จากCentralworld ไฟบัลลัยกัลป์เผาไหม้หัวใจคน
ถึงไฟฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง/ภาพ- ธงชัย เปาอินทร์
ปีที่ผ่านมา เกือบทั้งปี เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองที่ถนนราชประสงค์ ก็หน้าCentralworld-วัดปทุมวนาราม ดังไปทั่วโลก ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อทางเลือกจำพวก ทีวีดาวเทียม อินเทอเนท เว็บไซท์ ประโคมกันจนนักท่องเที่ยวหายไปจากแผ่นดินไทยแทบเกลี้ยง ก็จะไม่น่าตระหนกตกใจได้อย่างไร ฆ่ากันตาย 91 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน สูญหายไปอีกเท่าไรไม่ปรากฎ(เสียงลือเสียงเล่าอ้างหลังการรอดตายว่าเห็นศพถูกโยน.....)
ตรีมูระติ พระพิฆเณศ
ด้วยสาเหตุเพียงประชาชนคนเสื้อแดงมือเปล่าๆมาเรียกร้องขอหีบบัตรเลือกตั้ง แต่กลับได้หีบศพกลับไปแทน หนังสติ๊กและไม้ไผ่รวกเหลาแหลมแต่หาญสู้กับปืนเอ็ม 16 สไนเปอร์ เจาะกระโหลก และรถถัง กับทหารนับหมื่น ถ้าสู้กันตัวต่อตัว มือต่อมืออย่างลูกผู้ชาย(หญิงด้วย)ละก้อ ป่านจะเอาด้วยอีกคนเหมือนกัน
ผู้ศรัทธาตั้งจิตอธิษฐาน ต้นคริสมาสต์ในห้าง
แต่ว่าโลกมันแคบด้วยอิเลคทรอนิก ข่าวสารจึงแผ่กระจายอย่างรวดเร็ว คนไทยในต่างแดนรู้ได้จากอินเทอเนทเร็วปริ๊ด เสียงก่นด่าสาบแช่งบนหน้าเว็บเพียบ แม้กระทั่งบนมือถือที่ถ่ายรูปได้ อัดเสียงได้ โครงการ G3-4 ก็เลยถูกคุมกำเนิด มิเช่นนั้นข่าวสารไปเร็วชั่วพริบตามันดู อันตรายใช่ไหมอำมาตย์เอ๋ย บ้านเมืองล้าสมัยก็เพราะว่า ความกลัว ทำให้เสื่อม ชิมิ ชิมิ
หนุ่มสาวมากหน้าหลายตามาเที่ยวกันสนุกสนาน
อ้าว ป่านก็เลือดลมเดินไม่สะดวกซะแล้ว มาเที่ยววันสิ้นปีเก่า หวังจะมาต้อนรับปีใหม่ตามสมัยนิยม แต่ดันเพี้ยนไปคำนึงถึงเรื่องราวของพื้นที่ตรงนี้ วันก่อนเสียงร้องไห้โหยหวล แต่วันนี้ ทุกคนจะมาโห่ฮารอรับนาทีแรก เรียกกันเป็นภาษาฝรั่งว่า เคาต์ดาว(Countdown) ทั้งๆที่ในความรู้สึกแล้วอยากไปชมตะวันก่อนใครที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มมากกว่า มาแล้วอดสะท้อนใจไม่ได้สักที เรื่องราวเหล่านี้จะถูกเล่าขานกันไปชั่วกัลปาวสานอย่างแน่นอน มันคือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง
แม่กระโดดขี่หลังพ่อให้ลูกๆถ่ายรูปน่ารัก หล่อซะไม่มี...เอะ หรือว่าสวย
ป่านเดินตามช่างภาพคนขยันไปติดๆ ถ้าไม่ติดได้พลัดหลงกันอย่างแน่ๆ ก็ฝูงชนแน่นไปทุกตารางนิ้ว เป็นคนหนุ่มคนสาวเสียส่วนใหญ่ จะแก่ก็เห็นจะเป็นช่างภาพของป่านนี่แหละค่ะ ไฟวันปีใหม่แปลกกว่าทุกปี มีการเปลี่ยนสีไปได้หลายรูปแบบ ทำให้ดูแล้วมีชีวิตชีวาดีจังเลยค่ะ แต่พอเดินไปเห็นรูปปั้นสีทองทาปากแดงๆ ก็อดสะท้อนใจไม่ได้อีก ที่นี่เคยหลบลูกปืนค่ะ นึกแล้วยังสยองไม่หาย คนอะไรใจร้ายใจดำซะไม่มี ปีใหม่แล้วจะเปลี่ยนใจได้ไหมนี่
ส่วนหนึ่งของผู้คนที่มาส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่
