พระคเณศ เทพผู้ประทานความสำเร็จ
“เอื้อยนาง”
ในสภาวการณ์แห่งความสับสน ผู้คนเรียกร้องหาความปรองดอง ขณะเหล่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมีจิตที่ครองไว้แต่ความมุ่งร้ายหมายขวัญกันและกันจนเกิดวิกฤตอย่างนี้ คนทั่วไปผู้ไร้ซึ่งอำนาจต่อรองใด ๆ พลอยหวั่นไหว เหว่ว้า จะหาที่พึ่งที่ใดได้ แม้แต่ผู้แทนที่เราเทใจให้ด้วยศรัทธาและวางใจ แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงนักแสดง โหด มัน ฮา เท่านั้น
จะอยู่ได้อย่างไร หากมีแต่หวั่นไหว เหว่ว้า ไร้หลักยึด ศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย ทั้งปวงจึงได้รับแรงใจ แรงศรัทธา จากผู้คนท่วมท้น มากมาย หลายหลากลัทธิ วิธีการ เพิ่มขึ้นทุกวันเห็น ๆ ก็มนุษย์นั้นมีจิต มีวิญญาณ มีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดและสุขสบาย
ชีวิตที่ต้องรอดหมายถึงตัวเอง ลูกหลานว่านเครือ เชื้อสายลายล่อง ตลอดพี่น้องปล้องปลายสายพันธุ์โฮโมเชเปี้ยน
การยึดมั่น ศรัทธา เทใจ ถวายกาย กราบไหว้วิงวอนแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือจึงมีอยู่คู่สังคมมนุษย์เพื่อกิจดังกล่าวเสมอมาตราบนานเท่านาน
พระคเณศ เป็นเทพองค์หนึ่งที่มีผู้ศรัทธาท่วมท้นในปัจจุบัน ถือกันว่าเป็นเทพแห่งความสำเร็จ เป็นเทพผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวง
พระคเณศ เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนาฮินดูที่แพร่จากอินเดียสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานาน และโดยเหตุที่ชาวพื้นเมืองในแถบนี้นับถือผีสางเทวดาอยู่ก่อนแล้วจึงง่ายที่จะรับเอาเทพเจ้าต่าง ๆ ของฮินดูเข้าผสมกลมกลืนกลายเป็นลักษณะเฉพาะของตนแต่ละท้องถิ่น
พระคเณศจากอินโดนิเซีย
พระคเณศมีนามอื่นในภาษาไทย เช่น พระพิฆเณศว์ พระพิฆเณศวาร พระพิคเนตร พระคณปติ พระวิฆเณศวร เป็นต้น และเป็นเทพที่มีรูปลักษณ์ต่างจากเทพองค์อื่น ๆ ด้วยมีเศียรเป็นช้าง ในมือถือสิ่งของต่างกันออกไปเฉพาะองค์ มีปางต่าง ๆ มากมาย เช่น ปางสัมปายะ ปางเสวยสุข ปางปัญจมุข ปางสมาธิ ปางวีระคณปติ ปางบาละคณปติ ปางปราบมาร เป็นต้น
เรื่องราว การกราบไหว้บูชาพระคเณศนั้นมีหลากหลาย ตามลัทธิความศรัทธา ในสังคมไทยยกให้ท่านเป็นประธานในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ทางด้านศิลปะมานาน เป็นสัญลักษณ์ของกรมศิลปากร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาลัยช่างศิลป์ และสถาบันบันฑิตพัฒนศิลป์ ในพิธีเปิดกล้องภาพยนตร์ พิธีไหว้ครูนาฏศิลป์ โขน ละคร หรือ พิธีครอบครูในการเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ พิธีไหว้ครูของควาญช้าง มีการกล่าวบูชาพระคเณศก่อนจึงเป็นสิริมงคล ทำกิจการงาน และเล่าเรียนได้สำเร็จ
เครื่องสังเวยพระคเณศนิยมใช้ผลไม้สุก อ้อย น้ำอ้อย นมวัว ขนมโทกะ(ขนมต้มแดง ต้มขาวของไทย) ตลอดพืชผัก ธัญพืช และเครื่องเทศ แต่ไม่ใช้เนื้อทุกชนิด
ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ที่ผ่านมาการบรรยายพิเศษเนื่องในสัปดาห์สถาปนากรมศิลปากร และ ๑๐๐ ปีกรมศิลปากร เรื่อง
“พระคเณศ รูปลักษณ์ และความเชื่อ จากการศึกษาเชิงนิเวศวัฒนธรรม” บรรยายโดย อาจารย์ กฤษฎา พิณศรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีผู้สนใจเข้าฟังจนล้นห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับพระคเณศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
อ.กฤษดา พิณศรี ม.ราชภัฎสุรินทร์
จบแล้วนำชม และกราบสักการะพระคเณศองค์สำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งจัดแสดงในห้องศิลปะชวา อาคารมหาสุรสิงหนาท เป็นพระคเณศจากประเทศอินโดนีเชีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร เมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว ผู้สำเร็จราชการฮอลันดาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราเสด็จประพาสชวาในปีพ.ศ.๒๔๓๙ เป็นพระคเณศศิลาจำหลักนูนสูง ศิลปะชวาตะวันออก พุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๖ สุง๑๗๒ เซนติเมตร ประทับนั่งบนบัลลังก์กะโหลกมนุษย์ มี ๔ กร หัตถ์ขวาบนถือขวาน ซ้ายบนถือพวงลูกปะคำ หัตถ์ขวาและหัตถ์ซ้ายล่างถือถ้วยขนม
เครื่องประดับตกแต่งองค์ประณีตลวดลายเด่นชัด เช่น ศิราภรณ์กุณฑล พาหุรัด เข็มขัดรัดองค์ ทองพระกร ทองพระบาท ทรงภูษาลายกะโหลกมนุษย์ และสวมสายยัชโญปวีตรูปงู ดูสง่าและทรงอำนาจ
นอกจากนั้นในช่วงสัปดาห์ ๑๐๐ ปีกรมศิลปาการ ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔ ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดโอกาสให้ประชาชนได้สักการะ ละขอพรพระคเณศที่สำคัญจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่าง ๆ ๑๑ แห่ง จำนวน ๓๒ รายการมาจัดแสดงร่วมกัน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นครั้งแรกของประเทศที่ประชาชนจะได้ชม และสักการะขอพรจากพระคเณศที่มีอายุถึง ๑๒๐๐ ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลร่วมกันอีกด้วย
๐๐๐๐๐