ลูกนอกไส้:มะม่วงหิมพานต์
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผลมะม่วงหิมพานต์
ขึ้นหัวเรื่องให้เห็นขำ ส่อเสียดนิดๆ ปัทโธ่เอ๋ย ที่แท้ก็เจ้ามะม่วงหิมพานต์ ต้นไม้จากประเทศบราซิล ที่เรียกชื่อกันตามภาษาโปรตุเกสว่า Caju หรือ cajueiro หรือ cashew nut มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anacardium occidentale L. (ชื่อวิทยาศาสตร์ต้องเขียนตัวเอียง ชื่อคนค้นพบเขียนตัวตรง) อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE (ชื่อวงศ์ต้องเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวตรง) มีชื่อสามัญมากมายหลายชื่อเช่นภาคใต้เรียกว่ากาหยู, กาหยี, ม่วงเม็ดล่อ,หัวครก,ยาร่วง ภาคเหนือเรียกว่า มะม่วงชูหน่วย,มะม่วงสิงหล,มะม่วงกาสอ (www.cashewthai.com)
เป็นไม้ต้นสูง 10-12 เมตร แตกกิ่งก้านไม่เป็นระเบียบ เปลือกนอกสีเทา เปลือกในสีชมพู ใบเดี่ยวเวียนสลับ รูปขอบขนาน ปลายมนโคนใบแหลม ผิวใบเป็นมัน ใบอ่อนสีสนิมเหล็ก กินได้ ใบยาว 4-22 ซม.กว้าง 2-15 ซม.ดอกช่อแบบPanicle กลีบดอกสีเขียวจนแก่จะสีแดง ปลายกลีบแหลม ผลรูปกลมรีหรือรูปถ้วย อ่อนสีเขียวแก่สีเหลืองหรือส้มแดง ซึ่งแท้ที่จริงเป็นก้านผลที่เจริญเป็นเนื้อรสเปรี้ยวกินได้ทั้งอ่อนและแก่ เน่าเร็ว เมล็ดโผล่ออกมานอกผลสีแดง รูปไต เนื้อในเมล็ดกินได้สีขาวนวล กินได้
คุณประโยชน์ ทางการก่อสร้างใช้เนื้อไม้แปรรูปผลิตกล่องใส่ของ เปลือกต้น แก้โรคท้องร่วง ปวดฟัน รำมนาด น้ำฝาดจากเปลือกย้อมผ้าและอวน เปลือกดองใช้แก้ความดันโลหิตสูงได้ น้ำเปลือกแก้เจ็บคอ กลั้วเป็นยาบ้วนปากได้ดี ใบแก่ตำพอกแผล ใบอ่อนกินเป็นผักสดแกล้มน้ำพริกแก้ท้องร่วง ผลเทียม คั้นน้ำผลกินแก้โรคกระเพาะ แก้อาเจียร ยาขับปัสสาวะ แก้โรคสมองเสื่อม บำรุงสมอง ยางจากเปลือกสีขาวแต่เมื่อสัมผัสอากาศจะเป็นสีดำเรียกมิลกี้ ใช้ทำน้ำมันขัดเงา หมึกพิมพ์ และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำมันจากเปลือกเมล็ดนำไปทำผ้าเบรค ผ้าครัช รถยนต์ได้ดีเยี่ยม ทนทานความร้อนสูง ส่วนน้ำมันจากเปลือกเมล็ดแก้โรคเหน็บชา เลือดคั่งในสมอง โรคเท้าช้าง มาเลเรีย ที่เล่ามานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเจ้าลูกนอกไส้ ถ้าเป็นลูกในไส้อาจเยี่ยมยิ่งกว่า อิอิ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วเกลืออร่อยอย่าบอกใคร กินแล้วอ้วนท้วนขึ้นเยอะเชียว โปรดอย่าเผลอไผล่ไปกินจนพุงกางก็แล้วกัน