http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,066,903
Page Views16,379,246
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

สรงน้ำพระทวารวดี 1,600 ปีที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

สรงน้ำพระทวารวดี 1,600 ปีที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

สรงน้ำพระทวารวดี 1,600 ปีที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง

อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                กำแพงแสนเป็นเมืองเก่าสมัยพุทธศตวรรษที่ 11-16 ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอู่ทองและเมืองนครไชยศรี และเชื่อกันว่าน่าจะเป็นเมืองบริวารขนาดเล็กของเมืองนครไชยศรี มีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ ไม่เหลือสิ่งก่อสร้างโบราณแต่อย่างใดเลย ถ้ามองจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน มีคูน้ำขนาดกว้างกว่า 20 เมตรล้อมรอบ มีคันดินเสมือนหนึ่งเป็นกำแพงเหลือให้เห็นอยู่โดยรอบ 

พระทวารวดีอายุ 1,600 ปี

                มีร่องรอยประตูทางเข้า 4 ด้าน ได้แก่ทิศเหนือเรียกว่าประตูท่านางสรง ทิศตะวันออกเรียกว่าประตูท่าพระ ทิศใต้เรียกว่าประตูท่าช้าง และทิศตะวันตกเรียกว่าประตูท่าตลาด ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอกำแพงแสนในปัจจุบันนี้เพียง 2-3 กิโลเมตรเศษๆ  ชื่ออำเภอกำแพงแสนตั้งมาจากชื่อเมืองโบราณแห่งนี้ กำแพงแสนจึงไม่ใช่เพียงอำเภอที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี หากแต่มีประวัติศาสตร์ที่น่าขุดค้นสนใจยิ่ง

      

เจ้าอาวาสวัดสว่างชาติสรงน้ำพระทวารวดีโบราณ

               สิ่งที่ชาวกำแพงแสนภูมิใจมากคือ เมื่อได้มีการขุดค้นเพียงบางส่วน แม้ถูกทำลายไปอีกหลายส่วน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ชาวกำแพงแสนก็ยังเหลือความภูมิใจที่ได้พระสมัยทวารวดีไว้บูชาอันเป็นหลักฐานมั่นคงว่า เมืองกำแพงแสนมีอยู่จริง มีอยู่อย่างควรอนุรักษ์รากเหง้าชาวกำแพงแสนและมีพระทวารวดีให้กราบไหว้ได้สิริมงคลใส่ตัว  ปัจจุบันนี้ พระทวารวดีได้เก็บรักษาและระแวดระวังภัยอยู่ที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง ม.5 บ้านยาง ต.ทุ่งกระพังโหมอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

พล.ท.กะสิณ ทองโกมล ประธานในพิธีสรงน้ำพระทวารวดี

              ผมเป็นชาวกำแพงแสนใหม่ย้ายมาจากจังหวัดอื่น แต่เมื่อมาอยู่แล้วก็รู้สึกว่าอยู่สุขสบายดีมีความสุข มีความก้าวหน้า และประกอบอาชีพสุจริตหลังเกษียนราชการได้อย่างเสรี วันนี้(17เมย.54)ได้ข่าวดีว่าจะมีการสรงน้ำพระทวารวดี พระเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง จึงได้เตรียมพร้อมด้วย กล้องถ่ายรูป เป้สะพายอุปกรณ์ และหัวใจใส่บุญตามประสาพุทธศาสนิกชนที่ดี ไปร่วมด้วย

นางอรทัย วุฒาพาณิชย์ นายกเทศมนตรีกำแพงแสน

              นางอรทัย วุฒาพาณิชย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลกำแพงแสนได้ร่วมกับพ่อค้าประชาชนในเขตพื้นที่ จัดงานสรงน้ำพระทวารวดีอายุ 1,600 ปีที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง โดยมี พล.ท.กะสิณ ทองโกมล เป็นประธานในพิธีตอนบ่ายวันนี้ 17 เมษายน 2554 หลังจากนั้นได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปสรงน้ำพระทวารวดีและพระสงฆ์ที่นั่งอำนวยพรให้กับญาติโยม หลังจากนั้นก็ได้มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุของชาวกำแพงแสนอีกด้วย

                                                      ทีมงานเทศบาลกำแพงแสน

             แต่บริเวณรอบนอกอันเป็นบริเวณวัด มีเยาวชนคนหนุ่มคนสาว ลูกเด็กเล็กแดง เล่นสาดน้ำสงกรานต์ใส่กันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าวัฒนธรรมการรดน้ำจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังคงความประทับใจให้กับพี่น้องชาวกำแพงแสนเป็นอย่างยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมายหลายอย่างเช่น ไม่ได้ใช้ขันน้อยตักน้ำปรุงน้ำหอมและดอกไม้สีสวยรดที่ต้นคอสาว หากแต่เป็นการสาดด้วยขันใบโต หรือใช้ปืนอาก้าขนาดใหญ่ฉีดใส่กันและกันมันเขาละ 

สรงน้ำพระเอาสิริมงคลใส่ตัว

              ด้วยความก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้นจึงมีพี่น้องบรรทุกถังน้ำขนาด 200 ลิตร ตั้งบนกระบะรถ แล้วหนุ่มสาวกระทั่งเฒ่าซ่าก็มากับเขาด้วย เรียกว่ายกกันมาหมดบ้าน ใช้ขันตักสาดน้ำสู้กับรถคันอื่นๆ แทนการเดินเข้าหากัน จราจรจึงติดขัด แต่ก็ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ที่สำคัญเดี๋ยวนี้ทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถซาเล้ง ก็ประพฤติปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกันหมด เป็นวิวัฒนาการณ์อย่างหนึ่ง

พี่น้องชาวกำแพงแสนร่วมงานคับคั่ง

              ดินสอพองแต่เดิมใช้ทาหลังอาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้ใชละเลงกับน้ำในขันพลาสติกเพื่อใช้ควักทาหน้าในการเล่นสงกรานต์บ้านเรา เป็นอีกวิวัฒนาการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หนุ่มๆจะถือโอกาสนี้ใช้แป้งลูบแก้มสาวๆ สาวๆก็ทำในทำนองเดียวกันอีก กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่เปลี่ยนแปลงจนเป็นประเพณีไปแล้ว ทั่วประเทศตั้งแต่ในกรุงเทพมหานครไล่ไปจนทั่วแคว้นแดนไทย ก็เล่นกันอย่างนี้ สาวเอย หากรักนวลสงวนแก้มละก้อ อย่าได้ไปลงเล่นสงกรานต์ประเทศไทยเชียว

    

                                             มาทั้งครอบครัว สู้..สู้..สู้

             ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก็ยังน่าจะจัดให้มีการเล่นสงกรานต์ในช่วงเวลาเทศกาลอยู่ดี ก็ดีกว่าไม่เล่น แล้วเลิกไปเฉยๆ ประกอบกับการส่งเสริมให้เล่นสงกรานต์กันด้วยรูปแบบสมัยนี้ได้แผ่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว ยากที่จะปรับเปลี่ยนเวียนไปหาสิ่งเก่าๆ คงต้องปล่อยให้เป็นอีกมิติหนึ่งของการเล่นสงกรานต์สมัยใหม่ก็แล้วกัน

    

สงครามน้ำ..water festival war       

สงครามดินสอพอง..วัฒนธรรมใหม่

 

หล่อพิลึกกันไปหมด อิอิ

 

 

                     เตรียมสรรพาวุธเต็มพิกัด                                           อิ่มบุญหรือจ๊ะ

 

     

 ตามถนนหนทางมีให้เห็นเป็นระยะ

Tags : ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี Art&culture

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view