”ชัยศิขริน” ฟันธง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยยังรุ่งโรจน์ โดยภาวิณีย์ เจริญญิ่ง เรื่อง-ภาพ

                                        ”ชัยศิขริน” ฟันธง

                             ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยยังรุ่งโรจน์ 

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ

               ถ้าไปเดินงานโอท็อปไม่ว่าจะในส่วนกลางหรือในส่วนภูมิภาค แม้กระทั่งไปงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามเกี่ยวกับสมุนไพรและงานสปา มักจะเห็นบูธของ”บ้านสวนสมุนไรชัย  ศิขริน”โดดเด่นเป็นสง่า ด้วยการตกแต่งบูธอย่างสวยงาม  พร้อมสาวน้อยหน้าตาแฉล้มนุ่งผ้าซิ่นเรียกลูกค้าให้เข้ามาทดลองขัดผิวขัดหน้าจะได้รู้กันเดี๋ยวนั้นเลยว่าสมุนไพรไทยยี่ห้อ”ชัยศิขริน”นั้นดีเลิศประเสริฐศรีตามสรรพคุณที่ระบุไว้หรือไม่

               วิธีการดังกล่าวทำให้ลูกค้ารายหลายติดใจต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเพราะได้ทดลองกับตัวเองแล้วปรากฎว่าเห็นผลตามที่บอกไว้จริง รัฐมนตรีและอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย หลายคนที่ดูแลงานโอท็อปก็เคยทดลองขัดผิวที่มือและแขนกันมาแล้ว

               ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์สมุนไพร”ชัยศิขริน” ใช่แต่จะมีการบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยดูน่าใช้เท่านั้น ยังมีสินค้าหลากหลายให้เลือกตามความต้องการและตามความเหมาะสมของผิวลูกค้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งที่บ้านและในสปา ล่าสุดผลิตภัณฑ์มะขามขัดผิว ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นโอท็อป 5 ดาวของจ.ลำพูนอีกด้วย             

              “คุณสายทอง  ชัยศิขริน” หรือป้าแดง เจ้าของโปรดักส์ดังกล่าว ซึ่งมีกิจการ อยู่ที่ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เล่าว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรเมื่อปี 2547 ตอนแรกเริ่มต้นที่ตัวเกลือสปาขัดผิวธรรมดา ๆ ซึ่งในท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายเจ้า หลังจากนั้นเจอปัญหากับคำถามของลูกค้าที่ซื้อไปใช้แล้วติดใจกลับมาซื้อใหม่แต่ก็มีข้อสงสัยว่าเกลือตัวนี้สามารถขัดได้ทุกวันไหม ซึ่งถ้าเป็นเกลือขัดผิวเม็ดจะใหญ่ไม่สามารถใช้ทุกวันได้เพราะเซลล์ผิวหน้าของคนเราบอบบาง ด้วยเหตุนี้เองเลยมีความคิดพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อให้สมุนไพรขัดผิวเป็นเม็ดขัดที่ทำจากธัญพืชเพราะจะนุ่มบางเบาละลายน้ำได้เร็ว อีกทั้งยังอ่อนโยนกว่าสามารถใช้ได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่

                สาเหตุหนึ่งที่คุณสายทองหันมาจับธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรเพราะครอบครัวคลุกคลีกับสมุนไพรมาก่อน  โดยคุณปู่เป็นแพทย์สมุนไพร ส่วนคุณพ่อเป็นแพทย์เสนารักษ์ ขณะที่เจ้าตัวจบวิทยาลัยครูเชียงใหม่ด้านเอกศิลป์และชื่นชอบเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว ประกอบกับอยากให้เป็นธุรกิจที่ลูกสาวสามารถสืบทอดต่อกิจการได้ จึงมาลงตัวที่ผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำจากสมุนไพร ซึ่งประยุกต์มาจากสูตรโบราณ อย่างเช่นการใช้มะขาม และขมิ้นมาขัดผิวขัดตัว 

               แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางการทำผลิตภัณฑ์มาก่อน แต่เมื่อจะทำอาชีพนี้เธอจึงไปอบรมศึกษาเพิ่มเติมและใช้วิธีลองผิดลองถูกมาเรื่อย ประกอบกับครอบครัวมีพื้นฐานด้านสมุนไพรมาก่อน จึงเป็นต้นทุนที่ดี และได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด พร้อมส่งเข้ารับการจัดสรรสินค้าโอท็อป ซึ่งปีแรกๆก็ได้โอท็อป 3 ดาว กระทั่งได้5 ดาวในที่สุด

               อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรก ”ชัยศิขริน” มีโปรดักส์หลากหลาย อาทิ โฟมล้างหน้า แชมพูสระผมทั้งหมด  3 สูตร พร้อมครีมนวดผมหรือทรีตเม้นท์บำรุงผม เซรั่มผม ส่วนตัวโปรดักส์ที่ใช้เป็นสปาขัดผิวมีประมาณ  15  สูตร แล้วก็มีบอดี้โลชั่น  9 สูตร อาทิ สูตรผสมน้ำนมข้าว สูตรผสมโยเกิต  มีสครับขัดผิว พวกสครับมะขาม ส่วนในปีนี้คุณสายทองตั้งเป้าว่าจะผลิตสินค้าที่เน้นเรื่องเส้นผม ประเภทปิดผมงอก ผมขาว สินค้าอีกประเภทหนึ่งที่ตั้งใจจะทำคือครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหน้าทั้งหลาย

                สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด เจ้าตัวแจกแจงว่า เป็นมะขามขัดผิว สครับมะขาม และโลชั่นมะขาม เพราะลูกค้าทุกคอยากผิวใสผิวขาวกัน อีกทั้งสรรพคุณของมะขามติดหูติดตาคนไทยมาโดยตลอดเพราะเป็นสมุนไพรโบราณ หลายคนคนรับรู้มาก่อนว่าการใช้มะขามขัดจะทำให้ผิวใสขาวขึ้น 

                 “บางคนถึงขนาดเลิกใช้เครื่องสำอางของเกาหลีแล้วหันมาใช้ของเรา เพราะเราใช้วิธีสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการออกสู่ตลาดทุกครั้ง โดยจะบอกว่าลองเอาไปใช้ดูก่อน ถ้าคุณใช้แล้วแพ้หรือมีปัญหาโทรหาได้ 24 ชั่วโมงเพราะเรารับรองในเรื่องคุณภาพ รับรองในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากของเราไม่มีสารต้องห้ามถึงมีโอกาสแพ้ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อผิว ถามว่าลูกค้าใช้แล้วแพ้มีไหม มี ทุกวันนี้เราขายความเป็นจริง ต้องยอมรับว่าพื้นผิวของคนเราไม่เหมือนกัน คุณอาจจะแพ้ในส่วนของผสม ใช้แล้วมีผื่นแดงขึ้นมา แต่พอหยุดก็หายไม่มีเป็นอะไรมากกว่านั้น เรารับรองความปลอดภัยตรงนี้ ลูกค้าก็กล้าทดลองใช้ จากปากต่อปากลูกค้าใช้ดีแล้วบอกต่อ ส่วนหนึ่งเหมือนการโฆษณาของเราต่อไปด้วย  ตัวดิฉันเองเป็นเจ้าของก็ต้องใช้สินค้าของเรา เราต้องทดลองกับตัวเราเองก่อน”

              ด้วยความที่”ชัยศิขริน”ใช้สมุนไพรไทยที่มีอยู่ในประเทศเป็นหลัก เป็นสมุนไพรที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปตามครัวเรือน ราคาที่ขายจึงอยู่ในระดับที่คนไทยรับได้ โดยเริ่มต้นที่ราคาตั้งแต่ 120-450 บาท ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ทั่วไปในท้องตลาดนำเข้ามาทำให้ต้นทุนสูงมาก ราคาขายจึงสูงตามไปด้วย

             จากประสบการณ์ในการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมาเกือบ 10 ปี คุณสายทองบอกว่า นอกจากจะศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานโอท็อปโดยตรง ทำให้ได้รับข้อมูลต่างๆเพื่อนำมาปรับมาพัฒนาการผลิตโปรดักส์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง

