลังวัดสกุณา(วัดนก) อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โทร.089-5006015 , E-mail:coban@hotmail.com
พี่บุญส่ง-น้องชายและธนกฤต-เฟี้ยม