เชอรี่ หอย เจ้าปัญหา ใครว่ากัน?
เรื่อง- “พอแพง” ภาพ-เข้ม
ตัวกลม ๆ ไข่สีชมพู ไข่เรียงเป็นหลอดยาววางตามโคนต้นไม้ ต้นข้าว ต้นหญ้าใกล้น้ำ มองไกล ๆสวยเหมือนดอกไม้ แต่ทำไมใคร ๆ กลับหวาดกลัวกันนัก โดยเฉพาะชาวนาในฤดูลงกล้า ปักดำอย่างนี้ ไปรู้จักสักหน่อยเถอะค่ะ
หอยเชอรี่ เจ้าหอยที่ชื่อเป็นฝรั่งนี่ไง( Golden Apple Snail ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pomacea canaliculata Lamark เป็นหอยน้ำจืดจำพวกหอยฝาเดียว มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหอยโข่ง หรือหอยกระต่าย หอยนา แต่เปลือกบางกว่าเท่านั้นเอง
หอยเชอรี่เดินทางมาไกลเชียว จากญี่ปุ่นและไต้วันโน่น แต่เธอก็มีพื้นเพกำเนิดเดิมอยู่ในอเมริกาน่ะนะ เดินทางมาคราวแรกในฐานะหอยนักกำจัดตะไคร่น้ำ และเศษอาหารในตู้ปลาเพราะธรรมชาติการเป็นนักเขมือบกินได้ทุกอย่างนั่นเอง คุณสมบัตินี้ทำให้โตเร็ว ขยายพันธุ์ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมาอยู่ในภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ทุกฤดูกาลอย่างแถบบ้านเราเธอก็โตวันโตคืน อายุ ๓ – ๔ ก็จับคู่ผสมพันธุ์กันแล้ว จากการเลี้ยงเพื่อทำสะอาดตู้ปลาจึงมีผู้คิดเลี้ยงเพื่อการบริโภคในแหล่งน้ำ ปรากฏว่าตอนนี้หอยเชอรี่รุกล้ำเข้าในนาข้าว กินต้นกล้า ต้นข้าว ออกไข่ไว้ตามต้นไม้ ต้นหญ้า ต้นข้าวสีชมพูพราวไปทั้งทุ่ง
ทีนี้ก็เป็นปัญหาละซี แม่คุณหอยเชอรี่เธอขยันวางไข่ เหลือเกิน ผสมพันธุ์กันได้เพียงสองสามวันเท่านั้นแหละเธอจะคลานดุบดิบไปวางไข่ในเวลากลางคืน ทำเอาคันนาถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูสวยไปทั้งทุ่ง แต่เป็นความสวยที่ชาวนาเจ้าของต้นข้าวต้องหลั่งน้ำตา เดือดร้อนกรมการข้าวต้องคิดหาวิธีช่วยต่าง ๆ นานา เพื่อกำจัดหอยเชอรี่เจ้าปัญหา ทั้งใช้วิธีธรรมชาติเก็บไปทำลายทิ้ง และใช้สารเคมีกำจัดหอย โอย...กำจัดหญ้าก็ทำเอากบ เขียด ปู ปลาในนาจะสูญพันธุ์อยู่แล้วยังมากำจัดหอยเชอรี่อีก กรรมเวรจริง ๆ
อย่ากระนั้นเลยให้หนามหยอกเอาบ่งก็แล้วกัน
หอยมันมีมากมายนักก็เอาไปทำปุ๋ยเสียเลย เป็นปุ๋ยที่ต้นข้าวชอบเสียด้วยนะ ทำก็ไม่ยากอะไรด้วย เพียงแต่เก็บหอยมาทุบแล้วหมักไว้นำไปฉีดพ่นเป็นอาหารเสริมให้ต้นข้าวเพิ่มผลผลิตได้เสียอีก น้ำตาจะได้หยุดไหล รอยยิ้มเข้ามาแทนนะซี นอกจากทำปุ๋ยหมักแล้วเอาหอยทั้งเปลือกไปฝังดินตามโคนต้นไม้ จะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตรวดเร็วดีนักแล เปลือกหอยยังใช้ปรับสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินได้ดีด้วย
ยังประโยชน์ของหอยต่างถิ่นชนิดนี้ยังมีอีกเยอะ กินเป็นอาหารก็ได้(ดูแหล่งที่เก็บมาหน่อยก็แล้วกัน เพราะมันดูดทุกอย่าง ถ้าเป็นแหล่งใกล้โรงงานอุสาหกรรมก็ควรหลีกเลี่ยง)
ในเนื้อหอยเชอรี่มีโปรตีนสูงตั้ง ๕๐ เปอร์เซ็นต์แน่ะ ขณะไขมันน้อยนิดเพียง๑ เปอร์เซ็นต์กว่า ๆ เองใช้ประกอบอาหารได้ตั้งหลายอย่างอีกด้วย ทั้งผัด ต้ม แกง ทอด และก้อยหอยด้วยนะ
หากว่ายังมีหอยในนาอยู่ยั้วเยี๊ยอยู่อีกละก็ เอามาทำน้ำปลาเลยค่ะ ท่านที่เลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ด ก็เอามาเลี้ยงหมูให้อ้วนพี เลี้ยงเป็ดให้ไข่ดีซะ ไข่ยิ่งแพง ๆ อย่างนี้ยิ่งได้กำไรสองต่อเลยละ
ว่าแล้วก็ขอลางานไปเก็บหอยเชอรี่สักวันสองวันก่อนนะคะ
๐๐๐๐