               ถามถึงเรื่องคู่แข่งในท้องตลาด คุณสายทองรีบตอบ “เยอะมาก แต่ในเรื่องของสูตร การสร้างชื่อ สร้างแบรด์ เป็นเรื่องสำคัญ เราทำมาปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้ว ใช้วิธีออกตลาดโดยการนำเสนอด้วยตัวเอง สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าหรือคนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งลูกค้าของเราถือว่าอยู่ในตั้งแต่ระดับล่าง ระดับกลาง ระดับบน คละกันไปแต่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยคนทำงาน”

               ในการทำตลาดของ”ชัยศิขริน”นั้น มุ่งเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก และมียอดขายเป็นที่น่าพอใจ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี หลายคนทดลองใช้แล้วก็กลายเป็นลูกค้าประจำกันไปเลย และยิ่งได้รับการคัดสรรเป็นโอท็อป 5 ดาวของจ.ลำพูน รวมทั้งผ่านการรับรองจากอย.ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น เหล่านี้เองจึงทำให้คุณสายทองตั้งเป้าว่าเมื่อตลาดในประเทศอิ่มตัวแล้วก็จะขยายไปยังตลาดต่างประเทศต่อไป ทั้งนี้เพราะชาวต่างชาติเองก็สนใจและชอบใช้สมุนไพรไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีลูกค้าต่างประเทศอยู่บ้างอย่างเช่นที่นอร์เวย์ อังกฤษ และที่ประเทศลาว แต่ยังสั่งในปริมาณไม่มากนัก

                “กิจการของเราเป็นธุรกิจครอบครัว มีคนงาน 15 คน เราได้จดแจ้งเป็นสถานประกอบการเรียบร้อยแล้ว ที่ต.บ้านโฮง อ.บ้านโฮง จ.ลำพูน เราเป็นโรงงานมาตรฐานผ่านเกณฑ์โรงงานเรียบร้อยแล้ว สะอาด ปลอดภัย  เรื่องยอดขายก็เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10-20%   ถือว่าสวนกระแสในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้  ซึ่งสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการยอมรับยอดขายสูงขึ้นเพราะคนหันมาใช้สมุนไพรแล้วก็ดูแลสุขภาพกันมากขึ้น คิดว่าแนวโน้มสินค้าพวกนี้ยังไปได้อีกไกล เพราะผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไม่มีวันตาย คนที่ใช้ก็ต้องการให้ตัวเองดูดี แล้วก็ปลอดภัยด้วย”

                 ทั้งนี้ในการทำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างใดอย่างหนึ่งนั้น คุณสายทองบอกว่า ต้องฟังผู้ใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแนวความคิด หรือลูกค้าถามมาก็ใช้ตัวนั้นเป็นเกณฑ์ในการวัดที่จะผลิตสินค้าตัวใหม่ ซึ่งเธอออกปากว่าลูกค้าสามารถโทรติดต่อได้ที่เบอร์ 089-8503130 089-8553130 หรือ 053-591127  และที่www.chaisikarinherbal.com

                เวลานี้ผลิตภัณฑ์”ชัยศิขริน” นอกจากจะออกบูธตามงานต่างๆแล้ว ยังวางขายที่เซ็นทรัลกาดสวนแก้วเชียงใหม่ สนามบินเชียงใหม่ อีกไม่นานจะมีขายห้างเซ็นทรัลขอนแก่น และที่ห้างเซ็นทรัลเชียงราย ส่วนที่อื่นๆหากลูกค้าสนใจอยากจะซื้อหาหรือรับเป็นตัวแทนจำหน่ายก็โทรติดต่อให้ส่งไปทางไปรษณีย์ได้

               นับเป็นผู้ผลิตสมุนไพรด้านความสวยความงามอีกรายที่มีคุณภาพและเป็นที่เชื่อถือของลูกค้า อีกไม่นานเกินรอเราๆท่านๆคงจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของแบรนด์”ชัยศิขริน” เกี่ยวกับการปิดผมขาว ผมหงอก ซึ่งเป็นตลาดที่มีเม็ดเงินมหาศาล