ห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์นี่ก็ปรับปรุงได้รวดเร็ว เพิ่งจะโดนเผาไป(โดยใครหว่า) ภายในห้างมีกระจกเขียนด้วยตัวหนังสือให้เตะตาล่อใจวัยรุ่น เดินเข้าไปแอคท่าถ่ายรูปกันเป็นหมู่ๆ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะสดชื่น เห็นแล้วก็มีความสุขไปด้วย สมัยป่านยังเอาะๆนั้นไม่มีอย่างนี้ ไม่มีเคาดาวน์หรอก มีแต่เค้าหลอกกันเล่น เต้นกันมันๆด้วยเสียงเพลงเร้าใจ แต่วันนี้ทั่วโลกเขาเคาท์ดาวน์กันหมด ประเทศไทยไม่ทำตามอย่างจะได้หรือ แค่คืนนั้นคืนเดียว ห้างก็รับทรัพย์ไปอักโข ยิ่งลานเบียร์ของทุกค่ายยิ่งได้ไปกันจมหู (อย่าลืมจ่ายภาษีเต็มๆหน่อยนะค่ะ)
ยุคนี้คือยุคสมัยของเขา
พอถึงช่วงใกล้จะมีการนับถอยหลัง โฆษกทุกเวทีประกาศเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว(Tourist) ที่ยังอยู่ในห้างทุกชั้นลงมาออกันที่ระเบียงหน้าห้างอีเซตันจนถึงเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ไล่ลงไปริมฟุตบาททั้งสองฝั่ง ส่วนถนนนั้นถูกปิดตายไปโดยปริยาย ตำรวจน้อยตำรวจใหญ่เพียบยังกับจะมาปราบโจร เยอะจริงๆ ป่านยังได้รับการ์ดใบเล็กๆ เป็นปฏิทินของผบ.ตร.ที่อ้วนจนพุงปลิ้น
ชื่อวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ส่วนผบ.ชน.ชื่อพล.ต.ท.จักร์ทิพย์ ชัยจินดาก็เดินประกบแจอยู่แล้ว
ดิจิตอลดีอย่างนี้เอง บันทึกภาพความทรงจำได้เสมอ
"ไอ้หนุ่มคนนั้น นปส.รุ่น 41 รุ่นเดียวกับผม"
ช่างภาพแก่ๆของป่านชี้ชวนให้ดูแล้วอดคุยไม่ได้ เฮ้อ!!
"เขารุ่งโรจน์แต่ลุงน่ะรุ่งริ่ง ชิมิ ชิมิ" ป่านฟังแล้วก็ได้สัจธรรมเลยแซวกันนิดๆ
"36 ปีไม่เคยหิ้วกระเช้าไปอวยพรใครโว๊ย"
วัยระเริง..แต่น่ารักๆ ใสๆบริสุทธิ์..เน๊อ
ลุงของป่านยังคุยด้วยหัวใจทรนง อ่านแล้วก็กรุณาคิดให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจปฏิบัติตาม ทันใดเหมือนต้องมนต์ ทุกคนยืนออกันเงียบ แล้วมองเหม่อไปจุดเดียวกันคือนาฬิกาเรือนใหญ่ พลันเสียงพิธีกรคนหนึ่งก็ส่งเสียงนับดังก้องกังวาล
"หนึ่ง..สอง..สาม..สี่..ห้า..หก..เจ็ด..แปด..เก้า..ศูนย์ สิ้นปีเก่าแล้วคร๊าบ" เสียงโห่ร้องก้องไปทั่ว จนหูอื้อไปหมด
"หนึ่ง..นาทีแห่งความหมาย หนึ่งนาทีที่เปลี่ยนไป หนึ่งนาทีที่เร้าใจ เพราะว่าเป็นหนึ่งนาทีแรกของวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2554 ไชโย..ไชโย..ไชโย โห่หิ๊วๆๆๆๆ"
สรรพเสียงเพรียกไปทั้งหว่างตึกสูงเสียดฟ้า เสียงพลุดังเป็นระยะ แล้วพลุก็แตกเป็นสีสันงามตา ได้เวลาแห่งการรอคอย ได้เวลาแห่งความหวัง และได้เวลาเปลี่ยนชีวิตอีกปีหนึ่งแล้ว
ป่านมองไปทางไหนก็เห็นภาพแห่งความระทึกใจ มีความรู้สึกที่จับต้องได้ มันคือหนึ่งนาทีแรกที่อาจหวังว่าจะดีขึ้น หรืออาจจะเลวลง แต่มันก็เป็นหนึ่งนาทีที่ประทับใจไม่น้อย บอกได้คำเดียว ป่านอินไปกับความรู้สึกของเพื่อนร่วมพื้นที่ยืนอยู่ด้วยกัน พูดด้วยภาษาเดียวกัน และอยู่ในขอบขัณฑสีมาเดียวกัน เราคนไทยเหมือนกันๆๆๆๆ(ทำเสียงก้องกังวาล...)
นี่คือนาทีที่รอคอย......ช่างน่าตื่นเต้นระทึกใจ
ปีใหม่มาเยือนแล้ว ลาก่อนปีเก่าที่มีความหมายไปในทางเศร้าสะเทือนใจ ขอต้อนรับปีใหม่ที่วาดหวัง หวังว่าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ หวังว่าประชาชนจะไร้ซึ่งคนยากไร้และหวังว่าประเทศเดียวต้องมาตรฐานเดียวกัน เพราะว่าทุกคนล้วนเป็นคนไทยเหมือนๆกัน มีชีวิตและเลือดเนื้อเหมือนกัน มีความรักและมีความห่วงหวงแผ่นดินเกิดเหมือนกัน
ไม่รักกันแล้วจะไปรักกับใครหรือ ไชโย..ไชโย..ไชโยยย
แถมด้วยพลุสีสวยๆ....เพื่อต้อนรับปีใหม่ 2554