ผึ้งตัวเล็ก ชันโรงน่าสน คุณค่ามหาศาล
โดยป่าน ศรนายณ์ เรื่อง/ภาพ-ธงชัย เปาอินทร์
นายสุชิน นิ่มนวล ตำแหน่ง หัวหน้าสถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์จันทบุรี เล่าให้ฟังว่า ชันโรงก็คือผึ้งที่ตัวเล็ก แต่ไม่มีเหล็กใน จึงไม่ต่อยหรือทำร้ายใคร มีชื่อพื้นบ้านหลายชื่อเช่นอีสานเรียกว่าแมงขี้สูด คนใต้เรียกว่าอุงแมงโลม คนเหนือเรียกว่าแมงขี้ตึง คนภาคตะวันออกเรียกว่าตัวชำมะโรงหรือแมลงอีโลม คนภาคตะวันตกเรียกว่าตัวตุ้งติ้ง คนภาคกลางเรียกว่าชันโรง หรือชันรง แต่ชนิดที่จันทบุรี(ในกล่องไม้) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trigona apicalis อยู่ในลำดับ Hymenoptera วงศ์ APIDAE วงศ์ย่อย Meliponinae ชื่อสามัญคือ Stingless bee ในประเทศไทยพบแล้ว 29 ชนิด
ตัวชันโรง มี 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชันโรงนางพญามี 13 ปล้อง ชันโรงงานมี 12 ปล้อง ชันโรงตัวผู้มี 13 ปล้อง นั่นหมายความว่า ชันโรงเป็นผึ้งสังคมเช่นเดียวกับผึ้ง ซึ่งแบ่งหน้าที่กันทำงาน มีวงจรชีวิต 4 ระยะคือ ระยะไข่ ระยะตัวอ่อน ระยะดักแด้ และระยะเต็มวัย ส่วนชันโรง"นางพญา"มีหน้าที่ผสมพันธุ์กับชันโรงตัวผู้แล้ววางไข่ในหลอดรวง พอเกิดเป็นตัวอ่อนชันโรง"งาน"ก็ทำหน้าที่เลี้ยง จนกว่าจะพัฒนาเป็นดักแด้ และเป็นตัวเต็มวัย อายุขัยของชันโรง 30-40 วัน
การสร้างรังไม้คล้ายๆรังที่ใช้เลี้ยงผึ้ง มีรูเล็กๆให้ชันโรงบืนเข้าออกได้ ที่ตั้งกล่องชันโรงควรอยู่ในสวนผลไม้หรือจุดที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่มากๆ ป่านเหลียวมองไปรอบพื้นที่ของสถานีวิจัย ขณะนั้นต้นกระถินเทพากำลังออกดอกสะพรั่งไปทั้งบริเวณ ไม้ต้นนี้มีดอกดก น้ำหวานเหลือเฟือ ผึ้งงานมีหน้าที่บินไปหาน้ำหวาน(บินได้ไกล100-300 เมตร)มาให้นางพญาและเลี้ยงตัวอ่อน รวงชันโรงสีคล้ำๆ ไม่เหมือนรังผึ้งซึ่งดูสะอาดน่ากิน แต่ขอโทษที น้ำผึ้งจากชันโรง 3-5 รังจะได้น้ำผึ้งชันโรง 1 ขวดแม่โขงราคาขวดละ 450-500 บาททีเดียว ญี่ปุ่นรับไม่อั้น
ความโดดเด่นของชันโรงอยู่ที่แวะเยี่ยมยามดอกไม้ทุกชนิด ไม่ว่าดอกไม้ดอกนั้นๆจะถูกแมลงตัวอื่นๆเข้าไปเปิดบริสุทธิ์แล้วหรือไม่ ทำให้การผสมพันธุ์เกสรเป็นไปได้อย่างเต็มพิกัด ประกอบกับตัวเขาเล็กกว่าผึ้งถึง 2-3 เท่า จึงชอนไชได้ดีกว่า ผลการซอกไชของชันโรงทำให้ผลไม้ติดผลมากกว่า 70% นอกจากนั้นยังมีประโยชน์มากมายหลายประการเช่น คนอีสานใช้แต่งแต้มเครื่องดนตรีประเภทโปงลาง โหวด แคน ติดสนูของว่าว ยาคุน้ำ ส่วนภาคกลางใช้ยาระนาด กลอง ช่วยทำให้เครื่องดนตรีไพเราะมากขึ้น เป็นต้น
ชันโรงมีอยู่ 3 กลุ่มโดยแบ่งแยกตามแหล่งที่สร้างรัง เช่นชันโรงตามต้นไม้ที่เป็นโพรง เช่น Trigona apicalis แมงขี้สูด หรือ Trigona fimbriata ชันโรงขีย้าแดง ชันโรงที่อยู่ในโพรงดิน เช่น Trigona collina ชันโรงอุงดิน และชันโรงที่ชอบอยู่ตามสิ่งก่อสร้างเช่นท่อน้ำ เช่น Trigona laeviceps อุงแมงโลม แต่ไม่ว่าชนิดไหนหรือทำรังที่ไหน ในหนึ่งรังย่อมแบ่งออกเป็น หลอดชันโรงนางพญา หลอดชันโรงงาน หลอดชันโรงเก็บเกสร และหลอดเก็บน้ำผึ้ง
คุณค่าเปรียบเทียบโภชนาการน้ำผึ้งและน้ำผึ้งชันโรง
องค์ประกอบของน้ำผึ้ง (Honey composition) |
มาตรฐานน้ำผึ้งของผึ้ง (Apis mellifera) |
ผึ้งจิ๋ว (ชันโรง) (Trigona spp.) |
ความชื้น (กรัม / 100 กรัม) |
สูงสุด 20.0 |
สูงสุด 30.0 |
รีดิวซิง ซูการ์ (กรัม / 100 กรัม) |
ต่ำสุด 65.0 |
ต่ำสุด 50.0 |
น้ำตาลซูโครส (กรัม / 100 กรัม) |
สูงสุด 5.0 |
สูงสุด 5.0 |
ความเป็นกรด (meg / 100 g) |
สูงสุด 40.0 |
สูงสุด 75.5 |
เถ้าถ่าน / แร่ธาตุ (กรัม / 100 กรัม) |
สูงสุด 0.5 |
สูงสุด0.5 |
HMF (มล.ก / กก.) |
สูงสุด 40.0 |
สูงสุด 40.0 |
เอนไซม์ไดแอสเดส |
ต่ำสุด 8.0 |
ต่ำสุด 7.0 |
หมายเหตุ รีดิวซิงซูการ์ (reducing sugar) เป็นน้ำตาลที่พบในพืชก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น น้ำตาลซูโครส (sucrose )
HMF ย่อมาจาก Hydroxymethylfuraidehyde เป็นค่าที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันน้ำผึ้งไปผ่านความร้อน ค่า HMF จะสูงขึ้นด้วยวิธีการอบไอร้อน
ปล.ขอขอบคุณ สำนักประชาสัมพันธุ์เขต 7